“เอสซีจี” อัพเดต 5 เทรนด์บ้าน ที่อยู่อาศัย และการก่อสร้าง มาแรงปี 2022 ตอบวิถี Now Normal เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกๆ วัน

1    1,290    9    6 ม.ค. 2565 15:50 น.   
แบ่งปัน

“เอสซีจี” อัพเดต 5 เทรนด์บ้าน ที่อยู่อาศัย และการก่อสร้าง มาแรงปี 2022 ตอบวิถี Now Normal เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกๆ วัน

   คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กินเวลานานกว่า 2 ปี รวมถึงวิกฤติโลกร้อนที่รุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทุกบริบทของการใช้ชีวิต และการทำงาน ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามเทรนด์โลกวิถีใหม่ ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นวิถีชีวิตปกติของวันนี้ หรือ ‘Now Normal’ ที่ทุกคนเริ่มคุ้นเคย เรียนรู้ที่จะวางแผน และปรับชีวิตให้เข้ากับสถานการณ์ที่คาดเดาไม่ได้ เอสซีจี ในฐานะ Innovative leader ในวงการวัสดุก่อสร้าง อาคารและที่อยู่อาศัยจึงนำแนวคิด “นวัตกรรมอัจฉริยะ เพื่อคุณภาพชีวิตและการอยู่อาศัยที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน” (SCG for Smart Living, Smart City) มาผสานกับพฤติกรรมการอยู่อาศัยที่เปลี่ยนไป พร้อมแนะนำเป็น 5 เทรนด์บ้าน ที่อยู่อาศัย และการก่อสร้างแห่งปี 2022 เพื่อตอบโจทย์วิถี Now Normal  สร้างคุณภาพชีวิตและการอยู่อาศัยที่ดีขึ้นในทุกๆ วัน ให้กับทุกๆ คน

นายนิธิ ภัทรโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวว่า “โควิด-19 และโลกร้อนกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมการอยู่อาศัย และการก่อสร้างวิถีใหม่ โดยผู้คนต้องการที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัย มีสุขอนามัย เอื้อต่อการสร้างเสริมสุขภาพที่ดี สะดวกสบาย และตอบการใช้งานที่หลากหลาย ขณะเดียวกันก็คำนึงถึงการประหยัดพลังงาน ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนเพิ่มขึ้นด้วย ทำให้ทุกคนเริ่มปรับตัว และพัฒนาวิถีชีวิตให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงสู่ยุค Now Normal ซึ่งบ้านถือเป็น Safe Space ในการใช้ชีวิต และทำทุกกิจกรรมต่างๆ ทั้งทำงาน เรียน พักผ่อน และอีกมากมาย โดยเอสซีจี เชื่อว่านวัตกรรม หรือเทคโนโลยีดิจิทัลจะเป็นตัวช่วยสำคัญในการขับเคลื่อนการอยู่อาศัย และการก่อสร้างสู่อนาคตใหม่ที่ดีกว่า จึงนำปัจจัยเหล่านี้ มาอัพเดตเป็นเทรนด์บ้าน ที่อยู่อาศัย และการก่อสร้าง ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยในปัจจุบัน และในอนาคต เพื่อเป็นไอเดียให้ทุกคนก้าวสู่การอยู่อาศัยที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน”

5 เทรนด์บ้าน ที่อยู่อาศัย และการก่อสร้างมาแรง!! แห่งปี 2022

Smart Living and Building นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบบ้าน หรือใช้สั่งเปิด-ปิด และควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน และอาคาร เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ปลอดภัย และประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น เช่น ระบบสั่งการด้วยเสียง หรือเซนเซอร์ แอปพลิเคชัน ดิจิทัลแพลตฟอร์ม รวมไปถึงเครื่องใช้ภายในบ้านระบบอัตโนมัติต่างๆ ซึ่งเอสซีจี เล็งเห็นแนวโน้มเหล่านี้จึงได้พัฒนานวัตกรรมสินค้า และโซลูชันสำหรับการอยู่อาศัยมากมาย เช่น ระบบหลังคาโซลาร์เซลล์ สุขภัณฑ์และก๊อกน้ำอัตโนมัติ ระบบควบคุมเครื่องปรับอากาศอัจฉริยะ ระบบตรวจจับและส่งข้อมูลไร้สายประสิทธิภาพสูง ระบบปรับอากาศและระบายอากาศ เป็นต้น นอกจากนี้ยังพัฒนา Smart Living Application ระบบที่เชื่อมต่อการทำงานของนวัตกรรมจากเอสซีจีไว้ในที่เดียว

Health & Well-Being ในยุคนี้ เรื่องสุขอนามัยเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะโควิด-19 ฝุ่น PM 2.5 เชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย ต่างก็สร้างความกังวลให้เราทุกคน ดังนั้นคงจะดีไม่น้อย ถ้าเราปรับบ้าน และอาคารให้พร้อมรับมือกับความกังวลเหล่านี้ เพื่อดูแลสุขอนามัยของผู้อยู่อาศัยในระยะยาว พร้อมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และเด็กเล็กที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งเอสซีจี จึงแนะนำนวัตกรรมที่ช่วยปรับบ้านให้อยู่สบาย ปลอดภัย ไร้กังวล อาทิ ระบบ Active AIRflow™ System นวัตกรรมถ่ายเทอากาศที่ช่วยลดการสะสมเชื้อโรค ความอับชื้นภายในบ้าน และช่วยยกระดับคุณภาพอากาศภายในบ้านให้สะอาดขึ้น ระบบ Active AIR Quality นวัตกรรมจัดการคุณภาพอากาศ ป้องกันฝุ่นควัน กรองอากาศดีเข้าบ้าน ช่วยแก้ปัญหามลภาวะในบ้านอย่างยั่งยืน รวมถึงสุขภัณฑ์และกระเบื้องยับยั้งแบคทีเรียและลดการสัมผัส กลุ่ม Hygienic Tile และ Health and Clean Tile เป็นต้น

Sustainable Living ความยั่งยืนเป็นอีกหนึ่งเมกะเทรนด์ที่คนทั่วโลกให้ความสำคัญ หลายคนหันมาใส่ใจและเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่มอบความยั่งยืน ทั้งด้านเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดทรัพยากร ประหยัดพลังงาน และปลอดภัยต่อผู้อาศัย ซึ่งแนวทางการเลือกสรรก็ไม่ยากอย่างที่คิด ทุกคนสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองฉลาก SCG Green Choice หรือฉลากรับรองสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยที่ดี ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ ปูนซีเมนต์ หลังคาหลากหลายรุ่น ฝ้าและผนังสมาร์ทบอร์ด ทั้งกระเบื้องหลังคาเซรามิค คอนกรีต ไฟเบอร์ซีเมนต์ ไปจนถึงหลังคาโซลาร์ ระบบภายในอาคาร กระเบื้องเซรามิก วัสดุซับเสียง สุขภัณฑ์และก๊อกน้ำ รวมถึงวัสดุจัดสวนและพื้นที่รอบบ้าน และอีกมากมาย เรียกได้ว่าสามารถสร้างบ้าน หรือตึกที่รักษ์โลกได้ทั้งหลังกันเลยทีเดียว

Home Transformation ทุกวันนี้บ้านได้กลายเป็น “Multi-functional Space” ที่เป็นทั้งบ้าน ออฟฟิศ โรงเรียน ฟิตเนส ที่พักผ่อน ฯลฯ หลายคนจึงหันมาปรับและต่อเติมพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะกับการใช้งานของสมาชิกแต่ละคน โดยเน้นให้มีความยืดหยุ่น และใช้งานได้อย่างเอนกประสงค์มากที่สุด เช่น แบ่งสัดส่วนห้องทำงาน/ห้องเรียนในห้องนอน หรือห้องนั่งเล่น จัดสรรพื้นที่ในห้องครัวเป็นโซนนั่งชิล โต๊ะทำงาน และทานอาหาร ตกแต่งสวนหน้าบ้านให้เป็นสนามเด็กเล่น พื้นที่ออกกำลังกาย มุมพักผ่อน และโรงจอดรถ เป็นต้น ซึ่งวัสดุก่อสร้าง และโซลูชันที่นำมาใช้ปรับพื้นที่ เช่น แบ่งสัดส่วนพื้นที่ด้วยระบบผนังเบากันเสียง สำเร็จรูป ที่ติดตั้งได้รวดเร็ว ไม่กระทบการอยู่อาศัย และช่วยลดเศษวัสดุจากการก่อสร้าง และผนังสมาร์ทบอร์ด เพิ่มฟังก์ชันกันเสียงและซับเสียงด้วยวัสดุอะคูสติก จาก เอสซีจี ปรับพื้นที่นอกบ้าน ด้วยผลิตภัณฑ์ตกแต่งสวน พร้อมติดตั้งหลังคาโรงรถและกันสาด เป็นต้น 

Construction Transformation การออกแบบและก่อสร้างอาคารแห่งอนาคต กำลังถูกทรานฟอร์มด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรมการก่อสร้างมากมาย ซึ่งจะเข้ามาช่วยลดเวลา ลดเศษวัสดุในไซต์งานก่อสร้าง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงมีความแม่นยำสูง และครบวงจร โดยเทคโนโลยีที่มีการนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ได้แก่ นวัตกรรม 3D Cement Printing ใช้สร้างสรรค์ได้ทั้งงานก่อสร้าง และงานตกแต่งที่มีความซับซ้อน สามารถครีเอทลายปรินท์ได้อย่างหลากหลาย ขึ้นรูปชิ้นงานได้ตามรูปแบบที่ต้องการ เทคโนโลยี Building Information Modeling (BIM) ที่ช่วยสร้างความแม่นยำในการออกแบบ บริหารจัดการและควบคุมคุณภาพงานก่อสร้างตั้งแต่ก่อนโครงการขณะก่อสร้างและหลังจบโครงการ และ Drone นวัตกรรมประเมินพื้นที่ก่อนออกแบบผังโครงการ ช่วยลดความผิดพลาดในการก่อสร้าง เพิ่มความปลอดภัยในไซต์งาน เป็นต้น

เอสซีจี ดำเนินธุรกิจควบคู่กับแนวคิด ESG (Environmental, Social, Governance) กรอบการพัฒนาทางสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม เราจึงมุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อ ‘สิ่งที่ดีกว่า’ เพื่อให้สินค้า บริการ และโซลูชันของเรา เป็นหนึ่งในตัวช่วยในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้กับทุกคน สามารถตอบความต้องการด้านที่อยู่อาศัย และการก่อสร้างที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และยังเป็นการช่วยโลกด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน” คุณนิธิ กล่าวทิ้งท้าย

ผู้ที่สนใจสินค้า บริการ และโซลูชั่นต่างๆ หรือ ต้องการปรึกษาทีมผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพจาก SCG สามารถติดตามข่าวสาร และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SCG Home Contact Center 02-586-2222 หรือ https://www.scgbuildingmaterials.com/ หรือ Facebook Page : SCGBrand
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
Merry Christmeow!! ไปกับ “NOSE TEA” ชวนฟินส่งท้ายปี ในธีม “Ladies & Gentlecats” ถ่ายทอดเสน่ห์ 4 เมนูคาราเมล บิสกิต ผ่านคาแรคเตอร์น้อนในสไตล์ผู้ดีอังกฤษ!! สำนักพิมพ์แม่บ้าน
Merry Christmeow!! ไปกับ “NOSE TEA” ชวนฟินส่งท้ายปี ในธีม “Ladies & Gentlecats” ถ่ายทอดเสน่ห์ 4 เมนูคาราเมล บิสกิต ผ่านคาแรคเตอร์น้อนในสไตล์ผู้ดีอังกฤษ!!
“NOSE TEA” แบรนด์ชาชีสสัญชาติไทยที่นอกจากจะมีครีมชีสเป็นซิกเนเจอร์แล้ว แบรนด์ยังโดดเด่นในด้านงานครีเอทีฟโปรเจ็กต์อยู่ตลอด ล่าสุดชวนแคทเลิฟเวอร์ทุกคนมาเปิดประสบการณ์ฟินคริสมาสต์ข้ามปีไปด้วยกันกับ 4 เมนูใหม่ที่มีส่วนผสมจากคาราเมล บิสกิต ที่ “NOSE TEA” ยกให้เป็นขนมตัวแทนในช่วง “เฟสทีฟ” หรือเทศกาลเฉลิมฉลองในช่วงคริสมาสต์และปีใหม่ที่จะถึงนี้ ซึ่ง 4 เมนูนี้ยังมีส่วนผสมของบิสกิต ครั้มบ์ เพิ่มความกรุบกรอบให้เคี้ยวเพลิน ฟินไม่หยุด
เนสเพรสโซ เดินหน้าลุยเส้นทางการรีไซเคิลจับมืออินฟลูเอนเซอร์สายสิ่งแวดล้อม มุ่งเป้าเพิ่มอัตราการส่งคืนแคปซูลกาแฟใช้แล้วในปีนี้ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
เนสเพรสโซ เดินหน้าลุยเส้นทางการรีไซเคิลจับมืออินฟลูเอนเซอร์สายสิ่งแวดล้อม มุ่งเป้าเพิ่มอัตราการส่งคืนแคปซูลกาแฟใช้แล้วในปีนี้
Nespresso (เนสเพรสโซ) ผู้นำด้านกาแฟแคปซูลและเครื่องชงกาแฟชนิดแคปซูลระดับพรีเมียมจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เดินหน้าตอกย้ำแคมเปญ ‘My Cup of Purpose’ ดึงอินฟลูเอนเซอร์สายสิ่งแวดล้อมร่วมโปรโมต ‘ความยั่งยืน (Sustainability)’ ในประเทศไทยให้จับต้องได้มากยิ่งขึ้น ผ่านโมเดลรีไซเคิลแคปซูลอะลูมิเนียมและกากกาแฟ พร้อมตั้งเป้าผลักดันอัตราการส่งคืนแคปซูลภายในปี 2568 นี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่หยั่งรากลึกอยู่ในทุกขั้นตอนของการเดินทาง ตั้งแต่เมล็ดกาแฟ สู่แคปซูลกาแฟที่คุณดื่มทุกวัน ต่อยอดไปจนถึงกระบวนการ Second Life
เปิดตัวยิ่งใหญ่! ‘MUJI centralwOrld’ แฟล็กชิพสโตร์ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย สำนักพิมพ์แม่บ้าน
เปิดตัวยิ่งใหญ่! ‘MUJI centralwOrld’ แฟล็กชิพสโตร์ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย
เซ็นทรัลพัฒนา ผู้นำเบอร์หนึ่งอสังหาริมทรัพย์ไทยเพื่อความยั่งยืน และผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ผนึก MUJI ประเทศไทย แบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับโลกจากญี่ปุ่น เปิด ‘MUJI centralwOrld’ แฟล็กชิพสโตร์ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะเป็น Global hub ที่มีสินค้า MUJI ครบทุกประเภท บนพื้นที่กว่า 3,700 ตารางเมตร ให้ประสบการณ์ช้อปปิ้งและไลฟ์สไตล์ในมาตรฐานเดียวกับ MUJI Flagship Store สาขาใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น โดยออกแบบภายใต้แนวคิด ‘MUJI Meets วิถีชีวิตแบบไทย’ ถ่ายทอดความเรียบง่ายแบบญี่ปุ่น ผสานเอกลักษณ์ความเป็นไทยอย่างกลมกลืน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการฟังก์ชัน คุณภาพ และดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ สำหรับ ‘MUJI centralwOrld’ ตั้งอยู่ที่ชั้น 4 โซน I (ไอ) นับเป็น MUJI สาขาที่ 15 ของเซ็นทรัลพัฒนา และเป็นสาขาที่ 40 ของประเทศไทย