วัตสัน ปฏิวัติวงการค้าปลีกไทยสู่ความยั่งยืน ด้วยแนวคิดนวัตกรรม ‘Green is the New Beautiful’

0    690    0    8 พ.ค. 2567 18:26 น.   
แบ่งปัน

ในยุคที่ความยั่งยืนเป็นศูนย์กลางของการดำเนินธุรกิจ วัตสัน ประเทศไทย ผู้นำร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทย ส่งเสริมภูมิทัศน์วงการค้าปลีกไทยภายใต้วิสัยทัศน์ “Green is the New Beautiful - การรักษ์โลก คือความงามรูปแบบใหม่” ตอกย้ำพันธกิจด้านสิ่งแวดล้อม (Planet Pillar) สู่การค้าปลีกอย่างยั่งยืน โดยมีแผนการดำเนินการทั้งในระยะสั้นและระยะยาวให้บรรลุเป้าหมายความสำเร็จในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการลดขยะและของเสียจากการดำเนินงานให้เป็นศูนย์ภายในปี 2573 ผ่านการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ครอบคลุมหลายระดับ ตั้งแต่การคัดสรรส่วนประกอบและการออกแบบผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น  การบริหารจัดการร้านค้าภายใต้แนวคิด ‘Greener Store Framework’ การสร้างเครือข่ายพันธมิตรด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงการขนส่งอย่างยั่นยืน ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและโลกใบใหม่ที่ดีกว่าเดิมไปพร้อมกับลูกค้าและพันธมิตรเพื่อคนรุ่นต่อ ๆ ไป เพราะ การรักษ์โลกคือความงามรูปแบบใหม่ที่ยั่งยืน ที่เราทุกคนสามารถร่วมสร้างได้
 
  • มุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ส่งมอบความงามที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม “Sustainable Choice”
“Green is the New Beautiful’’ เป็นแนวคิดที่วัตสันปลูกฝัง และได้นำไปปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนที่หลายหลาย ครอบคลุมด้วยส่วนผสมและบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
  1. 'Refill – Reuse - Replace' มุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์รีฟีล หรือผลิตภัณฑ์ชนิดเติม เพื่อลดปริมาณขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่สามารถเปลี่ยนทดแทนเพื่อยืดอายุการใช้งานและลดประมาณขยะได้ภายในตัว
  2. ‘Better Packaging’ เฟ้นหาและเลือกสรรเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีบรรจุภัณฑ์ทำจากวัสดุที่ช่วยส่งเสริมการปลูกป่าด้วยระบบการจัดการแบบยั่งยืน หรือใช้พลาสติกหรือกระดาษรีไซเคิลเป็นส่วนประกอบ เช่น การนำพลาสติกกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิล 100% การใช้พลาสติกที่รีไซเคิลได้เป็นอย่างน้อย (PCR) 20% ลดการใช้พลาสติก PVC ลงครึ่งหนึ่งจากปี 2563 และการใช้กระดาษจากแหล่งที่มีการจัดการอย่างยั่งยืน (FSC) 100% ภายในปี 2573
  3.  ‘Better Ingredients Materials’ คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูงที่สร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม เช่น น้ำมันปาล์มที่ได้รับการรับรองจาก RSPO กระดาษเยื่อไผ่ และการพัฒนาผลิตภันณฑ์สูตรวีแกนที่ไม่ผ่านการทดลองกับสัตว์และปราศจากสารเคมีรุนแรง โดยผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นล้วนได้รับการตรวจสอบและรับรองจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ
  4. 'Clean Beauty' ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่ใช้ส่วนผสมที่ปลอดภัยและได้รับการรับรองคุณภาพ
และในปีนี้ วัตสันได้เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ 'Naturals by Watsons Algae Shampoo & Conditioner' ภายใต้แนวคิด “Blue Beauty” ซึ่งใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิล 100% ที่ทำจากขยะชายฝั่ง (Ocean Bound Plastic) ผลิตภัณฑ์แชมพูและครีมนวดผมที่มีส่วนผสมออร์แกนิคจากสาหร่ายทะเลประเทศโปรตุเกส เพื่อให้การดูแลเส้นผมและบำรุงอย่างล้ำลึก ปราศจากสารที่ระคายเคืองและได้รับการทดสอบว่าอ่อนโยนต่อผิวหนัง แนวทางความงามที่ยั่งยืนนี้ยังช่วยให้ลูกค้าสามารถมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทะเลไทย โดยรายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิรักษ์ไทย ให้ลูกค้าได้ร่วมสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อระบบนิเวศชายฝั่งและท้องทะเลไปพร้อม ๆ กับการก้าวสู่ยุคความงามแบบใหม่
  • ร้านค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น: Greener Store Framework และ EV Bike Station
ร้านวัตสัน สาขาสยามสแควร์ ใจกลางกรุงเทพฯ ต้นแบบร้านค้าปลีกยั่งยืน ที่ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดทดแทนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการติดแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาและจักรยานไฟฟ้า EV Bike Station บริเวณชั้นสอง ภายใต้แคมเปญ ‘ปั่น รักษ์ โลก’ ให้ผู้เข้าร่วมสามารถแปลงพลังงานที่ได้จากการปั่นเป็นพลังงานไฟฟ้า เพื่อใช้ในการชาร์จโทรศัพท์หรือแปลงเป็นไฟฟ้าเพื่อใช้งานภายในร้าน พร้อมรับส่วนลดสำหรับใช้จ่ายที่ร้านวัตสัน

นอกจากนี้ ทางร้านได้เลือกใช้วัสดุตกแต่งที่ผลิตจากไม้รีไซเคิล 100% เพื่อลดการผลิตและการสร้างขยะใหม่ อีกทั้งยังมีโซน ‘Sustainable Choices’ บริเวณชั้นล่างเพื่อเป็นจุดรวมผลิตภัณฑ์และแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งนำเสนอข้อมูลเพื่อสร้างความตระหนักถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่งเสริมให้ทุกการซื้อเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าต่อโลกและสิ่งแวดล้อม
 
  • รวมพลังกับพันธมิตรอย่าง Eco Life เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ยั่งยืน
การรักษ์โลกคือความงามรูปแบบใหม่ ไม่ได้เป็นเพียงคำพูดเท่านั้น แต่ต้องเป็นการกระทำที่ต้องมีการร่วมมืออย่างแข็งขันจากทุกภาคส่วน โดยวัตสัน ประเทศไทย ได้ริเริ่มการขยายเครือข่ายพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนเฉกเช่นเดียวกันกับ Eco Life แอปพลิเคชันที่มุ่งมั่นในการลดขยะพลาสติก โดยเชื่อมโยงเครือข่ายร้านค้า สินค้า และบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนวิสัยทัศน์ร่วมในการรักษาโลก และมอบสิทธิประโยชน์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า ความร่วมมือนี้ได้นำเสนอช่องทางการชำระเงินพิเศษ และโอกาสในการสะสมคะแนนผ่านแอป Eco Life ถือเป็นแคมเปญที่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภค ได้ทั้งการลดขยะ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยในปีนี้ มีการขยายความร่วมมือเพื่อสนับสนุนการซื้อผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม 'Naturals by Watsons' พร้อมทั้งเสนอส่วนลดและสิทธิพิเศษอื่น ๆ ให้กับสมาชิกที่เข้าร่วมภารกิจด้านความยั่งยืนและสะสมคะแนนอีกด้วย
  • การสร้างระบบโลจิสติกส์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
โครงการ “Green Beauty Green Energy” ถือเป็นอีกก้าวสำคัญสู่การจัดการระบบขนส่งสินค้าที่ยั่งยืน โดยนำร่องการใช้งานรถบรรทุก 6 ล้อและรถปิคอัพไฟฟ้า จำนวน 6 คัน สำหรับการจัดส่งสินค้าไปยังร้านค้าสาขาต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ และใช้ในการขนส่งสินค้าระหว่างคลัง การเปลี่ยนแปลงนี้จะเริ่มดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบในเดือนพฤษภาคม 2567 ซึ่งจะช่วยลดการใช้น้ำมันเบนซินและการปล่อยก๊าซ CO2 ได้ถึง 105,593 กิโลกรัมต่อปี นับเป็นก้าวสำคัญที่วัตสันจะขับเคลื่อนนโยบายความยั่งยืนของบริษัทให้ก้าวไปอีกขั้น
 
แน่นอนว่าความคิดริเริ่มด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นคลื่นลูกใหญ่ที่วัตสัน ประเทศไทย ในฐานะร้านสุขภาพและความงาม ตระหนักรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด และมีการขับเคลื่อนองค์กรให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยการเริ่มต้นโครงการและแคมเปญที่มุ่งสร้างผลลัพธ์เชิงบวก ที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมถึงการร่วมมือกับหลากหลายองค์กรและอยู่เคียงคู่กับลูกค้าเพื่อส่งเสริมแนวทางความงามที่ยั่งยืน ภายใต้ความเชื่อที่ว่า "Green is the New Beautiful” การรักษ์โลก คือความงามรูปแบบใหม่ มุ่งส่งมอบความงามที่แท้จริงให้กับคนไทยไปพร้อมกับความยั่งยืน
 
#GreenIsTheNewBeautiful #GoGreenWithWatsons #WatsonsGoGreen #SustainableRetail #EarthDayEveryDay
 
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สื่อประชาสัมพันธ์ ณ จุดขาย หรือ Line Official @WatsonsTH, เว็บไซต์ Watsons.co.th หรือผ่านแอป WatsonsTH ดาวน์โหลดได้ที่ Google Play Store และ App Store
 
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์
Seafood from Norway Festival 2025 ป๊อปอัพสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมนำทุกท่านดำดิ่งสู่โลกแห่งอาหารทะเลจากน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาดของนอร์เวย์ ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสและสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง Seafood from Norway และผู้บริโภคชาวไทย ถ่ายทอดเรื่องราวของธรรมชาติ ผู้คน และอนาคตที่มีร่วมกัน พร้อมกิจกรรมโซนอินเทอร์แอคทีฟ ลิ้มลองเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และบูธจากพาร์ทเนอร์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 กันยายน 2568 เวลา 10.00–22.00 น. ณ EM MARKET ห้างสรรพสินค้า EMSPHERE กรุงเทพฯ
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก  ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เปิดนิทรรศการ “Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” หยิบซอสปรุงรสท้องถิ่นมาต่อยอดในมุมมองใหม่ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมที่กินได้” ร้อยเรียงเรื่องราวผ่าน 4 โซนนิทรรศการที่ชวนสำรวจทั้งวัฒนธรรมการกิน ภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านขวดซอส ลิ้มรสซอสไทย ที่ถูกครีเอตในรูปแบบใหม่ พร้อมมองโอกาสของเครื่องปรุงไทยที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยนิทรรศการดังกล่าวสามารถเข้าชมได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้จนถึง 23 พฤศจิกายน 2568 ณ Front Lobby ชั้น 1 TCDC กรุงเทพฯ