ไฟ-ฟ้า โดย ทีทีบี เดินหน้ากลยุทธ์ “3C”Care-Connect-Contribute จุดประกายเยาวชนให้ก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19

1    3,085    9    21 ก.ย. 2564 14:37 น.   
แบ่งปัน

ไฟ-ฟ้า โดย ทีทีบี เดินหน้ากลยุทธ์ “3C”Care-Connect-Contribute  จุดประกายเยาวชนให้ก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19

   โครงการไฟ-ฟ้า กิจกรรมสังคมเพื่อความยั่งยืน ภายใต้การสนับสนุนหลักจากทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) ที่มุ่งจุดประกายเยาวชนและชุมชน ช่วยเสริมสร้างสิ่งดี ๆคืนสู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน ตอกย้ำแนวคิด Make REAL Change ผ่านโครงการต่าง ๆ เพื่อจุดประกายเยาวชนและชุมชนให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนให้ก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกันโดยในส่วนของการจุดประกายเยาวชน โครงการไฟ-ฟ้า โดย ทีทีบี ได้เดินหน้าปรับกลยุทธ์เพื่อต่อสู้กับวิกฤตโควิด-19 ผ่านแนวคิด“3C”คือ1.Care ส่งต่อความห่วงใยให้เด็กๆผ่านกิจกรรม D.I.Y “กล่องไฟ-ฟ้าหรรษา” ส่งตรงความรู้ถึงบ้านและเปลี่ยนศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า เป็นศูนย์แบ่งปัน“กล่องให้อิ่ม”ส่งข้าวกล่องให้เด็ก ๆและชุมชนที่ขาดแคลน2.Connect ชื่อมต่อการเรียนรู้ของเด็ก ๆ ไฟ-ฟ้าให้ไม่สะดุด ด้วยการปรับการเรียนการสอน รวมถึงกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจเป็นแบบออนไลน์เต็มรูปแบบ ในช่วงที่ต้องปิดศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้าชั่วคราวและ3.Contribute ส่งเสริมการส่งต่อสิ่งดี ๆ ผ่านโครงการPay it forward ในรูปแบบออนไลน์ เพื่อจุดประกายให้เยาวชนนำสิ่งที่ได้เรียนรู้จากไฟ-ฟ้า ไปพัฒนาชุมชนและสังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน เพื่อก้าวผ่านสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน
 
นางสาวมาริสา จงคงคาวุฒิ เจ้าหน้าที่บริหารกิจกรรมสังคมเพื่อความยั่งยืน ทีเอ็มบีธนชาตหรือ ทีทีบี (ttb) เปิดเผยว่า “สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนของสังคม ทั้งด้านสุขภาพ เศรษฐกิจและการดำรงชีวิต รวมถึงศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้าสำหรับเยาวชนที่ต้องปิดชั่วคราวในช่วงที่ผ่านมาเพื่อความปลอดภัยและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ ด้วยความตั้งใจในฐานะการเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้และด้วยความเชื่อว่าการเรียนรู้ไม่ควรหยุดนิ่ง และความตั้งใจที่จะส่งมอบความรู้ให้เด็ก ๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้าจึงปรับกลยุทธ์กิจกรรมสู่รูปแบบออนไลน์เต็มรูปแบบ ภายใต้แนวคิด 3C ประกอบด้วย Care, Connect และ Contribute”
 
สำหรับกลยุทธ์ภายใต้แนวคิด 3C เพื่อจุดประกายเยาวชน ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ประกอบด้วย
1. Care คือการส่งต่อความห่วงใยให้เด็ก ๆผ่านกิจกรรม D.I.Y ส่งตรงถึงบ้าน ด้วยการส่งกล่องไฟ-ฟ้าหรรษาที่มีอุปกรณ์สำหรับทำกิจกรรมเสริมสร้างทักษะศิลปะที่บ้าน เพื่อช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ในช่วงที่ต้องอยู่บ้านเป็นเวลานาน และกล่องห่วงใยบรรจุเวชภัณฑ์พื้นฐานที่จำเป็นสำหรับเด็ก ๆ อาทิหน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์ เพื่อช่วยสนับสนุนในเรื่องความปลอดภัยในช่วงสถานการณ์วิกฤตนี้พร้อมเปลี่ยนศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้าทั้ง 4 ศูนย์ ประกอบด้วย ประชาอุทิศ จันทน์ บางกอกน้อย และสมุทรปราการเป็นศูนย์แบ่งปันกล่องให้อิ่ม” เพื่อส่งต่อความห่วงใย ให้กับเด็กไฟ-ฟ้าและเครือข่ายชุมชนต่าง ๆ ที่ขาดแคลน
 
2. Connect การเชื่อมต่อการเรียนรู้ได้ไม่สะดุด ในช่วงโควิด-19 ที่จำเป็นต้องปิดศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้าชั่วคราว ด้วยการปรับคลาสต่าง ๆ ให้เป็นออนไลน์เต็มรูปแบบตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยปัจจุบันได้เปิดคลาสการเรียนการสอนแบบออนไลน์รวมแล้วกว่า10 คลาส อาทิ คลาสเรียนศิลปะ ร้องเพลง เต้น กีต้าร์ วงดนตรี เทควันโด คอมพิวเตอร์กราฟิก ทำอาหาร รวมถึงเรียนภาษาต่าง ๆ  เพื่อให้เด็ก ๆ ไฟ-ฟ้าสามารถเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงเวลาที่ต้องอยู่บ้านและล่าสุดได้จัดกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจ “ชวนกัน(ต์)คุย” ในรูปแบบออนไลน์ โดยพิธีกรคนดัง กันต์-กันตถาวร มาพูดคุยถึงเส้นทางชีวิตการเป็นนักแสดงจนถึงพิธีกร พร้อมให้ข้อคิดและแนะนำเทคนิคการเดินตามฝัน รวมถึงการมีแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก ที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเด็ก ๆ ไฟ-ฟ้า ได้พูดคุย แชร์ประสบการณ์ และทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันได้  ช่วยเติมเต็มความสุขและผ่อนคลายความเครียดให้เด็ก ๆ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19นี้ได้เป็นอย่างดี
 
3. Contributeคือการรู้จักส่งต่อสิ่งดี ๆ ผ่านโครงการPay it forward ในรูปแบบออนไลน์เพื่อจุดประกายให้เยาวชนนำสิ่งที่ได้เรียนรู้จากไฟ-ฟ้า ไปพัฒนาชุมชนและสังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน โดยให้เด็กไฟ-ฟ้าจะได้เรียนรู้การทำงานร่วมกันผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อระดมความคิดในการนำเสนอผลงานที่สร้างสรรค์และส่งต่อการให้คืนแก่ชุมชนในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การออกแบบสินค้า ที่ได้รับจากการเรียนรู้ที่ศูนย์ฯ เพื่อจำหน่าย หรือการแสดงความสามารถผ่านทักษะการร้องเพลง เต้น และกีฬาต่างๆ นำเสนอในรูปแบบของคลิปวิดีโอเพื่อเผยแพร่ให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้าง และนำรายได้ที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์นี้ส่งต่อคืนให้กับชุมชนและสังคมต่อไป
 
“โครงการไฟ-ฟ้า โดย ทีทีบี ตระหนักถึงความสำคัญในการเรียนรู้ของเด็ก ๆ ที่ไม่ควรหยุดนิ่ง พร้อมมีเป้าหมายที่จะสร้างโอกาสให้เด็ก ๆ พัฒนาตัวเองผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ควบคู่กับการเรียนรู้ และการเป็นผู้ให้โดยตั้งแต่มีสถานการณ์โควิด-19 เราได้ปรับเปลี่ยนกิจกรรมและหลักสูตรให้เป็นแบบออนไลน์ทั้งหมดเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันและความปลอดภัยต่อเด็ก ๆ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งนี้ยังคงบรรลุเป้าหมายใหญ่ของโครงการไฟ-ฟ้าโดย ทีทีบี ที่มุ่งจุดประกายเยาวชนและชุมชน ตอกย้ำแนวคิด Make REAL Change ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนเพื่อสังคมดีขึ้นอย่างยั่งยืน และให้คนไทยก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน”นางสาวมาริสากล่าวสรุป
 
ไฟ-ฟ้าโดยทีทีบี มุ่งมั่นและตั้งใจเดินหน้าจุดประกายเยาวชนและชุมชน เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ติดตามกิจกรรมดี ๆ ต่อได้ที่ www.tmbfoundation.or.th
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์
Seafood from Norway Festival 2025 ป๊อปอัพสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมนำทุกท่านดำดิ่งสู่โลกแห่งอาหารทะเลจากน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาดของนอร์เวย์ ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสและสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง Seafood from Norway และผู้บริโภคชาวไทย ถ่ายทอดเรื่องราวของธรรมชาติ ผู้คน และอนาคตที่มีร่วมกัน พร้อมกิจกรรมโซนอินเทอร์แอคทีฟ ลิ้มลองเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และบูธจากพาร์ทเนอร์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 กันยายน 2568 เวลา 10.00–22.00 น. ณ EM MARKET ห้างสรรพสินค้า EMSPHERE กรุงเทพฯ
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก  ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เปิดนิทรรศการ “Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” หยิบซอสปรุงรสท้องถิ่นมาต่อยอดในมุมมองใหม่ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมที่กินได้” ร้อยเรียงเรื่องราวผ่าน 4 โซนนิทรรศการที่ชวนสำรวจทั้งวัฒนธรรมการกิน ภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านขวดซอส ลิ้มรสซอสไทย ที่ถูกครีเอตในรูปแบบใหม่ พร้อมมองโอกาสของเครื่องปรุงไทยที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยนิทรรศการดังกล่าวสามารถเข้าชมได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้จนถึง 23 พฤศจิกายน 2568 ณ Front Lobby ชั้น 1 TCDC กรุงเทพฯ