กีวี ผลไม้รูปวงรี อุดมด้วยวิตามิน C

หน้าแรก      สาระน่ารู้
ถูกใจ
0    5,985    1    7 เม.ย. 2560 11:21 น.   
แบ่งปัน

กีวี (Kiwi) เป็นผลไม้รูปทรงรี เนื้อสีเขียว บางพันธุ์เนื้อสีเหลือง ชุ่มน้ำ รสเปรี้ยวอมหวาน เปลือกบาง มีขนเล็ก ๆ สีน้ำตาลปกคลุมทั่วผล กิ่งและใบมีขนสีน้ำตาลแดงปกคลุม มีต้นกำเนิดในประเทศจีน ต่อมามีผู้นำไปปลูกที่ประเทศนิวซีแลนด์และปรับปรุงพันธุ์ใหม่ จนมีรสชาติดีมากยิ่งขึ้น และกลายเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุด
 
กีวี เป็นผลไม้ที่ มีวิตามินสูงมาก และอุดมไปด้วยแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามิน A, C, K, B1, B2, B3, B6, B9, แคลเซียม, เหล็ก, แมกนีเซียม, ฟอสฟอรัส, โพแทสเซียม, โซเดียม, สังกะสี, แมงกานีส เป็นต้น นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยโอเมก้า-3 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้

การรับประทานกีวี 1 ลูก (100 กรัม) จะให้พลังงานเพียง 46 กิโลแคลอรี่ แบ่งเป็น ไขมัน 0.3 กรัม โปรตีน 1 กรัม คาร์โบไฮเดรต 11 กรัม วิตามินหลากชนิดอีก 75 มิลลิกรัม และยังทำให้ร่างกายได้รับวิตามิน C มากถึงร้อยละ 155 ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน สูงกว่าส้มถึง 2 เท่า และยังให้วิตามิน E สูงกว่าอะโวคาโด 2 เท่า
 
ประโยชน์
1. กีวีอุดมไปด้วยวิตามิน E ช่วยชะลอความชราช่วยป้องกันริ้วรอย และทำให้ผิวใสไร้จุดด่างดำ และมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ลดความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ และยังช่วยลดระดับอีกด้วย
2. กีวีมีวิตามิน C ช่วยกระตุ้นการทำงานของภูมิคุ้มกันโรคซึ่งเป็นเกราะธรรมชาติที่ช่วยป้องกัน ไข้หวัด และซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอและกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ๆ
3. กีวีเป็นแหล่งไฟเบอร์ มีเส้นใยอาหารมาก ซึ่งเป็นสารที่ไม่ให้พลังงานในร่างกาย แต่จะช่วยให้อิ่มเร็วและนาน ทำให้ไม่อ้วน และยังช่วยชำระล้างและปรับปรุงระบบย่อยอาหาร รวมทั้งส่งเสริมให้หัวใจและร่างกายแข็งแรง โดยกีวีเขียว 1 ผล มีไฟเบอร์มากกว่ากล้วย 15% และมากกว่าแอปเปิ้ลและส้มถึง 25 % จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
4. กีวีอุดมด้วยโฟเลต เหมาะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เพราะจะช่วยสร้างสารพันธุกรรม ที่จำเป็นสำหรับเด็กทารก ที่ต้องการเซลล์ใหม่จำนวนมาก และการรับประทานโฟเลตเป็นประจำทั้งก่อนและระหว่างตั้งครรภ์ จะช่วยทำให้ผิวและเซลล์เม็ดเลือดมีสุขภาพดี ปริมาณโฟเลตในกีวีมีมากกว่ากล้วย 49% และมากกว่ามะม่วงถึง 112.8%

การเลือกซื้อ
กีวี ต้องเลือกลูกที่ไม่มีริ้วรอยบุบช้ำ และไม่อ่อนนิ่มจนเกินไป แล้วให้นำมาวางไว้ที่อุณหภูมิปกติรอให้สุก จึงตักเนื้อกีวีสีเขียว อร่อย ๆ รับประทานได้ค่ะ
 
สาระน่ารู้อื่นๆ