ซีพีเอฟ ยกระดับมาตรฐานการผลิตเนื้อไก่-ไข่ไก่ เน้นย้ำความปลอดภัย ปลอดสาร ปลอดเชื้อ เพื่อผู้บริโภค

0    1,987    0    23 พ.ค. 2565 17:06 น.   
แบ่งปัน

ซีพีเอฟ ยกระดับมาตรฐานการผลิตเนื้อไก่-ไข่ไก่ เน้นย้ำความปลอดภัย ปลอดสาร ปลอดเชื้อ เพื่อผู้บริโภค

   โดย น.สพ.พยุงศักดิ์ สมยานนทนากุล รองกรรมการผู้จัดการ ด้านมาตรฐานฟาร์มและข้อกำหนดลูกค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ

“คุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร” กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของผู้บริโภคในการนำมาประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อหาอาหารเพื่อบริโภคได้อย่างมั่นใจ ยิ่งในยุคที่คนทั้งโลกต้องเผชิญหน้ากับปัญหาโรคโควิด-19 การมีสุขภาพดีเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ

ทั้งสองเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ซีพีเอฟ ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ทุกผลิตภัณฑ์อาหารของบริษัทจึงผ่านกระบวนการผลิตโดยใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด ด้วยโมเดลธุรกิจผลิตอาหารแบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำไปถึงปลายน้ำ “จากฟาร์มสู่โต๊ะอาหารของผู้บริโภค” จึงเป็นข้อดีที่บริษัทสามารถควบคุมและตรวจสอบย้อนกลับคุณภาพและสุขอนามัยความปลอดภัยอาหารของวัตถุดิบตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิต ขณะเดียวกันยังประยุกต์ใช้การบริหารระดับสากลและระบบมาตรฐานที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย ซึ่งครอบคลุมทั้งด้านวิถีชุมชน สิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์พลังงาน รวมไปถึงการตรวจสอบย้อนกลับแบบดิจิทัลสำหรับการผลิตอาหารของซีพีเอฟ (CPF Digital Traceability)

เริ่มตั้งแต่ระดับต้นน้ำที่ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีก โดยฟาร์มทุกแห่งของบริษัทฯ และฟาร์มของเกษตรกรในโครงการส่งเสริมอาชีพฯ หรือคอนแทคฟาร์ม มุ่งเน้นการนำหลักการ “สุขภาพหนึ่งเดียว” (One Health) มาใช้ในการเลี้ยงสัตว์ ควบคู่กับการยึดหลักมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) ด้วยหลักอิสระ 5 ประการ มุ่งเน้นให้สัตว์มีสุขภาพดีเป็นหลัก ให้สัตว์ได้รับน้ำและอาหารอย่างเพียงพอ อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี สามารถแสดงพฤติกรรมของสัตว์ได้ตามธรรมชาติ และเมื่อเจ็บป่วยได้รับการดูแลอย่างถูกต้องและเหมาะสมตามหลักวิชาการ รวมทั้ง การใช้ยาต้านจุลชีพอย่างรับผิดชอบและสมเหตุผล เพื่อการรักษาเฉพาะกรณีที่สัตว์ป่วยเท่านั้น โดยอยู่ภายใต้การดูแลและควบคุมโดยสัตวแพทย์ มีมาตรการตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการเพื่อมั่นใจว่าเนื้อไก่ปลอดภัยจากสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อการบริโภค ก่อนส่งเข้ากระบวนการผลิตเพื่อแปรรูปต่อไป

สำหรับขั้นตอนการเลี้ยงไก่เนื้อเริ่มต้นที่การนำลูกไก่จากแหล่งฟาร์มพ่อแม่พันธุ์ที่มีสุขภาพแข็งแรง มีอายุไข่ที่เหมาะสม มีการฆ่าเชื้อไข่ฟัก การจัดการโรงฟักที่ดี มีระบบป้องกันโรค (Biosecurity) ที่เข้มงวด มีการล้างทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรงเรือนก่อนนำไก่เข้าเลี้ยง มีกระบวนการตรวจสอบเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับแกลบหรือวัสดุที่ใช้รองพื้น ต้องดูแลอุณหภูมิและการระบายอากาศในโรงเรือนเหมาะสมระหว่างการเลี้ยง  มีการเก็บอาหารสัตว์ในที่มิดชิดป้องกันสัตว์พาหะและสิ่งปนเปื้อน มีระบบการตรวจสอบที่เข้มงวด ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเลี้ยงที่ปลอดภัย ปลอดสาร และปลอดเชื้อ

โดยเน้นย้ำขั้นตอนการปฏิบัติที่เป็นยี่ยม(Best practice)ของฟาร์ม ที่ให้ความสำคัญ ”การป้องกันดีกว่าการแก้ไข” มีระบบป้องกันโรคและหลักสุขอนามัยที่ดี ด้วยวิธีการเพิ่มแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเช่น โพรไบโอติก (Probiotic) เพื่อลดโอกาสของแบคทีเรียก่อโรคเข้าสู่ตัวไก่ มุ่งเน้นการเสริมความสามารถในการย่อยและดูดซึมอาหารของไก่เนื้อ จัดเป็นเครื่องมือสำคัญต่อการป้องกันดูแลสุขภาพไก่อย่างดีที่สุด เพื่อไม่ให้ไก่มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ผลที่ได้รับก็คือลดความเสี่ยงต่อเชื้อก่อโรคที่เป็นอันตรายเช่น อีโคไล ซาลโมเนลล่า หรือ คลอสตริเดียม เป็นการป้องกันทุกวิถีทางไม่ให้ไก่มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อใดๆ ทำให้ไก่ไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะอย่างพร่ำเพรื่อ และสามารถดำรงสุขภาพอย่างแข็งแรงได้ตั้งแต่เริ่มเลี้ยง กระทั่งเข้าสู่โรงงานแปรรูป

ด้วยความใส่ใจต่อผู้บริโภค สัตวแพทย์ผู้ควบคุมฟาร์มของบริษัทจะมีมาตรการตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการเพื่อมั่นใจว่าเนื้อไก่ปลอดภัยจากยาปฏิชีวนะตกค้าง แบคทีเรียที่เป็นอันตรายต่อการบริโภคและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ อีกทั้งยังมีเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ภาครัฐ ควบคุมกำกับดูแลตรวจสอบความปลอดภัยอาหารจากเชื้อก่อโรคที่ได้กำหนดไว้ โดยกรมปศุสัตว์และประเทศคู่ค้าที่สำคัญ  ทั้งสหภาพยุโรป (อียู) ญี่ปุ่น และตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นประเทศที่มีความเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยของอาหารสูงมาก

สำหรับฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ของบริษัท ก็ดำเนินการภายใต้ระบบมาตรฐานเช่นกัน โดยไข่ไก่สดซีพี ทุกฟองใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอนการผลิตที่มีคุณภาพและมีมาตรฐานสากล โดยเฉพาะ "ความสดใหม่" ที่สามารถตรวจวัดได้ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ไข่ไก่ทุกฟองที่เข้าสู่กระบวนการของโรงคัดไข่ ต้องเป็นไข่สดคุณภาพจากฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ที่มีมาตรฐานการเลี้ยงระดับสูง ตามข้อกำหนดของบริษัท และได้มาตรฐานฟาร์มของกรมปศุสัตว์ มีการควบคุมอุณหภูมิตั้งแต่รับไข่ไก่เข้ากระบวนการ จนกระทั่งส่งออกจากโรงคัดไข่สู่มือผู้บริโภค โดยทุกจุดอยู่ภายใต้มาตรฐานตรวจสอบความสด และเมื่อผ่านเกณฑ์ทั้งหมด ไข่ไก่จะถูกนำเข้าสู่ขั้นตอนการทำความสะอาดด้วยน้ำ โดยไม่ใช้น้ำวน ระหว่างลำเลียงจะมีการใช้ "เลเซอร์สแกนสิ่งผิดปกติ" ที่เกิดขึ้นภายในฟองไข่ เช่น จุดเลือด จุดเนื้อ ซึ่งถือเป็นรายแรกของเมืองไทยที่นำเทคโนโลยีนี้มาใช้

ที่สำคัญ ซีพีเอฟเป็นบริษัทแรกของไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่แบบไม่ใช้กรงจากกรมปศุสัตว์ ยังมีแนวทางปรับเปลี่ยนการเลี้ยงไก่ไข่สู่การเลี้ยงแบบไม่ใช้กรง "Cage Free Egg” อย่างต่อเนื่อง โดยยึดตามหลักอิสรภาพสัตว์ 5 ประการ (Five Freedoms of Animals) แม่ไก่มีความเป็นอยู่ในสภาวะที่เหมาะสม  มีสุขอนามัยที่ดี  มีที่อยู่สะดวกสบาย ได้รับอาหาร-น้ำอย่างเพียงพอ และแม่ไก่สามารถแสดงพฤติกรรมได้ตามธรรมชาติ  สอดรับกับนโยบาย "สวัสดิภาพสัตว์" ของซีพีเอฟ ที่มุ่งมั่นยึดแนวทางการเลี้ยงสัตว์อย่างรับผิดชอบและมีจริยธรรมตามมาตรฐานสากล โดยมุ่งเน้นทำให้สัตว์มีความสุขสบายตลอดการเลี้ยง เพื่อส่งมอบอาหารปลอดภัยสู่ผู้บริโภคด้วยความรับผิดชอบ สิ่งสำคัญคือ ไม่ใช้ฮอร์โมนเร่งการเติบโตและปลอดภัยจากยาปฏิชีวนะ 100%  นอกจากนี้การเลี้ยงในโรงเรือนระบบปิด (EVAP) ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ ให้อาหาร-น้ำเพียงพอและเหมาะสม ยังควบคู่กับการควบคุมและป้องกันโรคที่เข้มงวด มีการจัดการระบบสุขาภิบาลภายในฟาร์มที่ดี ป้องกันพาหะนำโรค เช่น หนู จิ้งจก แมลง รวมถึงการปนเปื้อนทางสิ่งแวดล้อม โดย “ผลิตภัณฑ์ไข่ไก่เคจฟรีของซีพีเอฟ” ได้รับการตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการอย่างสม่ำเสมอว่าปลอดเชื้อซัลโมเนลล่าก่อนส่งมอบสู่ผู้บริโภค เพื่อให้ได้ไข่ไก่ที่มีคุณภาพและปลอดภัยอาหาร

ด้วยความใส่ใจและพิถีพิถันในทุกๆขั้นตอนการผลิตเช่นนี้ ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่าทั้งเนื้อไก่และไข่ไก่คุณภาพของซีพีเอฟ สด สะอาด ปลอดภัย อย่างแท้จริง
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์
Seafood from Norway Festival 2025 ป๊อปอัพสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมนำทุกท่านดำดิ่งสู่โลกแห่งอาหารทะเลจากน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาดของนอร์เวย์ ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสและสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง Seafood from Norway และผู้บริโภคชาวไทย ถ่ายทอดเรื่องราวของธรรมชาติ ผู้คน และอนาคตที่มีร่วมกัน พร้อมกิจกรรมโซนอินเทอร์แอคทีฟ ลิ้มลองเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และบูธจากพาร์ทเนอร์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 กันยายน 2568 เวลา 10.00–22.00 น. ณ EM MARKET ห้างสรรพสินค้า EMSPHERE กรุงเทพฯ
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก  ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เปิดนิทรรศการ “Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” หยิบซอสปรุงรสท้องถิ่นมาต่อยอดในมุมมองใหม่ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมที่กินได้” ร้อยเรียงเรื่องราวผ่าน 4 โซนนิทรรศการที่ชวนสำรวจทั้งวัฒนธรรมการกิน ภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านขวดซอส ลิ้มรสซอสไทย ที่ถูกครีเอตในรูปแบบใหม่ พร้อมมองโอกาสของเครื่องปรุงไทยที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยนิทรรศการดังกล่าวสามารถเข้าชมได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้จนถึง 23 พฤศจิกายน 2568 ณ Front Lobby ชั้น 1 TCDC กรุงเทพฯ