ส่องเทรนด์อาหารสุขภาพปี 2021 ทำความรู้จักกับ “แพลนต์เบส” แล้วมันดียังไงทำไมทุกคนถึงต้องกิน?

1    1,208    9    15 มี.ค. 2564 14:22 น.   
แบ่งปัน

ส่องเทรนด์อาหารสุขภาพปี 2021 ทำความรู้จักกับแพลนต์เบส
แล้วมันดียังไงทำไมทุกคนถึงต้องกิน?

   ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงปีนี้ หลายคนคงได้ยินเรื่องเทรนด์สุขภาพเป็นที่นิยมติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายปี นั่นเป็นเพราะว่าในปัจจุบันผู้บริโภคกลุ่มใหญ่เริ่มหันมาใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้น (Health-conscious) จนเกิดมาเป็นเทรนด์ เรื่องของอาหารการกินที่ทำให้เกิดอาหารทางเลือกแนวใหม่ ๆ เพื่อมาตอบโจทย์เหล่าผู้บริโภคกลุ่มนี้มากยิ่งขึ้น และเทรนด์อาหารแพลนต์เบสก็เป็นหนึ่งในเทรนด์อาหารสุขภาพที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจากกลุ่มผู้บริโภค ด้วยปัจจัยทางด้านรสชาติที่มีความใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์ ทั้งยังเหมาะกับการเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะทำจากพืช 100% ซึ่งบทความในวันนี้จะมาพาทุกคนไปทำความรู้จักกับอาหารแพลนต์เบสว่ามีข้อดีอย่างไร และทำไมคุณเองก็ควรเริ่มเปิดใจให้กับอาหารสุขภาพแนวใหม่ชนิดนี้
 
1. สุขภาพ สุขภาพ สุขภาพ
แน่นอนอยู่แล้วว่า อาหารแพลนต์เบสที่มีส่วนประกอบจากพืช 100% นั้นจะเป็นคำตอบใหม่ให้กับผู้บริโภคที่ต้องการดูแลสุขภาพในปัจจุบัน เพราะให้โปรตีนสูง มีปริมาณแคลอรี่ที่ต่ำกว่าการทานเนื้อสัตว์ทั่วไป อีกทั้งยังมีรสชาติที่คล้ายกับเนื้อสัตว์ จึงทำให้อาหารแพลนต์เบสเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการลดปริมาณการบริโภคเนื้อสัตว์และดูแลสุขภาพของตนเองในระยะยาว

2. การทานผักไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ในสมัยก่อนการทานอาหารเพื่อสุขภาพนั้นถูกมองว่าเป็นเรื่องยากและน่าเบื่อ เนื่องจากผักและผลไม้ต่าง ๆ มีรสชาติและรสสัมผัสที่รับประทานค่อนข้างยาก ส่วนใหญ่มักจะต้องถูกปรุงในกรรมวิธีต่าง ๆ เพื่อให้มีรสชาติที่อร่อยและน่าทาน แต่อย่างไรก็ตามปัจจัยด้านรสชาติก็ยังคงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคนั้นให้ความสำคัญ สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยลองทานอาหารแพลนต์เบส อาจจะยังไม่ทราบว่า อาหารแพลนต์เบสนั้นถูกพัฒนามาให้มีรสชาติและรสสัมผัสที่ให้ความรู้สึกเดียวกันกับการทานเนื้อสัตว์จึงทำให้การทานอาหารเพื่อสุขภาพนั้นไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เนื่องจากอาหารแพลนต์เบสสามารถเข้ามาทดแทนการทานอาหารเพื่อสุขภาพแบบดั้งเดิม ที่เน้นแต่การทานผักผลไม้อย่างเดียว

3. อร่อยแบบไม่เหมือนใคร
ด้วยรสชาติและรสสัมผัสที่มีความใกล้เคียงกับเนื้อมาก เมนูต่าง ๆ ที่ทำมาจากแพลนต์เบสนั้นจึงไม่เพียงแค่เน้นไปที่การมอบสุขภาพที่ดีให้แก่ผู้บริโภคแต่ยังเป็นอาหารทางเลือกที่มีรสชาติอร่อยทานง่ายทำให้ทุกคนสามารถรู้สึกเพลิดเพลินไปกับการทานอาหารเพื่อสุขภาพ อีกทั้งยังสามารถนำมาประกอบอาหารโดยผ่านหลากหลายกรรมวิธีต่าง ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งรสชาติและรสสัมผัสที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใครอีกด้วย

 

ซึ่งในอดีตอาหารแพลนต์เบสยังไม่ได้รับความนิยมมากในประเทศไทย ผนวกกับที่อาหารแพลนต์เบสยังอยู่ในช่วงการถูกพัฒนาจากผู้เชี่ยวชาญ เป็นสาเหตุว่าทำไมหลายคนถึงพึ่งมาได้รู้จักกับอาหารแพลนต์เบสเมื่อไม่นานมานี้ จึงทำให้ในสมัยก่อนอาหารแพลนต์เบสนั้นหาทานได้ยาก แต่หลังจากที่อาหารแพลนต์เบสเริ่มเป็นที่รู้จักและกลายมาเป็นที่ต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญด้านสุขภาพ ทำให้อาหารแพลนต์เบสนั้นเริ่มถูกหยิบมาเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่ทานมังสวิรัติแบบครั้งคราว (Flexitarian) ที่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในสังคมยุคใหม่ และอีกหนึ่งประโยชน์ของการหันมาทานอาหารแพลนต์เบสคือการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมในระยะยาวเนื่องจากลดจำนวนการทำปศุสัตว์และส่งผลโดยตรงต่อการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก (Carbon Footprint) เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาโลกร้อนที่เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่หลายคนมองข้าม
 

และล่าสุดเครือร้านอาหารบริการด่วน (Quick-Service Restaurant) อย่าง เบอร์เกอร์ คิง (ประเทศไทย) ก็ได้เปิดตัวเมนู แพลนต์เบส วอปเปอร์ (Plant-based Whopper) เพื่อตอบรับกับเทรนด์อาหารแพลนต์เบสที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้บริโภคและมอบอาหารสุขภาพทางเลือกให้กับผู้ที่มองหาตัวเลือกที่อร่อยและเป็นมิตรต่อสุขภาพ โดยเมนู แพลนต์เบส วอปเปอร์ (Plant-based Whopper) เป็นการนำเอาเมนูซิกเนเจอร์ของเบอร์เกอร์ คิง อย่าง วอปเปอร์ ที่มีหัวใจความอร่อยอยู่ที่ตัวเนื้อเบอร์เกอร์คุณภาพเยี่ยม มาเปลี่ยนให้เป็นเมนูที่ปลอดเนื้อสัตว์ ภายใต้แนวคิด #อร่อยไร้เนื้อ โดยมีเคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่การนำเนื้อแพลนต์เบสมาย่างบนเปลวไฟซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเบอร์เกอร์ คิง ทำให้เบอร์เกอร์ที่ออกมามีรสชาติคล้ายกับเนื้อมากที่สุด เสิร์ฟคู่กับผักกาดหอมและมะเขือเทศสดใหม่ และขนมปังเบอร์เกอร์โรยงา พลิกภาพมาเป็นเมนูเบอร์เกอร์ที่อร่อยและเป็นมิตรต่อสุขภาพ ในราคาเพียงชิ้นละ 165 บาท และ 219 บาทสำหรับชุดสุดคุ้ม พร้อมโปรโมชันพิเศษเพื่อให้ลูกค้าเปรียบเทียบรสชาติความอร่อยที่คล้ายเคียงกันระหว่าง แพลนต์เบส วอปเปอร์ ใหม่ จับคู่กับ วอปเปอร์ ในราคาเพียง 299 บาทเท่านั้น โดยเมนูดังกล่าวจะเริ่มขายตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2021 เป็นต้นไป ที่เบอร์เกอร์ คิง ทุกสาขา
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์
Seafood from Norway Festival 2025 ป๊อปอัพสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมนำทุกท่านดำดิ่งสู่โลกแห่งอาหารทะเลจากน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาดของนอร์เวย์ ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสและสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง Seafood from Norway และผู้บริโภคชาวไทย ถ่ายทอดเรื่องราวของธรรมชาติ ผู้คน และอนาคตที่มีร่วมกัน พร้อมกิจกรรมโซนอินเทอร์แอคทีฟ ลิ้มลองเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และบูธจากพาร์ทเนอร์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 กันยายน 2568 เวลา 10.00–22.00 น. ณ EM MARKET ห้างสรรพสินค้า EMSPHERE กรุงเทพฯ
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก  ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เปิดนิทรรศการ “Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” หยิบซอสปรุงรสท้องถิ่นมาต่อยอดในมุมมองใหม่ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมที่กินได้” ร้อยเรียงเรื่องราวผ่าน 4 โซนนิทรรศการที่ชวนสำรวจทั้งวัฒนธรรมการกิน ภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านขวดซอส ลิ้มรสซอสไทย ที่ถูกครีเอตในรูปแบบใหม่ พร้อมมองโอกาสของเครื่องปรุงไทยที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยนิทรรศการดังกล่าวสามารถเข้าชมได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้จนถึง 23 พฤศจิกายน 2568 ณ Front Lobby ชั้น 1 TCDC กรุงเทพฯ