สัตวแพทย์ ย้ำระบบการเลี้ยงปลาทับทิมมีมาตรฐาน ปลอดภัย ใส่ใจสัตว์-ผู้บริโภค-สิ่งแวดล้อม

1    823    9    18 มี.ค. 2565 13:31 น.   
แบ่งปัน

สัตวแพทย์ ย้ำระบบการเลี้ยงปลาทับทิมมีมาตรฐาน ปลอดภัย ใส่ใจสัตว์-ผู้บริโภค-สิ่งแวดล้อม

   สัตวแพทย์ ม.เกษตร แนะ “ปลา” เป็นแหล่งโปรตีนที่ย่อยง่าย อุดมด้วยกรดไขมันชนิดดี แร่ธาตุ และวิตามินที่สำคัญ ระบบการเลี้ยงในปัจจุบันมีการทำเทคโนโลยีทันสมัยมาประยุกต์ใช้ เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด พร้อมปฏิบัติตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ เพื่อให้สัตว์มีความสุขกาย สบายใจ ย้ำผู้บริโภคมั่นใจคุณภาพเนื้อปลาปราศจากยาปฏิชีวนะและสารเคมีตกค้าง ปลอดภัย ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

อ.สพ.ญ.ดร.ปริญทิพย์ วงศ์ไทย ภาควิชาเวชศาสตร์และทรัพยากรการผลิตสัตว์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า จากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ผนวกกับความต้องการบริโภคอาหารที่ดีเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดตามเทรนด์ใส่ใจสุขภาพ จึงส่งผลให้ผู้ประกอบการหรือเกษตรกรผู้เลี้ยงมีการพัฒนารูปแบบ และวิธีการเลี้ยงตามระบบมาตรฐาน คำนึงถึงสุขภาพสัตว์ มนุษย์ และสิ่งแวดล้อม

ปลาทับทิมเริ่มมีการเลี้ยงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 ภายหลังจากมีการพัฒนาสายพันธุ์จากปลานิลดำเพื่อให้สามารถเลี้ยงได้ในพื้นที่เค็ม มีรูปร่าง สีสัน รวมถึงรสชาติที่ถูกปากผู้บริโภค เดิมทีระบบการเลี้ยงปลาทับทิมเป็นการเลี้ยงระบบเปิด บ่อดิน ไม่มีระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงทางสังคมทำให้ปลาทับทิมได้รับความนิยม เป็นที่ต้องการของตลาดเพิ่มขึ้น เกษตรกรจึงเริ่มให้ความสำคัญกับการจัดการระบบการเลี้ยงอย่างมีมาตรฐาน

ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีต่างๆมาใช้ อาทิ นวัตกรรม In-Pond Raceway System (IPRS), Recirculating aquaculture systems (RAS) หรือ Biofloc system ซึ่งเป็นระบบการเลี้ยงปลาในระบบปิด มีวัตถุประสงค์เพื่อลดการใช้พื้นที่ ลดข้อจำกัดด้านการจัดการคุณภาพน้ำ การให้อาหาร การควบคุมโรค การจัดการของเสีย รวมถึงการเพิ่มปริมาณและคุณภาพของผลผลิตเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและความยั่งยืนของอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงปลาในประเทศไทยสู่ตลาดโลก

อ.สพ.ญ.ดร.ปริญทิพย์ ระบุว่า ในการจัดตั้งฟาร์มเลี้ยงปลาต้องได้รับอนุญาตจากกรมประมง และปฏิบัติตามระบบมาตรฐานฟาร์มเพาะเลี้ยงที่ดี (Good Aquaculture Practice; GAP) เพื่อให้ระบบการเลี้ยงมีความยั่งยืน ปลอดภัยต่อผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม กรมประมง และ/หรือ มกอช. มีการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานประกอบไปด้วย 1) สถานที่ต้องมีความเหมาะสม 2) การจัดการฟาร์มที่ดี ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 3) อาหาร วิตามิน ต้องปราศจากการปนเปื้อนของยาและสารต้องห้ามในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ กระบวนการถูกสุขอนามัยปลอดภัยต่อสัตว์น้ำและผู้บริโภค 4) เกษตรกรต้องมีความรู้และเข้าใจเมื่อเกิดปัญหาการติดเชื้อในสัตว์น้ำ สามารถจัดการลดความรุนแรงโรคได้ 5) ให้ความสำคัญในการจัดการสุขอนามัยฟาร์ม ด้านการปนเปื้อนเชื้อจากขยะสิ่งปฏิกูล หรือสิ่งขับถ่ายที่อาจปนเปื้อนลงสู่บ่อเลี้ยงได้ 6) การจับและการขนส่งที่ดีจะช่วยทำให้สัตว์น้ำมีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย 7) มีการเก็บข้อมูลการเลี้ยง การให้อาหาร การตรวจสุขภาพ การใช้ยาและสารเคมีอย่างสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ อ.สพ.ญ.ดร.ปริญทิพย์ ย้ำว่า ผู้ประกอบการและเกษตรกรต้องให้ความสำคัญในทุกระบวนการตั้งแต่การเลี้ยง การจัดการฟาร์ม การขนส่ง การทำให้เสียชีวิต รวมถึงการจำหน่ายไปยังผู้บริโภค ซึ่งต้องเป็นไปตามมาตรฐานกำหนด ดำเนินกิจกรรมต่างๆภายใต้หลักสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) ที่มีความสำคัญอย่างมากในวงการเลี้ยงสัตว์ปัจจุบัน เช่น มีพื้นที่กว้างขวางพอที่สัตว์จะสามารถแสดงพฤติกรรมอย่างอิสระ ให้อาหารอย่างเพียงพอ มีการควบคุมป้องกันโรคไม่ให้สัตว์เจ็บป่วย ไม่เครียด ในอีกแง่มุมผู้เลี้ยงควรมองว่า สัตว์ที่เราเลี้ยงนั้นให้คุณประโยชน์มากมาย นอกจากสร้างรายได้แล้ว ยังเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญให้มนุษย์เราได้ดำรงชีวิตเพื่อสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ที่มีคุณค่า จึงต้องให้ความสำคัญ ตระหนัก ใส่ใจสุขภาพสัตว์ที่เราเลี้ยงอย่างดีที่สุด

นอกจากนี้ อ.สพ.ญ.ดร.ปริญทิพย์ ย้ำว่า ผู้ประกอบการและเกษตรกรต้องให้ความสำคัญในทุกระบวนการตั้งแต่การเลี้ยง การจัดการฟาร์ม การขนส่ง การทำให้เสียชีวิต รวมถึงการจำหน่ายไปยังผู้บริโภค ซึ่งต้องเป็นไปตามมาตรฐานกำหนด ดำเนินกิจกรรมต่างๆภายใต้หลักสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) ที่มีความสำคัญอย่างมากในวงการเลี้ยงสัตว์ปัจจุบัน เช่น มีพื้นที่กว้างขวางพอที่สัตว์จะสามารถแสดงพฤติกรรมอย่างอิสระ ให้อาหารอย่างเพียงพอ มีการควบคุมป้องกันโรคไม่ให้สัตว์เจ็บป่วย ไม่เครียด ในอีกแง่มุมผู้เลี้ยงควรมองว่า สัตว์ที่เราเลี้ยงนั้นให้คุณประโยชน์มากมาย นอกจากสร้างรายได้แล้ว ยังเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญให้มนุษย์เราได้ดำรงชีวิตเพื่อสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ที่มีคุณค่า จึงต้องให้ความสำคัญ ตระหนัก ใส่ใจสุขภาพสัตว์ที่เราเลี้ยงอย่างดีที่สุด
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
อิเกีย ประเทศไทย ชวนอร่อยจัดเต็มกับเทศกาลแซลมอน ด้วยหลากเมนูพิเศษจากแซลมอนนอร์เวย์ คัดสรรคุณภาพสดใหม่  1-31 พฤษภาคมนี้! สำนักพิมพ์แม่บ้าน
อิเกีย ประเทศไทย ชวนอร่อยจัดเต็มกับเทศกาลแซลมอน ด้วยหลากเมนูพิเศษจากแซลมอนนอร์เวย์ คัดสรรคุณภาพสดใหม่ 1-31 พฤษภาคมนี้!
เกีย ประเทศไทย เชิญชวนอิ่มอร่อยจัดเต็มกับเทศกาลแซลมอนที่จะจัดขึ้นในวันที่ 1-31 พฤษภาคม พ.ศ.2568 นี้ โดดเด่นด้วย 5 เมนูพิเศษหลากหลายรสชาติ ทั้งเมนูจัดจ้านแบบไทยและเมนูจานเด็ดสไตล์สแกนดิเนเวียนที่ล้วนรังสรรค์มาจากแซลมอนคุณภาพพรีเมียมนำเข้าจากแหล่งที่ยั่งยืนจากประเทศนอร์เวย์ ได้แก่ แซลมอนดองซีอิ๊ว เมนูเสิร์ฟพร้อมข้าวอย่างลาบแซลมอน แซลมอนราดซอสสับปะรด และสเต็กแซลมอน รวมถึงสเต็กแซลมอนเสิร์ฟพร้อมผักรวมย่าง โดยเน้นผสมผสานความอร่อยจากวัตถุดิบที่ผ่านการคัดสรรคุณภาพเข้ากับการสร้างสรรค์รสชาติที่หลากหลาย เปิดประสบการณ์ความอร่อย สดใหม่ ที่ดีต่อโลกและดีต่อใจในราคาที่คุ้มค่าได้แล้ววันนี้ ที่ร้านอาหารสวีเดน (IKEA Swedish Restaurant) พร้อมช้อปวัตถุดิบ อาทิ แซลมอนแล่ แซลมอนรมควัน และแซลมอนหมักเกลือ ในราคาพิเศษได้ที่มุมอาหารและขนมสวีเดน (Swedish Food Market) ณ อิเกีย บางนา อิเกีย บางใหญ่ และอิเกีย สุขุมวิท ตลอดเดือนพฤษภาคมนี้
เดินทางสู่ดินแดนสเปนโดย เชฟบอร์คา เทอรี่ บอเรโก  โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
เดินทางสู่ดินแดนสเปนโดย เชฟบอร์คา เทอรี่ บอเรโก โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์
โอ ล่า ห้องอาหารอูโนมาส ชั้น 54 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ ห้องอาหารสเปนที่มาในคอนเซปต์การเดินทางไปสู่ดินแดนมหัศจรรย์แห่งคาบสมุทรไอบีเรีย และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ด้วยความโดดเด่นขององค์ประกอบด้านดีไซน์ การตกแต่งด้วยการใช้แสงไฟ และเฉดสีฟ้าขาวทั่วห้องอาหารในบรรยากาศศิลปะแบบมัวริช เชื่อมโซนทั้ง 3 โซนเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งโซนไวน์เซลล่า โซนทาปาสแอนด์รอว์บาร์ และโซนไดนิ่งเด็ค พร้อมด้วยสถานที่ตั้งอันงดงามชั้น 54 ของโรงแรมฯ ด้วยทิวทัศน์ที่น่าตรึงตาตรึงใจบนเส้นขอบฟ้ากลางกรุง ชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น เชฟบอร์คา เทอรี่ บอเรโก หัวหน้าพ่อครัวประจำห้องอาหารอูโนมาส เชฟหนุ่มไฟแรงผู้มากด้วยประสบการณ์แห่งเมืองกาดิซ