มีวนา กาแฟอินทรีย์รักษาป่า ภายใต้ บริษัท มีวนา จำกัด เปิดตัวแคมเปญ “มีวนา ปลูกมาจนโต..MiVana Living Together, Growing Together” เชิญชวนผู้บริโภคร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม “มีวนาชวนปลูก 10,000 ต้น” เพื่อรักษาป่าต้นน้ำและสิ่งแวดล้อม เพียงดื่มกาแฟอินทรีย์รักษาป่า มีวนา โดยทุกๆ 7 แก้ว จะเท่ากับการส่งต่อต้นกล้าให้ป่าต้นน้ำ 1 ต้น เริ่มตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2568 ที่ร้านมีวนา ทั้ง 3 สาขา และเมื่อสะสมต้นกล้าครบทุกๆ 1,000 ต้น มีวนาพร้อมมอบส่วนลดพิเศษ 15% เฉพาะเมนูกาแฟในวันถัดไป หลังจากประกาศผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียและสื่อหน้าร้านของมีวนา ทุกสาขา (ยกเว้นสาขาดอนเมือง)
 
บริษัท มีวนา จำกัด (ในเครือกลุ่มบริษัทพรีเมียร์) ผู้ดำเนินกิจการภายใต้แนวทางธุรกิจเพื่อสังคม ผลิตกาแฟอาราบิก้าด้วยระบบวนเกษตรอินทรีย์ ผู้ริเริ่มโครงการกาแฟอินทรีย์รักษาป่า แบรนด์มีวนา เพื่ออนุรักษ์ และฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของป่าต้นน้ำและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ป่าต้นน้ำแม่ลาว แม่สรวย และแม่กรณ์ พร้อมทั้งสนับสนุนและส่งเสริมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของเกษตรกร 7 หมู่บ้าน จังหวัดเชียงราย มากว่า 13 ปี และในการก้าวสู่ ปีที่ 14 ทางกาแฟมีวนาจึงได้จัดแคมเปญ “มีวนา ปลูกมาจนโต..MiVana Living Together, Growing Together” เพื่อเชิญชวนผู้บริโภคมาร่วมเป็นพลังขับเคลื่อนอนุรักษ์และฟื้นฟูผืนป่า ผ่านทุกแก้ว กาแฟอินทรีย์รักษาป่า มีวนา

จากปัญหาไฟป่าและฝุ่น PM 2.5 ซึ่งกำลังเป็นภัยอันตรายที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน โดยหนึ่งในสาเหตุหลักเนื่องมาจากการสูญเสียผืนป่า จนขาดสมดุลทางธรรมชาติ ทำให้ในปีนี้ มีวนาตั้งเป้าปลูกต้นกาแฟในป่าใหญ่ร่วมกับผู้บริโภคเพิ่มเติมอีก 10,000 ต้น ซึ่งในทุกๆ ปีก่อนหน้านี้ มีวนาจะปลูกกล้าไม้พันธุ์ต่างๆ จำนวนกว่า 100,000 ต้น ในพื้นที่ 7 หมู่บ้านตลอดมา ทั้งนี้ทุกท่านสามารถเข้าร่วมแคมเปญนี้ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2568 ที่มีวนาคอฟฟี่ ทั้ง 3 สาขา ได้แก่ มีวนาคอฟฟี่ แฟล็กชิพสโตร์ (ซอยศรีนครินทร์ 57 ข้างพาราไดซ์ พาร์ค), มีวนาคอฟฟี่ บ้านสาทร (ซอยนราธิวาสฯ 7) และมีวนาคอฟฟี่ สนามบินนานาชาติดอนเมือง (เทอร์มินอล 1 ชั้น 3 ตรงข้าม Gate 1-7)  และเมื่อสะสมต้นกล้าครบทุกๆ 1,000 ต้น มีวนาพร้อมมอบส่วนลดพิเศษ 15% เฉพาะเมนูกาแฟในวันถัดไป หลังจากการประกาศผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียและสื่อหน้าร้านของมีวนา ทุกสาขา (ยกเว้นสาขาสนามบินนานาชาติดอนเมือง)
 
มีวนา กาแฟอินทรีย์รักษาป่า เพิ่มพื้นที่ของไม้ร่มเงาและสร้างสมดุลคืนสู่ระบบนิเวศ
จากสถิติของกรมป่าไม้ พื้นที่ป่าในประเทศไทยมีทั้งสิ้น 31.47% ของพื้นที่โดยรวมทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่ป่า 101.8 ล้านไร่ ลดลงไปจากปี 2558 ที่มีอยู่ 102.24 ล้านไร่ จะเห็นว่าปัญหาพื้นที่ป่านั้นลดจำนวนลงทุกๆ ปี ทางมีวนาได้ตระหนักถึงปัญหานี้ที่จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง จึงเป็นที่มาของการเริ่มฟื้นฟูป่าต้นน้ำเชียงราย และเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการ “กาแฟอินทรีย์รักษาป่า มีวนา” โดยริเริ่มและส่งเสริมการปลูกกาแฟ ด้วยวิถีเกษตรอินทรีย์ภายใต้ร่มไม้ใหญ่ (Organic Shade Grown Forest Coffee) ขณะนี้มีเกษตรกรที่เข้าร่วมและเป็นสมาชิกโครงการฯ ทั้งสิ้น 223 ครัวเรือน จาก 7 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านขุนลาว, บ้านห้วยไคร้, บ้านห้วยคุณพระ, บ้านดอยช้าง, บ้านใหม่พัฒนา, บ้านผาแดงหลวง และ บ้านร่มเย็น  ครอบคลุมพื้นที่ป่าต้นน้ำ แม่ลาว, แม่สรวย และแม่กรณ์ ของจังหวัดเชียงราย โดยไม่จำเป็นต้องตัดไม้ทำลายป่า ที่ผ่านมามีวนาได้ทำ MOU ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อขออนุญาตให้เกษตรกรปลูกกาแฟอินทรีย์และใช้เป็นพื้นที่ทำกินให้กับสมาชิกเกษตรกรกาแฟมีวนา
 
ปัจจุบัน มีวนา มีพื้นที่ป่ากาแฟทั้งสิ้น 6,531 ไร่ และมีต้นกาแฟทั้งหมด 1.6 ล้านต้น โดยสมาชิกเกษตรกร มีวนา จะปลูกกาแฟด้วยวิถีวนเกษตรอินทรีย์ ควบคู่ไปกับการปลูกไม้ยืนต้นให้ร่มเงา และไม้เศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ ความหลากหลายทางชีวภาพ ให้ระบบนิเวศกลับมามีความสมดุลอีกครั้ง ที่สำคัญจะช่วยส่งผลในการลดปัญหาการเกิดไฟป่าและ ฝุ่น PM 2.5  และยังช่วยลดปัญหาน้ำท่วมจากน้ำป่าไหลหลาก เพราะมีต้นไม้ช่วยดูดซับน้ำไว้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเกษตรกรในพื้นที่ช่วยกันดูแลป่าต้นน้ำนี้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายส่งเสริมของมีวนา หลังจากพัฒนาโครงการร่วมกับเกษตรกรในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรมแล้ว มีวนาได้ร่วมมือกับสำนักพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (BEDO) เพื่อประเมินมูลค่าระบบนิเวศในพื้นที่ ซึ่งมีมูลค่ารวมถึง 555.47 ล้านบาท/ปี อันเนื่องมาจาก ‘โครงการกาแฟอินทรีย์รักษาป่า มีวนา’ ที่เป็นประโยชน์สำหรับมนุษย์ที่จะได้รับจากระบบนิเวศ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม จึงทำให้มีวนามีจุดยืนที่แตกต่างและชัดเจนในการเป็นแบรนด์กาแฟอินทรีย์รักษาป่า ที่ยังคงเดินหน้าปกป้องและฟื้นฟูผืนป่าต้นน้ำร่วมกับเกษตรกร 7 หมู่บ้าน เพื่อสร้างระบบนิเวศให้ คน สัตว์และป่า อยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุล เติบโตแบบยั่งยืน และมีความสุขไปด้วยกัน
 
แคมเปญ มีวนา ปลูกมาจนโต… MiVana Living Together, Growing Together
ชวนร่วมกิจกรรม “มีวนา ชวนปลูก 10,000 ต้น”
คุณดรรชนี คุณาวิชยานนท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท มีวนา จำกัด กล่าวถึง แคมเปญ มีวนา ปลูกมาจนโต… MiVana Living Together, Growing Together ว่า “แคมเปญนี้เกิดขึ้นมาจากการตระหนักถึงปัญหาจำนวนพื้นที่ป่าในประเทศไทยที่ลดลงทุกปี และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั่วทุกภาคของไทย ซึ่งจุดยืนของมีวนา มิใช่เป็นเพียงแค่ผู้ผลิตกาแฟอินทรีย์ แต่ยังให้ความสำคัญในการอนุรักษ์และฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของป่าต้นน้ำเป็นหลัก ในขณะเดียวกัน มีวนายังทำหน้าที่สนับสนุนและส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่มีความเป็นอยู่ที่ดี มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นด้วยการปลูกกาแฟอินทรีย์ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูผืนป่า โดยตลอดระยะเวลา 13 ปีที่ผ่านมา  มีวนามีส่วนร่วมในการเป็นตัวกลางเพื่อช่วยผลักดันและเชื่อมโยงระหว่างคนที่อยู่ต้นน้ำ คือ เกษตรกร และผู้บริโภคให้สามารถสื่อสารถึงกันได้ อีกทั้งมีความตั้งใจที่จะทำให้การปลูกป่าเป็นเรื่องที่ง่ายและใกล้ตัวขึ้นสำหรับทุกคน และด้วยแคมเปญนี้จึงส่งต่อไปยัง กิจกรรม “มีวนา ชวนปลูก 10,000 ต้น” โดยตั้งเป้าหมายในการปลูกต้นกาแฟเพิ่มขึ้น จำนวน 10,000 ต้น ภายในสิ้นปี 2568 เพื่อทดแทนต้นที่เสื่อมโทรมไป และปลูกพันธุ์ไม้อื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มร่มเงาให้กับป่าต้นน้ำอีก อย่างน้อย 10,000 ต้น ซึ่งที่ผ่านมามีวนาร่วมกับเกษตรกร 7 หมู่บ้าน ปลูกต้นกล้าในทุกๆ ปีกว่าหนึ่งแสนต้น  และในปีนี้ ทางมีวนามีความตั้งใจเชิญชวนทุกท่านเข้าร่วมกิจกรรมนี้ผ่านทุกแก้วกาแฟอินทรีย์รักษาป่า มีวนา เพียงแค่ดื่มกาแฟอินทรีย์รักษาป่า มีวนา ทุกๆ 7 แก้ว จะเป็นการส่งต่อต้นกล้าให้ป่าต้นน้ำ 1 ต้น เท่ากับทุกคนจะมีส่วนร่วมในการปลูกป่า ซึ่งหากทุกคนร่วมใจกันช่วยปลูกต้นไม้ และดูแลผืนป่าในประเทศไทย ก็สามารถสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืน และสามารถส่งต่อผืนป่าสมบูรณ์ให้รุ่นลูกรุ่นหลานของเราต่อไปได้”

“กาแฟมีวนา เป็นแบรนด์กาแฟอินทรีย์ของคนไทย ที่เป็นมากกว่ากาแฟ  เราจึงอยากส่งต่อเรื่องราวที่มีคุณค่าเหล่านี้ให้เป็นที่รับรู้ โดยมุ่งหวังที่จะขยายผลกระทบเชิงบวกด้านความยั่งยืน (Positive Impacts of Sustainability) จากผู้บริโภคในวงกว้างขึ้น และถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เรื่องราวของกาแฟมีวนา จะถูกถ่ายทอดโดยคนรักป่า ทั้ง 2 ท่าน คือ คุณเชอรี่ เข็มอัปสร สิริสุขะ ในบทบาทของนักอนุรักษ์ธรรมชาติ และคุณโจโฉ ยูทูปเปอร์สายเดินป่าชื่อดัง มาช่วยถ่ายทอดเรื่องราวของเกษตรกรกาแฟอินทรีย์ มีวนาทั้ง 7 หมู่บ้าน เพื่อสะท้อนถึงวิถีชีวิตและมุมมองของเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟอินทรีย์ใต้ร่มเงาป่า การถ่ายทอดเรื่องราวความผูกพันของเกษตรกรกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายส่งเสริมของมีวนาที่คอยให้การสนับสนุนและให้คำแนะนำเรื่องวิถีวนเกษตรอินทรีย์ และพันธุ์พืชอื่นๆ ที่มีวนาร่วมพัฒนาไปพร้อมๆ กับเกษตรกรในพื้นที่ ด้วยมุมมองตามสไตล์การเล่าเรื่องของแต่ละท่าน  นอกจากนี้เรายังอยากให้ผู้บริโภคได้รับรู้ถึงแหล่งที่มาของเมล็ดกาแฟทุกเมล็ด รู้จักคนปลูก และอยากให้รับรู้ถึงความเอาใจใส่ ซึ่งทั้งหมดนี้ คือความแตกต่างของแบรนด์ กาแฟอินทรีย์รักษาป่ามีวนา ที่นอกเหนือจากตราออร์แกนิก ที่ได้รับรองมาตรฐาน IFOAM และ USDA โดยเราจะนำเสนอเรื่องราวจากทั้ง 7 หมู่บ้าน ซึ่งถ่ายทอดผ่านทั้ง 2 ท่านนี้ ให้ผู้บริโภคได้ทำความรู้จักแต่ละหมู่บ้านมากยิ่งขึ้น เดือนละหมู่บ้าน จนครบ 7 เดือน สามารถติดตามได้ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของมีวนาทั้งในร้านและเพจ MiVana Organic Forest Coffee รวมถึงช่องทางโซเชียลมีเดียของ คุณเชอร์รี่ เข็มอัปสร และคุณโจโฉ ” คุณดรรชนี กล่าวปิดท้าย

นอกจากนี้ มีวนา ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรม “กอดป่า Challenge” ที่อยากเชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมถ่ายภาพ “กอดต้นไม้ในแบบฉบับของคุณ พร้อมข้อความเชิญชวนปลูกป่า” และส่งมาที่ Facebook ของมีวนา โดยกิจกรรมนี้ จะเริ่มขึ้นในวันที่ 16 มิถุนายน – 31 สิงหาคม 2568 และจะประกาศผู้โชคดีต้นเดือนกันยายน 2568 พร้อมลุ้นรางวัลพิเศษจากกาแฟมีวนา และร่วมทริปปลูกป่ากับกาแฟมีวนา ที่จังหวัดเชียงรายจำนวน 4 ท่าน 

โดยมีวนาขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนและมีส่วนร่วมช่วยกันฟื้นฟูผืนป่าไปด้วยกัน ผ่านทุกแก้วกาแฟอินทรีย์รักษาป่า มีวนา ซึ่งสามารถติตามรายละเอียด แคมเปญ “มีวนา ปลูกมาจนโต… MiVana Living Together, Growing Together”  และข้อมูลผลิตภัณฑ์กาแฟอินทรีย์รักษาป่า มีวนา ได้ที่เพจ MiVana Organic Forest Coffee
 
#มีวนา #MiVana #กาแฟอินทรีย์รักษาป่ามีวนา #มีวนาปลูกมาจนโต #มีวนาชวนปลูก10000ต้น #MiVanaLivingTogetherGrowingTogether #กอดป่าChallenge