กลุ่มมิตรผลตอกย้ำความมุ่งมั่น คว้ารางวัลการพัฒนาด้านความยั่งยืนระดับโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนตามปรัชญา “ร่วมอยู่ ร่วมเจริญ”

1    982    9    1 มี.ค. 2564 16:39 น.   
แบ่งปัน

กลุ่มมิตรผลตอกย้ำความมุ่งมั่น
คว้ารางวัลการพัฒนาด้านความยั่งยืนระดับโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร
พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนตามปรัชญา “ร่วมอยู่ ร่วมเจริญ”

   กลุ่มมิตรผล คว้าอันดับ 4 ด้านความยั่งยืนระดับโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร พร้อมด้วยรางวัล Sustainability Awards Silver Class 2021” และถูกจัดให้เป็นสมาชิกในรายงานความยั่งยืน S&P Global Sustainability Yearbook Member 2021” จากผลการประเมินความยั่งยืนขององค์กร หรือ Corporate Sustainability Assessment (CSA) โดย S&P Global ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ทั่วโลกให้การยอมรับ และเป็นผู้ประเมินความยั่งยืนให้กับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการยกระดับองค์กรสู่มาตรฐานการพัฒนาที่ยั่งยืนบนเวทีโลก

ทางด้านคุณบรรเทิง ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการบริษัท และประธานกรรมการบริหาร กลุ่มมิตรผล กล่าวถึงรางวัลผลการประเมินความยั่งยืนระดับสากลที่ได้รับในครั้งนี้ว่า “กระแสความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลก ทั้งจากสภาวะสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ บริบททางสังคม รวมทั้งบทบาทของเทคโนโลยีที่เข้ามาควบคุมการใช้ชีวิตมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจทั้งรายใหญ่ และรายย่อย ต้องเร่งปรับตัวให้ทัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง โดยมีเรื่องของความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญที่ทุกองค์กรต้องใส่ใจและไม่ควรมองข้าม”

“ถึงแม้ว่ากลุ่มมิตรผลจะไม่ได้เป็นองค์กรที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แต่เรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการดำเนินงานด้านความยั่งยืนให้มีความโปร่งใสและมีมาตรฐานเดียวกับบริษัทจดทะเบียนชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์ เราจึงได้เข้าร่วมประเมินความยั่งยืนขององค์กรร่วมกับ S&P Global ซึ่งมีการประเมินผลแบบเดียวกันกับ DJSI และทำให้เราเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานในมิติต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งทำให้กลุ่มมิตรผลก้าวกระโดดจากการเป็นอันดับที่ 17 ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สู่อันดับที่ 4 ในปี 2563 สำหรับกลุ่มมิตรผล เราให้ความสำคัญกับการสร้างความยั่งยืนมาตลอดระยะเวลากว่า 65 ปี ด้วยการดำเนินงานตามหลักปรัชญา
“ร่วมอยู่ ร่วมเจริญ” ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพชาวไร่อ้อย ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม เพราะการที่องค์กรหนึ่งจะเติบโตได้อย่างยั่งยืนนั้น เราจะต้องคิดถึงคนอื่นและไม่สร้างผลกระทบให้กับสิ่งแวดล้อมหรือสังคม ดังนั้น เรื่องของความยั่งยืนจึงไม่ได้เป็นเพียงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจเท่านั้น แต่ยังถือเป็นการแสดงความมุ่งมั่นขององค์กรในการช่วยดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมในฐานะของพลเมืองประเทศและโลก”
 

 

หลักการและแนวคิดในการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการเป็นองค์กรที่ยั่งยืนของแต่ละองค์กรมีความแตกต่างกันออกไป โดยกลุ่มมิตรผลได้แบ่งออกเป็น 3 มิติ ประกอบไปด้วย เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ซึ่งขับเคลื่อนผ่านนวัตกรรมและดิจิทัล สอดคล้องและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) ในด้านเศรษฐกิจ กลุ่มมิตรผลเป็นองค์กรที่มีการกำกับดูแลให้มีนโยบายด้าน
ธรรมาภิบาล ความโปร่งใส และนำจรรยาบรรณองค์กรมาปฏิบัติอยู่เสมอ ซึ่งทำให้ได้รับรางวัลองค์กรโปร่งใสในปี 2563 ด้านสิ่งแวดล้อม ได้มีการดำเนินกิจกรรมเพื่อความยั่งยืนหลากหลายโครงการ อาทิ การส่งเสริมให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสด งดเผา โดยรับซื้อใบอ้อยเพื่อนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับผลิตไฟฟ้าชีวมวล ช่วยลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมให้ความรู้เกษตรกรตามแนวทาง “มิตรผล โมเดิร์นฟาร์ม” ซึ่งเป็นการทำไร่อ้อยสมัยใหม่ที่ลดการเผาอ้อย, ปลูกพืชตระกูลถั่วเพื่อบำรุงดินและลดการใช้สารเคมี, ใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ, ไม่ปลูกอ้อยในพื้นที่ป่าสงวน และไม่จ้างแรงงานเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานความยั่งยืนระดับโลก BONSUCRO อีกทั้งด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ที่จัดทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการนำเครื่องมือการประเมินความเสี่ยงด้านน้ำในพื้นที่ที่โรงงานตั้งอยู่ มาช่วยในการวางแผนและพัฒนาการบริหารจัดการน้ำ การหมุนเวียนน้ำในกระบวนการผลิตเพื่อกลับมาใช้ซ้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด และการบริหารจัดการน้ำในไร่อ้อยอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดผ่านรายงานความยั่งยืนประจำปี เพื่อสะท้อนความโปร่งใสและแสดงความมุ่งมั่นในการพัฒนาสู่ความยั่งยืนของกลุ่มมิตรผลและในด้านสังคม จากการดำเนินงานด้านสังคมอย่างต่อเนื่องในโครงการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน การจ้างงานผู้พิการ เพื่อให้ผู้พิการมีงานมีรายได้ โครงการนี้เป็นหนึ่งในความสำเร็จที่เกิดขึ้นจริงกับชุมชน และยังทำให้กลุ่มมิตรผลได้รับรางวัลองค์กรที่สนับสนุนงานด้านคนพิการระดับดีเยี่ยม ประจำปี 2563

หลังจากประสบความสำเร็จในการเป็นองค์กรไทยที่ก้าวสู่ Top 4 ด้านความยั่งยืนในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารระดับโลกในปีนี้แล้ว ในอนาคตกลุ่มมิตรผลยังมีความมุ่งมั่นและตั้งใจเพื่อที่จะยกระดับองค์กร และดำเนินการเพื่อให้เกิดความยั่งยืน ตามหลักปรัชญา “ร่วมอยู่ ร่วมเจริญ” ที่กลุ่มมิตรผลถือเป็นหัวใจหลักในการวางแผนพัฒนาการดำเนินงานให้เกิดความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องต่อไป
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์
Seafood from Norway Festival 2025 ป๊อปอัพสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมนำทุกท่านดำดิ่งสู่โลกแห่งอาหารทะเลจากน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาดของนอร์เวย์ ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสและสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง Seafood from Norway และผู้บริโภคชาวไทย ถ่ายทอดเรื่องราวของธรรมชาติ ผู้คน และอนาคตที่มีร่วมกัน พร้อมกิจกรรมโซนอินเทอร์แอคทีฟ ลิ้มลองเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และบูธจากพาร์ทเนอร์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 กันยายน 2568 เวลา 10.00–22.00 น. ณ EM MARKET ห้างสรรพสินค้า EMSPHERE กรุงเทพฯ
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก  ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เปิดนิทรรศการ “Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” หยิบซอสปรุงรสท้องถิ่นมาต่อยอดในมุมมองใหม่ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมที่กินได้” ร้อยเรียงเรื่องราวผ่าน 4 โซนนิทรรศการที่ชวนสำรวจทั้งวัฒนธรรมการกิน ภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านขวดซอส ลิ้มรสซอสไทย ที่ถูกครีเอตในรูปแบบใหม่ พร้อมมองโอกาสของเครื่องปรุงไทยที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยนิทรรศการดังกล่าวสามารถเข้าชมได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้จนถึง 23 พฤศจิกายน 2568 ณ Front Lobby ชั้น 1 TCDC กรุงเทพฯ