ฟรีสแลนด์คัมพิน่าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน #วันอาหารโลก #NourishingbyNature ตอกย้ำพันธกิจในการมอบโภชนาการที่ดีให้แก่ทุกคนในสังคม สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมประโยชน์ พร้อมเสริมสร้างความยั่งยืนให้แก่กระบวนการผลิต

1    3,172    9    21 ต.ค. 2564 15:35 น.   
แบ่งปัน

ฟรีสแลนด์คัมพิน่าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน #วันอาหารโลก  #NourishingbyNature ตอกย้ำพันธกิจในการมอบโภชนาการที่ดีให้แก่ทุกคนในสังคม  สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมประโยชน์ พร้อมเสริมสร้างความยั่งยืนให้แก่กระบวนการผลิต

   บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากนมโคคุณภาพหลากหลายแบรนด์ ได้แก่ โฟร์โมสต์ นกเหยี่ยวฟอลคอน และเดบิค ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลอง #วันอาหารโลก หรือ #WorldFoodDay ประจำปี 2564 ด้วยการตอกย้ำพันธกิจองค์กร ในการส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารที่มีเปี่ยมด้วยโภชนาการและสารอาหารที่จำเป็น ในราคาที่เข้าถึงได้และเสริมสร้างความยั่งยืนให้ทั้งกระบวนการผลิต เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่สุขภาพของผู้บริโภค พร้อมลดผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations, FAO) ได้กำหนดให้วันที่ 16 ตุลาคม ของทุกปีเป็น วันอาหารโลก (World Food Day) จากข้อมูลล่าสุดบนเว็บไซต์ของ FAO (www.fao.org/world-food-dayระบุว่า มีคนกว่า 3 พันล้านคน หรือราว 40% ของประชากรทั่วโลก ไม่สามารถจ่ายเงินซื้ออาหารที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพได้ และเกือบ 2 พันล้านคน ประสบปัญหาน้ำหนักเกิน หรือเป็นโรคอ้วน จากการได้รับโภชนาการที่ไม่ดีและมีพฤติกรรมที่ไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายอย่างเหมาะสม คาดการณ์ว่าค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของคนทั่วโลก อาจเพิ่มสูงกว่า 1.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐภายในปี พ.ศ. 2573
 
ปัจจุบันอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร มีอัตราการจ้างงานมากกว่า 1 พันล้านคน ซึ่งมากกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ จึงสามารถสร้างผลกระทบได้อย่างมีนัยสำคัญ เกษตรกรรายเล็ก ผลิตอาหารคิดเป็น 33% ของอาหารโลก ซึ่งประสบปัญหาและความท้าทายในการประกอบอาชีพจากความยากจน การไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน องค์ความรู้และเทคโนโลยีที่เหมาะสมได้ ฟรีสแลนด์คัมพิน่า ซึ่งเป็นหนึ่งในสหกรณ์โคนมที่มีสมาชิกเกษตรกรมากที่สุดและมีมาอย่างยาวนานกว่า 150 ปี รวมถึงเป็นบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากนมโคคุณภาพหลายแบรนด์ ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจอย่างมีเป้าหมาย เพื่อส่งต่อสิ่งดีๆ ให้สังคม โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่กระบวนการผลิต ผ่านโครงการ Dairy Development (พัฒนาคุณภาพน้ำนม) ที่เป็นการแบ่งปันองค์ความรู้จากเนเธอร์แลนด์ การจัดอบรมให้เกษตรกรไทย เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์อาหารนมที่มีคุณภาพ อุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ในราคาที่เข้าถึงได้ให้แก่ผู้บริโภคทุกกลุ่ม 
 
และด้วยการเป็นองค์กรระดับนานาชาติ ฟรีสแลนด์คัมพิน่าจึงดำเนินการตามเป้าหมายดังกล่าว ทุกประเทศ ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ ซึ่งหลายประเทศได้รับผลกระทบจากวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แล้ว องค์กรยังคงเดินหน้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากน้ำนมโคคุณภาพตามแนวทางด้านความยั่งยืน ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรโคนม โดยฟรีสแลนด์คัมพิน่าได้เข้าถึงเกษตรกรโคนมมากกว่า 250,000 รายทั่วโลก ใน 8 ประเทศหลัก ทั้งในทวีปเอเชีย แอฟริกา และยุโรปตะวันออก มอบโอกาสให้เกษตรท้องถิ่นได้สามารถเข้าถึงตลาดมากกว่า 75,000 ราย ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโภชนาการที่ดี ผ่านผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพของแบรนด์ต่างๆ
 
สามารถรับชมวิดีโอเกี่ยวกับวันอาหารโลกของฟรีสแลนด์คัมพิน่าได้ที่นี่

#FrieslandCampina
#NourishingbyNature
#ForemostThailand
#ฟรีสแลนด์คัมพิน่า
#โฟร์โมสต์ประเทศไทย
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์
Seafood from Norway Festival 2025 ป๊อปอัพสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมนำทุกท่านดำดิ่งสู่โลกแห่งอาหารทะเลจากน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาดของนอร์เวย์ ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสและสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง Seafood from Norway และผู้บริโภคชาวไทย ถ่ายทอดเรื่องราวของธรรมชาติ ผู้คน และอนาคตที่มีร่วมกัน พร้อมกิจกรรมโซนอินเทอร์แอคทีฟ ลิ้มลองเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และบูธจากพาร์ทเนอร์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 กันยายน 2568 เวลา 10.00–22.00 น. ณ EM MARKET ห้างสรรพสินค้า EMSPHERE กรุงเทพฯ
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก  ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เปิดนิทรรศการ “Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” หยิบซอสปรุงรสท้องถิ่นมาต่อยอดในมุมมองใหม่ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมที่กินได้” ร้อยเรียงเรื่องราวผ่าน 4 โซนนิทรรศการที่ชวนสำรวจทั้งวัฒนธรรมการกิน ภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านขวดซอส ลิ้มรสซอสไทย ที่ถูกครีเอตในรูปแบบใหม่ พร้อมมองโอกาสของเครื่องปรุงไทยที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยนิทรรศการดังกล่าวสามารถเข้าชมได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้จนถึง 23 พฤศจิกายน 2568 ณ Front Lobby ชั้น 1 TCDC กรุงเทพฯ