อาหารดีๆ ช่วยตับได้

หน้าแรก      สาระน่ารู้
ถูกใจ
0    8,057    32    4 พ.ค. 2560 13:24 น.   
แบ่งปัน


การมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรงนอกเหนือจากการออกกำลังแล้ว อะไรก็ไม่สำคัญเท่าการรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ ซึ่งหากเรายังไม่ใส่ใจดูแลร่างกาย เราอาจจะสูญเสียอวัยวะสำคัญไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งในครั้งนี้เราจะพาทุกคนมาดูแลหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญต่อร่างกายมาก ๆ นั่นก็คือ ตับ เพราะตับถือเป็นอวัยวะที่เป็นเหมือนเครื่องกรองของเสียก่อนส่งผ่านไปยังระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ดังนั้นหากไม่ดูแลให้ดีเราก็อาจจะสูญเสียตับไปโดยไม่รู้ตัว
 
โดยรูปแบบการนำสารอาหารมาใช้งานของตับ ซึ่งเราต้องลองเปรียบเทียบตับเป็นดั่งโรงงานขนาดใหญ่ที่คอยส่งสารอาหารทุกอย่างที่ได้รับมาทำการปรับเปลี่ยนเป็นสารอาหารที่ดีและเหมาะสมกับร่างกาย  เช่น น้ำตาล โปรตีน วิตามิน และไขมันชนิดต่าง ๆ ก่อนผลิตออกเป็นเลือดดำ ซึ่งเลือดดำเหล่านี้จะไหลไปรวมกัน จากหลอดเลือดขนาดเล็ก  ไหลรวมไปยังหลอดเลือดขนาดใหญ่ หรือเรียกว่า หลอดเลือดดำเฮปาติก (hepatic vein) เข้าไปรวมกับหลอดเลือดดำ ที่วิ่งเข้าสู่หัวใจ ก่อนที่หัวใจจะทำการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกายอีกทีหนึ่ง นอกจากนี้ตับยังช่วยผลิตสารที่นำเกล็ดเลือดไปห้ามเลือดได้อีกด้วย

สิ่งสำคัญต่อตับ คือ การเลือกรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ เพื่อลดการทำงานของตับ และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเกี่ยวกับตับ โดยอาหารที่สามารถช่วยบำรุงตับได้เป็นอย่างดีมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน เช่น ถั่วชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะถั่วเหลือง ข้าวกล้อง ข้าวไม่ขัดสี ขนมปังโฮลวีท เผือก มัน  มะขามป้อม ผักใบเขียว หรือผักที่มีกลูตาไธโอน อาหารที่มีโพแทสเซียมซึ่งมักอยู่ในกลุ่มของธัญพืชต่าง ๆ โดยเฉพาะในอัลมอนด์ หรือเลือกเป็นลูกพรุน ลูกเกด ผลไม้โดยเฉพาะในกล้วยก็ได้เช่นกัน  รวมทั้งผักประเภทหัว เช่น กระเทียม หอมแดง หอมหัวใหญ่ ขมิ้นชัน กะหล่ำปลี และในกลุ่มเนื้อสัตว์ที่ควรเน้นคือ ปลา เนื้อ รวมทั้งนมและไข่

แต่หากคุณเป็นผู้ที่ป่วยเป็นโรคตับไปแล้วการรับประทานอาหาร สำหรับผู้ป่วยตับแข็งในระยะที่ตับยังสามารถทำงานได้ดีนั้น ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ตามหลักโภชนาการ และควรเน้นอาหารจำพวกโปรตีนประมาณวันละ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม หรือประมาณ 60 กรัมต่อวัน อาหารที่รับประทานควรปรุงสุก สะอาด และไม่ควรเก็บอาหารค้างคืนไว้รับประทานอีกด้วย ส่วนอาหารที่มีไขมันสูงก็ไม่ควรมองข้าม เพราะตับจะทำหน้าที่ย่อยไขมันได้น้อยลง โดยเฉพาะไขมันจากสัตว์ โดยให้หันมารับประทานไขมันพืช เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง เป็นต้น การลดอาหารที่มีรสเค็มจัด อาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก หมูยอ เพราะโซเดียมที่มีอยู่ในอาหารเหล่านี้ มักส่งผลให้เกิดอาการบวม อาการท้องมานได้
 
สาระน่ารู้อื่นๆ