CP-CPF ผนึกพลังเพิ่มพื้นที่สีเขียว 'ปลูกจำปาป่า" ในโครงการ "ซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง"

0    2,090    0    21 เม.ย. 2565 16:42 น.   
แบ่งปัน

CP-CPF ผนึกพลังเพิ่มพื้นที่สีเขียว 'ปลูกจำปาป่า" ในโครงการ "ซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง"

   CP-CPF ร่วมอนุรักษ์และฟื้นฟูป่า "โครงการซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง" จ.ลพบุรี เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ไทย 6,971 ไร่ เป็นต้นแบบการฟื้นฟูผืนป่า สร้างความหลากหลายทางชีวภาพ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สร้างงาน สร้างอาชีพ สู่ชุมชน พร้อมร่วมปลูกต้นจำปาป่า-ปล่อยปลา 1 แสนตัว มุ่งสร้างความมั่นคงทางอาหาร

นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการเครือซีพี-ซีพีเอฟ ลงพื้นที่ จ.ลพบุรี ลงพื้นที่โครงการ "ซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง" ที่เกิดจากความร่วมมือ 3 ประสาน ได้แก่ กรมป่าไม้ ชุมชนรอบเขาพระยาเดินธง และ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ซึ่งเป็นต้นแบบและแหล่งเรียนรู้การปลูกป่าและฟื้นฟูป่าในพื้นที่อื่นๆ ของไทย โดยมี คณะผู้บริหารระดับสูงของซีพี-ซีพีเอฟ อาทิ นายอดิเรก ศรีประทักษ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร, นายพงษ์ วิเศษไพฑูรย์ รองประธานคณะกรรมการบริหาร, นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร  ซีพีเอฟ  และยังได้รับเกียรติจาก มล.อนุพร เกษมสันต์ รองกงสุลกิตติมศักดิ์รัสเซีย, นายศิริชัย มาโนช ที่ปรึกษาอาวุโส เครือซีพี ตลอดจน นายสุรพล กลิ่นพันธุ์ ผอ.ส่วนส่งเสริมการปลูกป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 สระบุรี, นายถนอมพงษ์ สังข์ธูป หัวหน้าโครงการเขาพระยาเดินธง ชุมชน และคณะทำงานยุทธศาสตร์ ซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง ร่วมกิจกรรมด้วย

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า โครงการ ซีพีเอฟ รักษ์นิเวศฯ เป็นความภูมิใจและเป็นความมุ่งมั่นของเครือ CP-CPF ที่มีส่วนร่วมอนุรักษ์และฟื้นฟูผืนป่า ซึ่งในวันนี้ท่านประธานสุภกิต เจียรนนท์ และคณะผู้บริหารได้มาติดตามความคืบหน้าการฟื้นฟูป่าจากที่ดำเนินการในระยะแรก (2559-2563) ช่วยพลิกฟื้นสภาพป่าที่มีสภาพรกร้างสู่ป่าที่อุดมสมบูรณ์ 5,971 ไร่ และในระยะที่ 2 (2564-2568) บริษัทฯ มีแผนอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าเพิ่มเติมอีก 1,000 ไร่ และดูแลผืนป่าแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะถือเป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญอีกแห่งหนึ่งของไทย และเชื่อมโยงกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เป็นต้นแบบที่กรมป่าไม้จะนำไปพัฒนาผืนป่าพื้นที่อื่นๆ ของประเทศ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้อนุรักษ์ฟื้นฟูป่าสำหรับหน่วยงานราชการ และภาคเอกชนอื่นๆ ต่อไป

“สิ่งที่สำคัญของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน สามารถทำให้บริษัทฯ สังคม สิ่งแวดล้อม เติบโตอย่างสอดคล้องไปด้วยกัน โครงการนี้เป็นความตั้งใจของ เครือ CP-CPF ที่ทำประโยชน์ให้กับสังคม และประเทศ” นายประสิทธิ์ กล่าว

สำหรับกิจกรรมในวันนี้ CPF ได้รับความอนุเคราะห์จากที่ปรึกษาอาวุโส เครือ CPF มอบต้นจำปาป่า 1,000 ต้น เพื่อนำไปปลูกเพิ่มเติมในพื้นที่ของโครงการฯ, กิจกรรมปล่อยปลา 1 แสนตัว เพื่อเป็นแหล่งอาหารของชุมชนโดยรอบ พร้อมทั้งเยี่ยมชมโรงเพาะชำกล้าไม้ แหล่งรวบรวมเมล็ดพันธุ์ไม้ป่าในโครงการฯ นำมาเพาะอนุบาลให้เป็นกล้าที่แข็งแรง ซึ่ง CPF ได้จ้างงานชุมชนติดตามดูแลต้นไม้ในพื้นที่ การเพาะกล้าไม้ กำจัดวัชพืช ฯลฯ เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพสู่ชุมชน นอกจากนี้ ยังชมแปลงปลูกป่าพิถีพิถัน ซึ่งปลูกในปี 2560 และเตรียมขึ้นทะเบียนโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของไทย (T-VER) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก.

นายสุรพล กลิ่นพันธุ์ ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการปลูกป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 สระบุรี กล่าวว่า  CPF เข้ามาช่วยฟื้นฟูผืนป่าเขาพระยาเดินธงในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ระบบนิเวศเปลี่ยนแปลงไป ความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่ากลับคืนมา มีแหล่งน้ำเพิ่มขึ้น ชาวบ้านมีแหล่งอาหาร สามารถเป็นต้นแบบอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าในหลายพื้นที่ จากการที่ซีพีเอฟได้นำรูปแบบต่างๆ มาใช้ รวมทั้งประสานความร่วมมือกับนักวิชาการเข้ามาช่วยจนได้ผืนป่ากลับคืนมา ซึ่งกรมป่าไม้จะใช้โครงการนี้เป็นต้นแบบในการฟื้นฟูป่า ขอขอบคุณ CPF ที่เข้ามาสนับสนุนการดำเนินงานของกรมป่าไม้สู่เป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติในการเพิ่มพื้นที่สีเขียว

CPF ดำเนินโครงการ “ซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง” มาตั้งแต่ปี 2559 โดยผลสำเร็จจากการดำเนินการระยะที่ 1 (ปี 2559 -2563) ช่วยอนุรักษ์และฟื้นฟูป่า รวม 5,971 ไร่ ช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ ทั้งพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินโครงการระยะที่ 2 (ปี 2564 -2568) เพิ่มเติมอีก 1,000 ไร่ รวมเป็น 6,971 ไร่ ต่อยอดจากการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่า สู่การสร้างความมั่นคงทางอาหารระดับชุมชน ส่งเสริมชุมชนปลูกผักปลอดภัยไว้บริโภคเองและนำไปจำหน่ายในตลาด และสนับสนุนชุมชนจัดทำโครงการเพาะพันธุ์และอนุบาลปลา ทำให้หลายครัวเรือนมีรายได้เพิ่มขึ้น

เครือ CP-CPF ตระหนักถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม ดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน และในโอกาสที่เครือ CP ก้าวสู่การดำเนินงานครบรอบ 100 ปี มุ่งมั่นทำกิจกรรมต่างๆ ตามปรัชญา 3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืน คือ ประโยชน์ต่อประเทศ ประชาชน และบริษัทฯ เป็นลำดับสุดท้าย
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์
Seafood from Norway Festival 2025 ป๊อปอัพสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมนำทุกท่านดำดิ่งสู่โลกแห่งอาหารทะเลจากน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาดของนอร์เวย์ ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสและสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง Seafood from Norway และผู้บริโภคชาวไทย ถ่ายทอดเรื่องราวของธรรมชาติ ผู้คน และอนาคตที่มีร่วมกัน พร้อมกิจกรรมโซนอินเทอร์แอคทีฟ ลิ้มลองเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และบูธจากพาร์ทเนอร์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 กันยายน 2568 เวลา 10.00–22.00 น. ณ EM MARKET ห้างสรรพสินค้า EMSPHERE กรุงเทพฯ
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก  ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เปิดนิทรรศการ “Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” หยิบซอสปรุงรสท้องถิ่นมาต่อยอดในมุมมองใหม่ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมที่กินได้” ร้อยเรียงเรื่องราวผ่าน 4 โซนนิทรรศการที่ชวนสำรวจทั้งวัฒนธรรมการกิน ภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านขวดซอส ลิ้มรสซอสไทย ที่ถูกครีเอตในรูปแบบใหม่ พร้อมมองโอกาสของเครื่องปรุงไทยที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยนิทรรศการดังกล่าวสามารถเข้าชมได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้จนถึง 23 พฤศจิกายน 2568 ณ Front Lobby ชั้น 1 TCDC กรุงเทพฯ