คนเราทุกคนอยากมีผิวสวย เราจึงพยายามสรรหาความรู้ อ่านเคล็ดลับพิเศษ ๆ เพื่อให้ผิวดูเปล่งปลั่งสดใส มีน้ำมีนวล ซึ่งก็มีทั้งได้ผลและไม่ได้ผล โดยที่ตัวเราเองเสียอีกที่กลับเป็นฝ่ายละเลยกระบวนการธรรมชาติที่ร่างกายและผิวของเราจะค่อย ๆ ฟื้นฟูและปรับสภาพ นั่นคือการ “นอนหลับ”

รู้กันหรือไม่ค่ะว่า การนอนหลับพักผ่อนถือเป็นยาดีขนานเอกในการดูแลผิวให้สวยใสเด้ง เพราะระหว่างที่นอนหลับ ร่างกายของเราจะซ่อมแซมและปรับสภาพเซลล์ของผิวพรรณ หากเราพักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้ใบหน้าหมองคล้ำ ผิวพรรณไม่สดใส การนอนให้ดีต่อสุขภาพผิวไม่ใช่เพียงนอนให้เพียงพออย่างเดียว แต่ยังมีเคล็ดลับที่ควรรู้เพิ่มเติมอย่าง เช่น
 
- นอนให้ถูกที่ จัดสถานที่และสภาพแวดล้อมในการนอนให้เหมาะสม เงียบสงบปราศจากเสียงรบกวน อากาศถ่ายเทสะดวก ทั้งยังมีอุณหภูมิที่เหมาะสมไม่ร้อนหรือไม่หนาวจนเกินไป ซึ่งการนอนในห้องแอร์นั้นจะทำให้เราสูญเสียน้ำในร่างกายไปกับอากาศได้ สังเกตจากการที่เราจะรู้สึกกระหายน้ำหรือคอแห้งเมื่อตื่นนอน ดังนั้นควรจะดื่มน้ำให้เพียงพอกับความต้องการ และการสูญเสียน้ำในแต่ละวันด้วย

- นอนให้ถูกท่า การนอนที่เหมาะสมสำหรับใบหน้า คือ การนอนหงาย เพราะใบหน้าจะไม่ได้รับผลกระทบหรือเกิดริ้วรอยจากการกดทับของผิวหน้าอย่างการนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ

- นอนให้ถูกเวลา นอกจากจะนอนให้ได้วันละ 7-9 ชั่วโมงในแต่ละวันแล้ว การเลือกเวลานอนที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งถ้าอยากให้ผิวสวยไม่ควรนอนหลังสี่ทุ่ม เพราะช่วงเวลาดังกล่าวร่างกายของเราจะหลั่งสารที่ชื่อว่า Melatonin ที่มีส่วนช่วยในการระงับการเกิดริ้วรอยก่อนวัย และการนอนน้อยกว่า 8 ชั่วโมงก็จะทำให้ร่างกายผลิตสารที่ควบคุมความอยากอาหารของคนเราที่ชื่อว่า เลปติน (Leptin) ได้น้อยลง ยิ่งมีเลปตินน้อยก็จะยิ่งทำให้อยากอาหารมาก แทนที่จะเปล่งปลั่งสดใสกลับกลายเป็นเต่งตึงจากไขมันแทน

การนอนหลับลึกทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากเลือดไหลเวียนไปทั่วร่างกาย การที่เลือดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายก็จะช่วยให้ผิวพรรณเราเปล่งปลั่งได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นควรจะนอนหลับให้ลึกและเต็มอิ่มเพื่อให้ร่างกายของเราใช้กลไกทางธรรมชาติฟื้นฟูตัวเองได้เต็มที่