“เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต” ชวนเปิดประสบการณ์สู่เชฟมืออาชีพ ด้วยหลักสูตรศิลปะการประกอบอาหาร 5 หลักสูตรระยะยาว ต้อนรับเทอมตุลาคมนี้

0    211    0    3 ก.ย. 2567 18:28 น.   
แบ่งปัน

โรงเรียนสอนการประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต (Le Cordon Bleu Dusit Culinary Arts School) ชวนสัมผัสประสบการณ์เรียนรู้ศิลปะการประกอบอาหารในห้องเรียนใจกลางกรุงเทพฯ กับหลักสูตรระดับเวิลด์คลาส ที่จะช่วยพัฒนาทักษะและเทคนิคการประกอบอาหารของคุณให้ก้าวสู่การเป็นเชฟมืออาชีพอย่างแท้จริงด้วยหลักสูตรระยะยาว ที่เปิดรับสมัครนักเรียนเทอมตุลาคมนี้ ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายนนี้ เริ่มเรียน 4 ตุลาคมนี้ รีบสมัครด่วนก่อนเต็ม!
 
ต้อนรับเทอมใหม่ด้วย 5 หลักสูตรที่จะช่วยจุดประกายและพัฒนาทักษะการทำอาหารของคุณ ได้แก่:
 
  1. หลักสูตร กร็องด์ ดิโปลม (Grand Diplôme®): หลักสูตรระดับเวิลด์คลาสที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลกของ เลอ กอร์ดอง เบลอ มากว่า 129 ปี เป็นหลักสูตรที่จะพัฒนาทักษะและเทคนิคการประกอบอาหารทั้งคาวและหวาน ในหลักสูตรประกาศนียบัตรการประกอบอาหารคาว (Diplôme de Cuisine) ควบคู่ไปกับ หลักสูตรประกาศนียบัตรการประกอบขนมอบ (Diplôme de Pâtisserie) ซึ่งเป็นหลักสูตรที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เสมือนเป็นใบเบิกทางสู่เส้นทางด้านอาหารอย่างมืออาชีพ
  2. หลักสูตรการประกอบอาหารคาว (French Cuisine) เปิดสอนในระดับชั้นต้น, ชั้นกลาง, และชั้นสูง มุ่งเน้นการเรียนรู้เทคนิคการประกอบอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม ผู้เรียนสามารถต่อยอดรังสรรค์จานอาหารคาวในสไตล์ของตนเอง หลังจบหลักสูตร 540 ชั่วโมง ผู้เรียนจะได้รับ ประกาศนียบัตรการประกอบอาหารคาว (Diplôme de Cuisine)
  3. หลักสูตรการประกอบขนมอบ (French Pastry): เปิดสอนในระดับชั้นต้น, ชั้นกลาง, และชั้นสู มุ่งเน้นการเรียนรู้ศิลปะการประกอบขนมอบและขนมหวานตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงระดับสูง ผู้เรียนจะได้เรียนรู้เทคนิคการประกอบขนมอบ การตกแต่งขนมอบนานาชนิด ไปจนถึงการรังสรรค์เมนูขนมอบของตนเอง กับเชฟผู้สอนชาวฝรั่งเศสและชาวต่างชาติ ที่มีประสบการณ์ด้านการทำขนมอบ ขนมหวาน ขนมเค้ก ในระดับนานาชาติ หลังจบหลักสูตร 540 ชั่วโมง ผู้เรียนจะได้รับ ประกาศนียบัตรการประกอบขนมอบ (Diplôme de Pâtisserie)
  4. หลักสูตรวิชาการครัวไทย (The Professional Thai Cuisine): หลักสูตรที่ออกแบบโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการประกอบอาหารไทย ถ่ายทอดความรู้ผ่านการสาธิตและฝึกปฏิบัติประกอบอาหารในห้องปฏิบัติการครัวที่ทันสมัย ซึ่งเป็นหลักสูตรที่เปิดสอนที่ เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต เท่านนั้น ผู้เรียนจะได้เรียนรู้การประกอบอาหารไทยมากกว่า 200 รายการ ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทยโบราณ อาหารประจำภาค อาหารไทยแบบชาววัง และอาหารไทยร่วมสมัย นอกจากนี้ยังจะได้เรียนรู้การแกะสลัก และการจัดการร้านอาหารไทยเบื้องต้น  หลังจบหลักสูตร 540 ชั่วโมง ผู้เรียนจะได้รับ ประกาศนียบัตรวิชาการครัวไทย (Diplôme de Cuisine Thaïe)
  5. หลักสูตรศิลปะการทำขนมปัง (The Art of Bakery): เป็นหลักสูตรที่เน้นการเรียนรู้ขั้นตอนและเทคนิคการทำขนมปังแบบฝรั่งเศส เช่น ขนมปังเดนิช ขนมปังพื้นเมืองจากแคว้นต่างๆ ของฝรั่งเศส การทำแป้งโดแบบต่างๆ ทั้งจากการหมักด้วยยีสต์และการใช้เทคนิคขั้นสูงอื่นๆ ไปจนถึงขนมปังนานาชาติ ระยะเวลาเรียน 240 ชั่วโมง หลังจบหลักสูตรจะได้รับประกาศนียบัติวิชาการทำขนมปัง (Diplôme de Boulangerie)
หลักสูตรของ เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต เป็นหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาการประกอบอาหาร ที่ได้รับการรับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการ โดยการเรียนการสอนในแบบฉบับของ เลอ กอร์ดอง เบลอ จะประกอบด้วยคลาสสาธิต (Demonstration Class) โดยเชฟมืออาชีพระดับโลกที่มีประสบการณ์ในระดับนานาชาติ และคลาสภาคปฏิบัติ (Practical Class) ที่จะได้ลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเอง ในอุปกรณ์ครัวที่ทันสมัย ครบครัน ในสถานที่เรียนใจกลางกรุงเทพฯ เดินทางสะดวก รวมถึงมีการสอบปลายภาคก่อนจบหลักสูตรเพื่อรับประกาศนียบัตร
 
คุณพร้อมหรือยัง? ที่จะออกเดินทางสู่เส้นทางศิลปะการประกอบอาหาร เติมเต็มความฝันสู่การเป็นเชฟมืออาชีพกับหลักสูตรระดับเวิลด์คลาส ไปกับโรงเรียนสอนการประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ในภาคเรียนตุลาคมนี้
 
สามารถนัดเข้าเยี่ยมชมโรงเรียน พร้อมนัดพูดคุยกับที่ปรึกษาด้านการศึกษา หรือสอบถามรายละเอียดการเรียนพร้อมทุนการศึกษา หรือผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน ได้ทาง
LINE: @lecordonbleudusit หรือโทรศัพท์ 02 237 8877
ช่องทางการติดต่ออื่นๆ ได้ที่ https://linktr.ee/lecordonbleudusit
ดูข้อมูลหลักสูตรเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.cordonbleu.edu/thailand/programmes/en
 
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
หมอนทองเลิฟเวอร์ห้ามพลาด! “ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท” พร้อมเสิร์ฟ “Durian Decadent Afternoon Tea” ชวนจิบอาฟเตอร์นูนทีระดับไฮเอนด์และลิ้มรสเมนูพิเศษที่รังสรรค์จาก “ราชาผลไม้” สำนักพิมพ์แม่บ้าน
หมอนทองเลิฟเวอร์ห้ามพลาด! “ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท” พร้อมเสิร์ฟ “Durian Decadent Afternoon Tea” ชวนจิบอาฟเตอร์นูนทีระดับไฮเอนด์และลิ้มรสเมนูพิเศษที่รังสรรค์จาก “ราชาผลไม้”
เมื่อซัมเมอร์มาเยือนเมืองไทยอีกครั้ง หลายคนคงตั้งตารอคอย "ทุเรียน" ราชาแห่งผลไม้เมืองร้อนกับรสชาติหอมหวานมันเป็นเอกลักษณ์ที่ถูกอกถูกใจทั้งคนไทยและคนทั่วโลก และในปีนี้ โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท กลับมาอีกครั้งกับแคมเปญ Durian Decadent Afternoon Tea หลังได้รับเสียงตอบรับอย่างยอดเยี่ยมเมื่อปีก่อน โดยจับมือกับ Toby's Farm สวนทุเรียนคุณภาพระดับพรีเมียมจากจังหวัดจันทบุรี ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง นำเสนอประสบการณ์การจิบน้ำชายามบ่ายที่ผสานความหรูหราเข้ากับรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของทุเรียนหมอนทอง พร้อมยกระดับ “ความโลคอล” ด้วยการนำเสนอแบบ “โกลบอล” ระดับห้าดาว โดยเซตอาฟเตอร์นูนทีในธีมทุเรียนหมอนทองสุดพิเศษนี้ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยเฉพาะฤดูกาลทุเรียนตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน - 31 พฤษภาคม 2568 เท่านั้น