เซ็นทรัล รีเทล ปลื้ม CMG ฉลองความสำเร็จปี 2566 ยอดขายโตสตรอง 28% พร้อมเดินหน้าสร้างสถิติใหม่ในปี 2567 ยืนหนึ่งวงการแฟชั่นรีเทลไทย

0    82    0    20 มี.ค. 2567 13:50 น.   
แบ่งปัน

บริษัท เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป จำกัด (CMG) ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายและบริหารแบรนด์สินค้าชั้นนำระดับโลกกว่า 30 แบรนด์ในประเทศไทย ครอบคลุมกลุ่มสินค้าแฟชั่น ความงาม และเทคโนโลยี ประกาศความสำเร็จแบบนิวไฮในปี 2566 ด้วยยอดขายเติบโตขึ้นถึง 28% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งมาจากความแข็งแกร่งในการบริหารแบรนด์หลักในพอร์ตโฟลิโอ,  การทำการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า, ความเป็นเลิศในการบริหารจัดการร้านค้า และการพัฒนาแพลตฟอร์มออมนิแชแนลที่เชื่อมทุกช่องทางการขายเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ ทั้งแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โซเชียลมีเดีย และหน้าร้าน โดยในปี 2567 นี้ CMG เตรียมเขย่าวงการแฟชั่นรีเทลไทยอีกครั้ง ด้วยงบลงทุนกว่า 7,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าดันยอดขาย CMG ให้เติบโตก้าวกระโดดอีก 20% ในปีนี้
 
คุณเอ็ดวิน ยัป ฮอสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด (CMG) ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “ความมุ่งมั่นของ CMG คือ การเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งในธุรกิจแฟชั่นรีเทลที่สามารถส่งมอบแบรนด์ที่ดีที่สุดระดับโลกและสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ดีที่สุดให้กับคนไทย ผ่านแพลตฟอร์มออมนิแชแนลที่ครบวงจร และเชื่อมช่องทางออฟไลน์และออนไลน์เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงแบรนด์ของเราได้ทุกช่องทางอย่างสะดวกสบายและไร้รอยต่อ รวมถึงเรายังมุ่งมั่นในการเป็นองค์กรสุดยอดนายจ้างที่ทุกคนอยากร่วมงานด้วย เพราะหัวใจที่สำคัญที่สุดในการดำเนินธุรกิจของ CMG ก็คือ การส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า แบรนด์ และทีมงานของเราทุกคน”
 
สำหรับปี 2566 ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่สร้างปรากฎการณ์ความสำเร็จให้กับ CMG สามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกสถานการณ์ ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินงานตามแผนที่วางไว้ได้อย่างครอบคลุม ทั้งการปรับปรุง เพิ่มประสิทธิภาพ และพัฒนาธุรกิจในหลากหลายมิติ ดังนี้
 
1. ความเป็นเลิศในการบริหารจัดการร้านค้า – ในปี 2566 CMG ได้เสริมแกร่งจุดขายออฟไลน์ด้วยการเปิดหน้าร้านใหม่กว่า 180 จุด ทำให้มีจุดขายในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าในประเทศไทยรวมกว่า 2,200 แห่ง และยังริเริ่มนำเทคโนโลยี AI มาใช้วิเคราะห์ร้านค้าชั้นนำของบริษัทฯ เพื่อติดตามการดำเนินงานในร้านค้าและผลักดันการปรับปรุงการให้บริการลูกค้าอย่างจริงจัง และด้วยปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ CMG มียอดการปิดการขาย และความพึงพอใจของลูกค้าเพิ่มขึ้น พร้อมวางแผนที่จะขยายการใช้ระบบ AI สู่ร้านค้าอื่น ๆ ในเครือเพิ่มมากขึ้นในปี 2567
2. แพลตฟอร์มออมนิแชแนลแบบ 360 องศา – CMG ได้เปิดตัว 2 เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซใหม่ สำหรับจำหน่ายแบรนด์ Casio และ MLB ในปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งขยายจุดขายให้กับแบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอสู่แพลตฟอร์ม Central Online และแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Lazada, Shopee และ Tiktok นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้ยกระดับช่องทาง Omnichannel ให้ดียิ่งขึ้น และพัฒนากลยุทธ์การตลาดดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ CMG มียอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงแคมเปญออนไลน์ Double-Digit ในปี 2566
3. การขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ – CMG โฟกัสการทำการตลาดแบบ CRM ที่ขับเคลื่อนด้วย
บิ๊กดาต้า โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายฐานลูกค้ารายใหม่ผ่านทุกช่องทางที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงแบรนด์สินค้าได้ ซึ่งปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้จัดทำแคมเปญการตลาดไปแล้วมากกว่า 1,200 แคมเปญ ส่งผลให้มีจำนวนลูกค้าใหม่มากกว่า 1,000,000 ราย และมีผู้ติดตามมากกว่า 7.7 ล้านคนบนช่องทางโซเชียลมีเดีย
4. การขยายแบรนด์ใหม่ๆ – CMG ไม่เคยหยุดนิ่งในการเพิ่มแบรนด์ใหม่ระดับโลกเข้ามาในพอร์ตโฟลิโอ ในขณะเดียวกันก็เสริมแกร่งความสัมพันธ์ และสร้างความร่วมมือกับแบรนด์ที่มีอยู่เดิมในพอร์ตให้แข็งแรงยิ่งขึ้น โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เพิ่มแบรนด์ชั้นนำต่างๆ เข้ามาในพอร์ตโฟลิโอ อาทิ CROCS และ FILA รวมถึงได้เป็นพันธมิตรค้าปลีกกับแบรนด์ SKECHERS และจัดให้มีวางจำหน่ายในทุกสาขาของศูนย์การค้าในเครือเซ็นทรัล พัฒนาและห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล นอกจากนี้ CMG ยังได้เปิดตัวแบรนด์ L:A BRUKET ซึ่งเป็นแบรนด์ความงามออร์แกนิกสัญชาติสวีเดน เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นของลูกค้าชาวไทยในด้านการดูแลผิวพรรณและมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว
5. องค์กรที่มีความพร้อมมุ่งสู่อนาคต – หัวใจสำคัญของความสำเร็จของ CMG มาจากพนักงานทุกคน บริษัทฯ จึงมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาบุคลากรภายในองค์กรให้มีศักยภาพ และมีการ Reskill - Upskill อยู่เสมอ โดยเริ่มตั้งแต่การฝึกอบรมในร้านค้า การเทรนนิ่งเฉพาะบุคคล ไปจนถึงโปรแกรมส่งเสริมการเติบโตในสายอาชีพ ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลให้ CMG ได้รับรางวัล “สุดยอดนายจ้างดีเด่นปี 2566” ติดต่อกัน 5 ปีซ้อนจากเวที Kincentric Thailand สะท้อนให้เห็นถึงการเป็นองค์กรที่มีความพร้อม และได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วน

"ในปี 2567 นี้ CMG จะยังคงมุ่งหน้ายกระดับธุรกิจ และสร้างมาตรฐานที่เหนือกว่าให้กับวงการรีเทลไทย ด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง AI analytics และระบบอัตโนมัติ มาช่วยในการดำเนินงานด้านต่าง ๆ อาทิ การปรับปรุงกระบวนการทำงานของพนักงาน, การให้บริการลูกค้าที่หน้าร้าน, แพลตฟอร์มออมนิแชแนล และการเพิ่มประสิทธิภาพด้าน CRM โดยเรามุ่งมั่นที่จะเร่งพัฒนานวัตกรรมให้ครอบคลุมรอบด้าน พร้อมทั้งตอบสนองความต้องการ ของลูกค้าในกลุ่มสินค้าแฟชั่นและความงามที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นให้ได้ดีที่สุด นอกจากนี้เรายังมีแผนที่จะเปิดจุดขายเพิ่มอีก 180 แห่ง เพื่อขยายขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้าในหลากหลาย พื้นที่ทั่วประเทศ ตลอดจนมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยเริ่มจากประเทศเวียดนาม ซึ่งบริษัทแม่ของเราอย่างเซ็นทรัล รีเทล ได้รุกตลาดและสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งไว้อยู่ก่อนแล้ว ที่สำคัญเราจะยังคงมุ่งมั่นและทุ่มเทอย่างเต็มที่ เพื่อเสริมแกร่งความเป็นผู้นำในธุรกิจจัดจำหน่ายและบริหารแบรนด์สินค้าชั้นนำระดับโลก ควบคู่ไปกับการเป็นบริษัทฯ ที่บริหารงานบนหลักธรรมาภิบาล และเป็นองค์กรที่ทุกคนอยากร่วมงานด้วย” คุณเอ็ดวิน กล่าวทิ้งท้าย
 
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
คุณมณีสุดา ศิลาอ่อน รับมอบใบประกาศเกียรติคุณ “สตรีนักบริหารดีเด่น สาขาสตรีผู้บริหารภาคเอกชนดีเด่น สถานประกอบกิจการขนาดใหญ่ ประจำกรุงเทพมหานคร“ เนื่องในวันสตรีสากล ประจำปี 2567 สำนักพิมพ์แม่บ้าน
คุณมณีสุดา ศิลาอ่อน รับมอบใบประกาศเกียรติคุณ “สตรีนักบริหารดีเด่น สาขาสตรีผู้บริหารภาคเอกชนดีเด่น สถานประกอบกิจการขนาดใหญ่ ประจำกรุงเทพมหานคร“ เนื่องในวันสตรีสากล ประจำปี 2567
คุณมณีสุดา ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่สำนักพัฒนาความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) (กลาง) รับมอบใบประกาศเกียรติคุณ ”สตรีนักบริหารดีเด่น สาขาสตรีผู้บริหารภาคเอกชนดีเด่น สถานประกอบกิจการขนาดใหญ่ ประจำกรุงเทพมหานคร“ เนื่องในวันสตรีสากล ประจำปี 2567 มอบโดย ว่าที่ร้อยตรี สมศักดิ์ พรหมดำ รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน (ที่ 2 จากซ้าย)