“Festiwow Macao” อีเวนต์เล่นใหญ่ส่งท้ายปีของการท่องเที่ยวมาเก๊า เนรมิตเยาวราชผ่าน Light Mapping สัมผัสบรรยากาศและรสชาติเฉพาะตัวของมาเก๊า

0    198    0    28 ต.ค. 2567 14:50 น.   
แบ่งปัน
เนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปีของการส่งมอบมาเก๊าคืนสู่จีน การท่องเที่ยวมาเก๊าประจำประเทศไทย จัดงานใหญ่ส่งท้ายปี Festiwow Macao” งานเฉลิมฉลองใหญ่ในกรุงเทพฯ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 27 ตุลาคม 2567 โดยเลือกแลนด์มาร์กที่โดดเด่นอย่างเยาวราชมาใช้เป็นโลเคชันในการสร้างความประทับใจ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสบรรยากาศ และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองมาเก๊า

งานนี้ใช้ Food Tourism Marketing เป็นหัวใจหลักในการจัดงาน โดยนำอาหารมาใช้เป็นสื่อกลางในการเชิญชวนให้คนได้รู้จักกับวัฒนธรรมมาเก๊า เพราะอาหารเป็นสื่อที่สามารถสร้างความประทับใจและดึงดูดผู้คนได้อย่างดี ทั้งยังเป็นสิ่งที่สะท้อนวัฒนธรรมที่สั่งสมมาอย่างยาวนานของมาเก๊าได้อย่างเหมาะสม

ตลอด 5 วันของการจัดกิจกรรม เริ่มตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น. ของทุกวัน เนรมิตถนนเยาวราช บริเวณหน้าร้านรุ่งทรัพย์การท่องเที่ยวให้กลายเป็นเมืองมาเก๊า โดยเปลี่ยนพื้นที่ให้เป็นนิทรรศการ พร้อมจัดเต็มทั้งกิจกรรม อาหาร และการแสดงแสงสีเสียง เพื่อให้นักท่องเที่ยวไทยได้สัมผัสประสบการณ์ ลิ้มรสอาหารที่มีความโดดเด่น พร้อมชมสีสันของการแสดง Light Mapping ที่นำเสนอเสน่ห์และความน่าสนใจของมาเก๊าผ่านเอกลักษณ์ต่าง ๆ ที่จะทำให้เข้าใจว่า เพราะอะไรมาเก๊าจึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการท่องเที่ยวระยะใกล้ ซึ่งในปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางไปมากกว่า 28 ล้านคน โดยเฉพาะในช่วงปลายปีซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยวของมาเก๊า

ความน่าสนใจของมาเก๊าที่จะได้สัมผัสภายในงาน “Festiwow Macao” ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะนอกจากจะเป็นจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นหมุดหมายที่สำคัญในด้านธุรกิจ การจัดงานครั้งนี้จึงเป็นการนำเสนอจุดเด่นเรื่องนี้ด้วยการสร้างการรับรู้และเน้นความน่าสนใจถึงที่ โดยใช้กลยุทธ์ Local to Global Marketing ส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวด้วยการเนรมิตบริษัททัวร์อย่างร้านรุ่งทรัพย์ให้เป็นจุดท่องเที่ยวเป็นครั้งแรก เพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวและเพิ่มตัวเลขนักท่องเที่ยวในประเทศไทย

สิ่งที่ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับคือการสัมผัสประสบการณ์จริงของมาเก๊าผ่านเอกลักษณ์อันโดดเด่นอย่างอาหารและความเป็นเมืองแห่งแสงสี ซึ่งทางการท่องเที่ยวมาเก๊าประจำประเทศไทยเชื่อมั่นว่า การสร้างการมีส่วนร่วมให้กับผู้เข้าร่วมงานและการใช้ Destination Marketing ที่เป็นการโปรโมตจุดหมายปลายทางโดยตรง จะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับมาเก๊าและสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ได้มางานจนทำให้มาเก๊ากลายเป็นจุดหมายปลายทางที่อยู่ในใจนักท่องเที่ยวได้

สำหรับการแสดงแสงสีเสียง Macao Light Mapping ที่จะฉายภาพแลนด์มาร์กของมาเก๊าบนตึกใจกลางไชน่าทาวน์กรุงเทพฯ ที่จะมาสร้างสีสันและเติมชีวิตชีวาให้กับถนนเยาวราช จะจัดแสดงทุก 30 นาที โดยมีตารางการจัดแสดงดังนี้
- 19.00 น. – 19.05 น. / 19.30 น. – 19.35 น.
- 20.00 น. – 20.05 น. / 20.30 น. – 20.35 น.
- 21.00 น. – 21.05 น. / 21.30 น. – 21.35 น.

เรื่องอาหารที่เป็นไฮไลท์สำคัญอีกอย่างของงานนี้ การท่องเที่ยวมาเก๊าประจำประเทศไทยชูคอนเซปต์ Macao Taste ยกขบวนเมนูดังของมาเก๊าอย่างเริ่มต้นเดินทางกับขบวนเมนูเด็ดจากมาเก๊ามาไม่ว่าจะเป็น Pork Chop Bun (พอร์คชอป บัน), Minchi (มินจิ) และ Macao Egg Tart Gelato (ไอศกรีมทาร์ตไข่ซอสไข่เค็ม) นอกจากนี้ยังมีเชฟชื่อดังที่มาผลัดเปลี่ยนกันรังสรรค์เมนูต่าง ๆ สร้างรสชาติให้กับงานนี้ ได้แก่
- 23 ตุลาคม เชฟบิ๊ก ภริพรรษ (The Winner Stars Chef Thailand) เวลา 19.30 น. – 20.30 น.
- 24 19.30 – 20.30
- 25  19.30 – 20.30
 
ที่สำคัญ ภายในงานยังจัดกิจกรรมให้ผู้เข้าร่วมงานได้ร่วมสนุกเพื่อแลกรับความอร่อยได้ฟรี เพียงถ่ายภาพความประทับใจภายในงานและแชร์ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ตั้งค่าเป็นสาธารณะ พร้อมใส่แฮชแท็ก #FestiwowMacao และ #ExperienceMacao แล้วนำโพสต์มาแสดงหลักฐานเพื่อรับเมนูมาเก๊าฟรี 1 เมนู ตั้งแต่วันที่ 23 – 27 ตุลาคม 2567

อีกหนึ่งกิจกรรมที่สร้างความว้าวให้กับงานนี้ ได้แก่ Dance Challenge ที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ร่วมสนุกกับ Dance Challenge ของมาเก๊าได้ พร้อมลุ้นรับตั๋วเครื่องบิน เพียงโชว์สเต็ปการเต้นในเพลง “มามะมาเก๊า” บนช่องทาง TikTok พร้อมใส่แฮชแท็ก #FestiwowDanceChallenge ร่วมสนุกกับกิจกรรมนี้ได้ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม – 10 พฤศจิกายน 2567 ผู้ชนะ 2 ท่านจะได้รับรางวัลเป็นตั๋วเครื่องบินไป - กลับ กรุงเทพฯ – มาเก๊า ท่านละ 1 ที่นั่ง มูลค่า 24,000 บาทต่อรางวัล

และมากไปกว่านั้น ภายในงาน “Festiwow Macao” ยังจัดเต็มเรื่องโปรโมชันสุดคุ้ม ให้ผู้เข้าร่วมงานเพลิดเพลินไปกับส่วนลดราคาพิเศษ ทั้งตั๋วเครื่องบินและที่พักจาก Air Macau, AirAsia, Agoda, Traveloka และ LazTravel สำหรับผู้ที่สนใจเดินทางไปเที่ยวมาเก๊าในช่วงปลายปีนี้

สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและกิจกรรมสนุก ๆ ของการท่องเที่ยวมาเก๊าประจำประเทศไทย ได้ที่
เว็บไซต์ https://www.macaotourism.gov.mo/en/   เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/th.macaotourism และ Line Official Account @macaoth

#การท่องเที่ยวมาเก๊าประจำประเทศไทย #FestiwowMacao #ExperienceMacao
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์
Seafood from Norway Festival 2025 ป๊อปอัพสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมนำทุกท่านดำดิ่งสู่โลกแห่งอาหารทะเลจากน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาดของนอร์เวย์ ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสและสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง Seafood from Norway และผู้บริโภคชาวไทย ถ่ายทอดเรื่องราวของธรรมชาติ ผู้คน และอนาคตที่มีร่วมกัน พร้อมกิจกรรมโซนอินเทอร์แอคทีฟ ลิ้มลองเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และบูธจากพาร์ทเนอร์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 กันยายน 2568 เวลา 10.00–22.00 น. ณ EM MARKET ห้างสรรพสินค้า EMSPHERE กรุงเทพฯ
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก  ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เปิดนิทรรศการ “Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” หยิบซอสปรุงรสท้องถิ่นมาต่อยอดในมุมมองใหม่ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมที่กินได้” ร้อยเรียงเรื่องราวผ่าน 4 โซนนิทรรศการที่ชวนสำรวจทั้งวัฒนธรรมการกิน ภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านขวดซอส ลิ้มรสซอสไทย ที่ถูกครีเอตในรูปแบบใหม่ พร้อมมองโอกาสของเครื่องปรุงไทยที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยนิทรรศการดังกล่าวสามารถเข้าชมได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้จนถึง 23 พฤศจิกายน 2568 ณ Front Lobby ชั้น 1 TCDC กรุงเทพฯ