ภัยเงียบจากหลอดไฟแตก ที่ไม่ควรมองข้าม

หน้าแรก      สาระน่ารู้
ถูกใจ
0    10,381    3    22 เม.ย. 2560 10:48 น.   
แบ่งปัน

สมัยนี้บ้านเรือนของหลาย ๆ ท่านคงปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่มีไฟฟ้า และด้วยกระแสตื่นตัวเรื่องการประหยัดพลังงานและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงมีการรณรงค์ให้ใช้หลอดไฟแบบประหยัดไฟ หรือ หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์(Compact Fluorescent หรือ CFL) หรือเรียกง่ายๆ ว่าหลอดตะเกียบ เนื่องจากช่วยประหยัดพลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการปล่อยมลพิษ และมีอายุการใช้งานนานกว่าหลอดไส้ประมาณ 8,000 ชั่วโมง นอกจากนี้ภายในหลอดตะเกียบ นั้นยังบรรจุสารปรอทโดยเฉลี่ย 4 มิลลิกรัมต่อหลอด นี้คือภัยเงียบที่หลาย ๆ คนอาจยังไม่ทราบ วันนี้เราจึงนำวิธีปฏิบัติเมื่อมีหลอดไฟแตกในบ้านว่าควรทำอย่างไร

หลอดตะเกียบ ในขณะที่ใช้งานอยู่นั้นสารปรอทภายในจะไม่ระเหยออกสู่ภายนอก แต่จะมีอันตรายก็ต่อเมื่อหลอดไฟนั้นเกิดการแตกเท่านั้น ซึ่งสารปรอทที่อยู่ภายในหลอดจะกลายเป็นไอระเหยออกสู่สิ่งแวดล้อม และอาจเข้าสู่ร่างกายด้วยการหายใจเข้าไป อีกทั้งยังเข้าทางผิวหนังได้ด้วยโดยการดูดซึม ไอระเหยหรือฝุ่นละอองของปรอททำให้ผิวหนังระคายเคืองเกิดโรคผิวหนังได้ นอกจากนี้หากทิ้งหลอดไฟที่แตกนั้นไว้รวมกับขยะมูลฝอยทั่วไป ไอปรอทจะรั่วไหลออกสู่สิ่งแวดล้อม ทำให้ปนเปื้อนแหล่งน้ำธรรมชาติ และถูกดูดซึมเข้าสู่สัตว์น้ำและพืชได้ ดังนั้นถ้าในบ้านมีหลอดไฟแตกควรจัดการอย่างถูกวิธี เพื่อลดการสัมผัสกับไอปรอทซึ่งเป็นพิษกับร่างกายเรา
 
โดยก่อนการทำความสะอาดให้นำคนและสัตว์เลี้ยงออกจากห้องที่มีหลอดไฟแตก จากนั้นเปิดหน้าต่างและประตูเพื่อระบายอากาศให้ไอปรอทออกมาประมาณ 5-10 นาที หากมีเครื่องปรับอากาศหรือระบายอากาศควรปิดทันทีเพราะสารปรอทอาจเข้าไปอยู่ในไส้กรองของเครื่องได้หากเครื่องยังทำงานอยู่ เมื่อจะทำการเก็บหลอดไฟที่แตกควรสวมถุงมือแล้วใช้กระดาษแข็งหรือที่โกยขยะตักชิ้นส่วนหลอดไฟใส่ในถุงพลาสติกหรือในภาชนะที่ปิดสนิท ห้ามใช้เครื่องดูดฝุ่นในการทำความสะอาด ยกเว้นเศษแก้วถูกเก็บออกจากบริเวณดังกล่าวหมดเรียบร้อยแล้ว มิเช่นนั้นเครื่องดูดฝุ่นจะทำให้เกิดการกระจายของไอปรอท จากนั้นใช้เทปกาวเหนียวเก็บชิ้นส่วนเล็ก ๆ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดบริเวณที่มีหลอดไฟแตก เมื่อใช้เสร็จให้ทิ้งผ้าและกระดาษนั้นไปในถุงด้วย นอกจากนั้นเมื่อเก็บเรียบร้อยแล้วไม่ควรนำไปตั้งทิ้งไว้ภายในบ้าน ให้นำไปทิ้งนอกอาคารในถังสำหรับขยะสารพิษเพื่อรอการกำจัดต่อไป เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วก็อย่าลืมล้างมือให้สะอาดนะคะ
 
สาระน่ารู้อื่นๆ