COVID-19 สร้าง demand ใหม่ให้ตลาดเครื่องพิมพ์เมืองไทย! บราเดอร์พร้อมส่งเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทระบบแท็งก์ 6 รุ่นใหม่ตอบโจทย์ทุกกลุ่ม ให้สีเสมือนจริง พิมพ์แผ่นแรกไวเพียง 6 วินาที ด้วยต้นทุนต่อแผ่นการพิมพ์ขาวดำเพียง 3 สตางค์ ตั้งเป้าครองส่วนแบ่งตลาด 30%

1    2,545    9    30 มี.ค. 2564 13:35 น.   
แบ่งปัน

COVID-19 สร้าง demand ใหม่ให้ตลาดเครื่องพิมพ์เมืองไทย!
บราเดอร์พร้อมส่งเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทระบบแท็งก์ 6 รุ่นใหม่ตอบโจทย์ทุกกลุ่ม
ให้สีเสมือนจริง พิมพ์แผ่นแรกไวเพียง 6 วินาที ด้วยต้นทุนต่อแผ่นการพิมพ์ขาวดำเพียง 3 สตางค์
ตั้งเป้าครองส่วนแบ่งตลาด 30%

   “สถานการณ์ COVID-19 ทำให้ตลาดเครื่องพิมพ์ในประเทศไทยเกิด demand กลุ่มใหม่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการปรับสู่การทำงานแบบไม่จำกัดสถานที่ หรือ remote working ซึ่งถือเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวของตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดปีที่ผ่านมา” นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว“บราเดอร์ เชื่อว่าในปี 2564 ตลาดเครื่องพิมพ์โดยรวมจะยังคงมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากหลายปัจจัย อาทิ การเติมเต็มตลาดด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์หลังจากที่เกิดการชะลอตัวในการป้อนสินค้าสู่ตลาดจากข้อจำกัดด้านการผลิต นอกจากนี้ การปรับคอนเซปต์การใช้งานจาก Centralize สู่ Decentralize ยิ่งเพิ่มโอกาสให้เครื่องพิมพ์เข้าไปแทนทีเครื่องถ่ายเอกสารได้เช่นกัน”

‘at your side’ สะท้อนความใส่ใจ ในทุกมุมของการดีไซน์ เพื่อให้ใช้ได้ ‘ง่ายและสะดวกกว่า’
“นโยบายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ของบราเดอร์นั้น จะคำนึงถึงความสะดวกในการใช้งานเป็นสำคัญ บราเดอร์จะเก็บรายละเอียดในทุกจุดมาปรับเพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายสูงสุด อาทิ การจัดวางหน้าปัดบนตัวเครื่องแบบเฉียงเพื่อให้รับต่อสายตา การดีไซน์ที่เอียง 45% ของจุดเติมหมึกเพื่อให้สะดวกในการเติม  หรือแม้กระทั่งการออกแบบให้เครื่องพิมพ์ใช้พื้นที่ในการจัดวางน้อยที่สุดรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในปัจจุบัน”  นายธีรวุธ กล่าวถึงนโยบายพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เน้นหลัก Customer First

 

เพิ่มศักยภาพสินค้า เติมเต็มความต้องการ หวังก้าวสู่ 1 ใน 2 ผู้นำตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทเมืองไทย
“ในปีที่ผ่านมา บราเดอร์ มีส่วนแบ่งทางการตลาดของกลุ่มเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทประมาณ 20% โดยในปี 2564 บราเดอร์ ได้นำกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทระบบแท็งก์ 6 รุ่นที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพในทุกๆ ด้าน เข้ามาเปิดตลาดในเมืองไทยให้ตอบสนองต่อลูกค้าในทุกกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มผู้ใช้งานจากที่บ้านหรือต้องการฟังก์ชั่นการใช้งานที่ไม่ซับซ้อน, กลุ่มผู้ใช้งานในธุรกิจขนาดเล็กและกลาง ที่ต้องการใช้งานฟังก์ชั่นมากขึ้น เพื่อรองรับงานพิมพ์ให้เหมาะสมกับธุรกิจ และกลุ่มที่ต้องการเครื่องพิมพ์ที่ครบครันด้วยการทำงานแบบมัลติฟังก์ชัน เช่น ออฟฟิศขนาดใหญ่ ที่สามารถ” รองรับระบบ wireless เพื่อเพิ่มทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดแก่ลูกค้า นอกจากนี้ ยังได้วางกลยุทธ์ในการสื่อสารให้ลูกค้าได้ทราบถึงประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อเลือกใช้เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทของ บราเดอร์ผ่านทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยการเปิดตัวในครั้งนี้ บราเดอร์ ได้พัฒนาคอนเทนต์เฉพาะเพื่อเจาะถึงลูกค้าทั้งกลุ่ม SME กลุ่มพนักงานออฟฟิศ และกลุ่มคนรุ่นใหม่ซึ่งแต่ละกลุ่มมีความต้องการและความสนใจที่หลากหลาย โดยร่วมกับ content creator เบอร์ 1 ของเมืองไทย ‘พี่เอ็ด 7วิ” มา สร้างสรรค์เนื้อหาที่สุดบรรเจิดรีวิวเครื่องพิมพ์ series ใหม่ทั้ง 6 รุ่น และร่วมงานเปิดตัวในครั้งนี้ด้วย เพื่อนำเสนอประโยชน์ที่คุ้มค่าที่มาพร้อมนวัตกรรมเทคโนโลยีรุ่นล่าสุดเพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ลูกค้าของบราเดอร์ในครั้งนี้ด้วย โดย บราเดอร์ คาดว่าการรุกตลาดอยากหนักในปีนี้จะสามารถดันส่วนแบ่งการตลาดในส่วนกลุ่มเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทให้เพิ่มขึ้นเป็น 30% บราเดอร์ มุ่งเน้นการทำธุรกิจในแบบยั่งยืน ยึดถือประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับเป็นอันดับแรก จึงเป็นที่มาของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความทนทาน ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด เสริมด้วยการมีทีมบริการหลังการขายที่แข็งแกร่งมีมาตรฐานเพื่อสร้างให้ลูกค้ามั่นใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา ” นาย  ณเอก สงศิริ รักษาการผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

บราเดอร์ อิงค์เจ็ท ระบบแท็งก์
6 รุ่นใหม่ ให้รายละเอียดสีเสมือนจริงด้วย wide color gamut
พิมพ์เร็วยิ่งขึ้น ประหยัดยิ่งกว่า ด้วยฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด
บราเดอร์ เปิดตัวเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทระบบแท็งก์ซีรีส์ใหม่ล่าสุดที่อัดแน่นไปด้วยหลากหลายคุณสมบัติ พิมพ์เร็วยิ่งขึ้น ประหยัดยิ่งกว่า ไม่กินเนื้อที่ในการจัดวาง อัดแน่นด้วยฟีเจอร์หลากหลายที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการเชื่อมต่อแบบไร้สาย เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน มั่นใจได้ในคุณภาพการพิมพ์ ตอบรับอนาคตแห่งการพิมพ์เพื่อธุรกิจที่กำลังเปลี่ยนรูปแบบไปสู่การทำงานแบบไม่จำกัดสถานที่ (remote working) และตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ

“ปัจจุบันรูปแบบการทำงานแบบไม่จำกัดสถานที่ (remote working) กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีการปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม (social distancing) ภายในสำนักงานมากขึ้น การใช้เครื่องพิมพ์ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก จึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อย่างมาก” นางสาวทิพยา ไตรเสถียรกุล ผู้จัดการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทระบบแท็งก์ใหม่ล่าสุดของบราเดอร์นำเสนอโซลูชันการทำงานที่เปี่ยมประสิทธิภาพในราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายมากยิ่งขึ้น สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกทั้งที่บ้านและภายในสำนักงาน ให้คุณภาพการพิมพ์ที่ยอดเยี่ยมขณะที่ยังคงต้นทุนการพิมพ์ที่ต่ำ อีกทั้งยังมีฟังก์ชันการทำงานแบบไร้สายและเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น”

ทั้งนี้ เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทระบบแท็งก์ซีรีส์ใหม่ของบราเดอร์ ประกอบด้วย 6 รุ่นที่สอดคล้องกับทุกความต้องการ ครบครันด้วยฟีเจอร์และประสิทธิภาพในการทำงานในมิติต่างๆ ดังนี้ คุ้มค่าเกินนิยามคำว่าคุ้ม โดดเด่นแบบเหนือชั้นด้วยต้นทุนต่อแผ่นการพิมพ์ขาวดำเพียง 3 สตางค์ โดยหมึกขวดสีดำพิมพ์ได้สูงสุดถึง 7,500 แผ่น ส่วนหมึกสีพิมพ์ได้สูงสุดถึง 5,000 แผ่น ด้วยระบบพิมพ์ 2 หน้าอัตโนมัติ ช่วยลดการสิ้นเปลืองกระดาษมากถึง 50% ใช้งานง่ายยิ่งขึ้นด้วยฟังก์ชัน Copy shortcut ที่ช่วยให้การถ่ายเอกสารง่ายดายและรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยการกดเพียงครั้งเดียว เติมหมึกง่ายยิ่งขึ้น สะดวกไม่หกเลอะภายในเวลา  5 นาที จะพิมพ์ สแกน หรือถ่ายเอกสารก็สามารถทำได้ครั้งละหลายแผ่น ระบบเติมหมึกมีฝาโปร่งใส ช่วยให้มองเห็นระดับหมึกได้ชัดเจน เพิ่มผลผลิตให้ธุรกิจของคุณ พิมพ์ด้วยความเร็วสูง ทำงานได้เร็วยิ่งขึ้นด้วยความเร็วในการพิมพ์สูงถึง 17 ipm สำหรับการพิมพ์สีดำ และ 16.5 ipm สำหรับการพิมพ์สี ประหยัดเวลากว่าเดิมด้วยระยะเวลาการพิมพ์แผ่นแรก first-page-out timesที่ใช้เวลาเพียง 6 วินาทีสำหรับการพิมพ์สีดำ และ 6.5 วินาทีสำหรับการพิมพ์สี คุณภาพงานพิมพ์ระดับมืออาชีพด้วยเทคโนโลยี wide color gamut ทำให้ได้ภาพที่มีเฉดสีมากยิ่งขึ้น มีสีสันสดใส เชื่อมต่อเครื่องพิมพ์ได้อย่างง่ายดายด้วยระบบการเชื่อมต่อแบบไร้สายและ Ethernet สั่งพิมพ์ได้ทุกที่ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็สามารถสั่งพิมพ์ผ่านอีเมลได้ หรือจะสั่งพิมพ์จากอุปกรณ์สื่อสารได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นไอโฟน ไอแพด แอนดรอยด์™ และวินโดว์ส® โมบายล์ ด้วยระบบ iPrint&Scan, Airprint และ Mopria ของบราเดอร์ สแกนและสั่งพิมพ์โดยผ่านเครือข่ายไร้สาย ด้วย Wi-Fi Direct ช่วยให้สามารถสั่งพิมพ์หรือสแกนจากอุปกรณ์สื่อสารได้โดยตรง

โดยบราเดอร์ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ  เมื่อซื้อเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันอิงค์แท็งก์รุ่นที่ร่วมรายการ (DCP-T220, DCP-T420W, DCP-T520W, DCP-T720DW, DCP-T820DW, MFC-T920DW) จำนวน 1 เครื่อง รับฟรี! กระดาษโฟโต้ Innobella Premium Plus Glossy Photo Paper ขนาด 4”x6” จำนวน 1 แพ็ค มูลค่า 119 บาท ตั้งแต่ 22 มี.ค. – 30 เม.ย. 2564 (หรือจนกว่าของจะหมด)
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์
Seafood from Norway Festival 2025 ป๊อปอัพสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมนำทุกท่านดำดิ่งสู่โลกแห่งอาหารทะเลจากน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาดของนอร์เวย์ ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสและสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง Seafood from Norway และผู้บริโภคชาวไทย ถ่ายทอดเรื่องราวของธรรมชาติ ผู้คน และอนาคตที่มีร่วมกัน พร้อมกิจกรรมโซนอินเทอร์แอคทีฟ ลิ้มลองเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และบูธจากพาร์ทเนอร์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 กันยายน 2568 เวลา 10.00–22.00 น. ณ EM MARKET ห้างสรรพสินค้า EMSPHERE กรุงเทพฯ
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก  ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เปิดนิทรรศการ “Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” หยิบซอสปรุงรสท้องถิ่นมาต่อยอดในมุมมองใหม่ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมที่กินได้” ร้อยเรียงเรื่องราวผ่าน 4 โซนนิทรรศการที่ชวนสำรวจทั้งวัฒนธรรมการกิน ภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านขวดซอส ลิ้มรสซอสไทย ที่ถูกครีเอตในรูปแบบใหม่ พร้อมมองโอกาสของเครื่องปรุงไทยที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยนิทรรศการดังกล่าวสามารถเข้าชมได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้จนถึง 23 พฤศจิกายน 2568 ณ Front Lobby ชั้น 1 TCDC กรุงเทพฯ