แคนนอนประกาศเดินหน้าพัฒนา “EOS R1” กล้องเรือธงรุ่นแรกในระบบ EOR R ชูไฮไลท์ระบบการประมวลผลภาพสุดล้ำใหม่ล่าสุด เพื่อยกระดับประสิทธิภาพระบบออโต้โฟกัส เพื่อคุณภาพของไฟล์ภาพอันน่าทึ่ง

0    197    0    21 พ.ค. 2567 15:38 น.   
แบ่งปัน

แคนนอนประกาศเดินหน้าพัฒนากล้อง “EOS R1” กล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรมเรือธงรุ่นแรกในระบบ EOS R ที่จะมาพร้อมเมาท์ RF โดยตั้งเป้าเปิดตัวภายในปี 2567 นี้ EOS R1 เป็นสุดยอดกล้องมิเรอร์เลสที่ผสานเทคโนโลยีสุดล้ำของแคนนอนเข้าด้วยกันเพื่อยกระดับการทำงานของมืออาชีพโดยเฉพาะ สมบูรณ์แบบด้วยประสิทธิภาพการทำงานขั้นสูงสุด คุณสมบัติความแข็งแกร่งทนทาน และคุณภาพไฟล์ดีเยี่ยมที่เชื่อถือได้ในระดับเรือธง โดยเปิดมาตรฐานใหม่ทั้งในส่วนของภาพนิ่งและวิดีโอได้อย่างน่าทึ่ง[1] พร้อมตอบสนองความต้องการที่เหนือกว่าของช่างภาพชั้นแนวหน้าในทุกสาขาการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพกีฬา การรายงานข่าว ไปจนถึงการผลิตวิดีโอ
 
กล้องรุ่นนี้จะติดตั้งชิปประมวลผลภาพ DIGIC Accelerator ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อเสริมการทำงานของชิปประมวลผลภาพ DIGIC X ที่มีอยู่เดิม โดยระบบประมวลผลภาพรูปแบบใหม่ซึ่งประกอบด้วยโปรเซสเซอร์เหล่านี้ ทำงานผสานร่วมกับเซนเซอร์ CMOS ตัวใหม่ จะทำให้กล้องสามารถประมวลผลข้อมูลปริมาณมหาศาลได้ด้วยความเร็วสูง ตลอดจนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบโฟกัสอัตโนมัติ (AF) และฟังก์ชันอื่น ๆ ให้ดีเยี่ยมกว่าเดิมอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
 
เมื่อผสานการทำงานของระบบการประมวลผลภาพรูปแบบใหม่เข้ากับเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึกด้วยกระบวนการขั้นสูง ทำให้แคนนอนเข้าถึงประสิทธิภาพการจำแนกวัตถุต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำสูง ซึ่งจะเห็นจากการติดตามจับภาพวัตถุที่แม่นยำยิ่งขึ้น เช่น ในขณะถ่ายการแข่งขันกีฬาซึ่งมีสมาชิกในทีมหลายคนอยู่ในตำแหน่งที่ซ้อนทับกัน ช่างภาพก็จะสามารถจับภาพผู้เล่นที่ต้องการได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีผู้เล่นคนอื่นเคลื่อนที่ผ่านคน ๆ นั้นก็ตาม นอกจากนี้ ฟังก์ชันออโต้โฟกัสแบบ “Action Priority” ยังสามารถจำแนกการเคลื่อนไหวของวัตถุผ่านการวิเคราะห์ตำแหน่งวัตถุได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเกมกีฬาที่ไม่อาจคาดเดาได้ว่าจังหวะต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น ฟังก์ชันนี้จะตรวจจับผู้เล่นที่มีพฤติกรรมบางอย่างให้โดยอัตโนมัติ เช่น คนที่กำลังเตะบอล โดยจะกำหนดให้เป็นวัตถุหลักและเลื่อนกรอบโฟกัสติดตามทันที ช่างภาพจึงสามารถถ่ายภาพช่วงเวลาสำคัญในเกมการแข่งขันได้อย่างแม่นยำและทันท่วงที
 
การผสานระบบการประมวลผลภาพรูปแบบใหม่และเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึก ยังช่วยปรับปรุงคุณภาพของไฟล์ภาพ โดยแคนนอนเพิ่มฟังก์ชันลดสัญญาณรบกวนภาพ (Noise reduction) ซึ่งแต่เดิมเป็นฟังก์ชันที่ถูกพัฒนาและใช้งานในซอฟต์แวร์ของคอมพิวเตอร์ทั่วไป โดยได้ถูกนำมาใช้เป็นฟังก์ชันของกล้องรุ่นนี้ เพื่อปรับปรุงคุณภาพของไฟล์ภาพให้ดียิ่งขึ้น และช่วยให้ช่างภาพสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้สวยสมบูรณ์แบบมากกว่าเดิม
 
ปัจจุบัน แคนนอนกำลังทำการทดสอบภาคสนามกับกล้องรุ่นนี้ และใช้สนับสนุนการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติที่กำลังจะจัดขึ้นหลายรายการ เพื่อร่วมบันทึกช่วงเวลาสำคัญอันน่าประทับใจ
 
แคนนอนยังคงขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์กล้อง EOS R SYSTEM และเลนส์ RF ประสิทธิภาพสูงอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการกลุ่มผู้ใช้งานที่หลากหลาย และส่งเสริมวัฒนธรรมการถ่ายภาพและวิดีโอให้แพร่หลายในกลุ่มคนทั่วไปมากยิ่งขึ้น
 
[1] เปรียบเทียบกับรุ่น EOS R3 (วางจำหน่ายเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564)
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
หมอนทองเลิฟเวอร์ห้ามพลาด! “ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท” พร้อมเสิร์ฟ “Durian Decadent Afternoon Tea” ชวนจิบอาฟเตอร์นูนทีระดับไฮเอนด์และลิ้มรสเมนูพิเศษที่รังสรรค์จาก “ราชาผลไม้” สำนักพิมพ์แม่บ้าน
หมอนทองเลิฟเวอร์ห้ามพลาด! “ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท” พร้อมเสิร์ฟ “Durian Decadent Afternoon Tea” ชวนจิบอาฟเตอร์นูนทีระดับไฮเอนด์และลิ้มรสเมนูพิเศษที่รังสรรค์จาก “ราชาผลไม้”
เมื่อซัมเมอร์มาเยือนเมืองไทยอีกครั้ง หลายคนคงตั้งตารอคอย "ทุเรียน" ราชาแห่งผลไม้เมืองร้อนกับรสชาติหอมหวานมันเป็นเอกลักษณ์ที่ถูกอกถูกใจทั้งคนไทยและคนทั่วโลก และในปีนี้ โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท กลับมาอีกครั้งกับแคมเปญ Durian Decadent Afternoon Tea หลังได้รับเสียงตอบรับอย่างยอดเยี่ยมเมื่อปีก่อน โดยจับมือกับ Toby's Farm สวนทุเรียนคุณภาพระดับพรีเมียมจากจังหวัดจันทบุรี ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง นำเสนอประสบการณ์การจิบน้ำชายามบ่ายที่ผสานความหรูหราเข้ากับรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของทุเรียนหมอนทอง พร้อมยกระดับ “ความโลคอล” ด้วยการนำเสนอแบบ “โกลบอล” ระดับห้าดาว โดยเซตอาฟเตอร์นูนทีในธีมทุเรียนหมอนทองสุดพิเศษนี้ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยเฉพาะฤดูกาลทุเรียนตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน - 31 พฤษภาคม 2568 เท่านั้น