สภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (NSC) ขนทัพอาหารทะเลสดใหม่ ร่วมงาน “Seafood under the Stars” ประจำปี 2563

1    1,909    9    30 ม.ค. 2563 17:24 น.   
แบ่งปัน

สภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (NSC) ขนทัพอาหารทะเลสดใหม่
ร่วมงาน “Seafood under the Stars” ประจำปี 2563

   หอการค้าไทย-นอร์เวย์ ร่วมกับสถานทูตนอร์เวย์ประจำประเทศไทยจัดงานรับประทานอาหารค่ำ “Seafood under the Stars” ประจำปี 2563 ณ บ้านพักเอกอัครราชทูตนอร์เวย์ประจำประเทศไทย ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 13 ด้วยจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวนอร์เวย์และผลักดันให้นอร์เวย์เป็นที่รู้จักในฐานะประเทศแห่งอาหารทะเล

ในงานนี้ สภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (NSC) ตัวแทนอุตสาหกรรมอาหารทะเลของประเทศนอร์เวย์ เป็นผู้สนับสนุนอาหารทะเลสดใหม่คุณภาพเยี่ยมส่งตรงจากนอร์เวย์ โดยมีอาหารทะเลที่เป็นตัวหลักในงานคือสัตว์น้ำทะเลที่มีเปลือกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ปูจักรพรรดิ (King Crabs) ที่เลื่องชื่อในรสชาติหวานอร่อยและก้ามเนื้อนุ่มฉ่ำ กุ้งลังกู้สตีน (Langoustines หรือ Norwegian Lobsters) กุ้งเปลือกสีชมพูอ่อนจากทะเลน้ำลึกอย่าง กุ้งกรีนแลนด์ (Cold Water Prawns) ที่มีรสชาติออกหวานและเค็ม หอยรสหวานเนื้อนุ่ม อาทิ หอยเชลล์ (Scallops) หอยมะฮอกกานี (Mahogany Clams) และ หอยแมลงภู่สีน้ำเงิน (Blue Mussels) รวมไปถึงเหล่าปลายอดนิยมอย่าง แซลมอน ฟยอร์ดเทราต์ และคอด (Atlantic Cod) ปลารสอร่อยที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์นอร์เวย์ และฮาลิบัต (Halibut) ปลาเนื้อขาวเนื้อแน่นและนุ่มฉ่ำ
 

 

สภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (NSC) ได้เผยถึงมูลค่าการส่งออกอาหารทะเลนอร์เวย์สู่ไทยในปี 2563 ที่ผ่านมานั้น มีมูลค่าสูงถึง 5.2 พันล้านบาท สัดส่วนของแซลมอนและฟยอร์ดเทราต์นับเป็น 87% ของมูลค่าการส่งออกนี้ ในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมาแซลมอนสดมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 25% และแตะ 32% เป็นครั้งแรกในปีที่แล้ว ปัจจัยหลักมาจากความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นของร้านอาหารญี่ปุ่นและร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ในไทยที่ใช้แซลมอนสดจากนอร์เวย์เป็นวัตถุดิบหลัก
 

ดร. อัสบีเยิร์น วาร์วิค เรอร์ทเว็ท ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (NSC) เผยว่า “ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดที่มีการเติบโตของการส่งออกอาหารทะเลสูงมาก โดยเฉพาะตลาดไทย นอกเหนือจากแซลมอนแล้ว ฟยอร์ดเทราต์มีการเติบโตที่สูงและเป็นที่น่าจับตามองที่สุดในหมู่อาหารทะเลนอร์เวย์ อยู่ที่ 68% โดยรวมแล้วตลาดไทยมีโอกาสขยายการส่งออกที่สูงมาก ครั้งนี้เราจึงนำเสนออาหารทะเลจากนอร์เวย์ชนิดอื่นๆ อย่างสัตว์น้ำทะเลที่มีเปลือกต่างๆ ภายในงาน ‘Seafood under the Stars’ ปี 2563 จะเป็นปีที่น่าติดตามของอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์อย่างแน่นอน”

งาน “Seafood under the Stars” ปี 2563 มีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมกว่า 320 ราย ซึ่งล้วนเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของประเทศนอร์เวย์ เจ้าของร้านอาหารชั้นนำ เชฟชื่อดัง และผู้ประกอบการค้าปลีกในประเทศไทย ถือเป็นงานสานสัมพันธ์เชิงธุรกิจที่สำคัญสำหรับบริษัทในไทยและนอร์เวย์ และเป็นการต่อยอดความสัมพันธ์อันดีที่มีมาอย่างยาวนานของทั้งสองประเทศ เชฟอาหารนอร์ดิกชื่อดัง เชฟเฟ-รุ่งทิวา ชุ่มมงคล หัวหน้าเชฟประจำห้องอาหาร ฟร้อนท์ รูม ณ โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย ได้ให้เกียรติมารังสรรค์เมนูอาหารมื้อค่ำสุดพิเศษที่ผสมผสานอาหารสไตล์นอร์ดิกกับรสชาติความเป็นไทยได้อย่างลงตัว โดยใช้อาหารทะเลสดใหม่คุณภาพสูงส่งตรงจากนอร์เวย์
 

ความโดดเด่นของอาหารทะเลนอร์เวย์ เกิดจากการเติบโตในน้ำเย็นเฉียบ ใส สะอาดของนอร์เวย์และได้รับการเพาะเลี้ยงด้วยความเชี่ยวชาญในด้านการประมงเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัย ส่งผลให้อุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์เป็นที่เลื่องชื่อในด้านการใช้อาหารสัตว์น้ำจากวัตถุดิบธรรมชาติตามมาตรฐานของสหภาพยุโรปทีปราศจากพยาธิ และมีการพัฒนาวัคซีนเพื่อป้องกันโรคทำให้แทบจะปราศจากการใช้ยาปฏิชีวนะในปลา กระบวนการผลิตอาหารทะลที่มีมาตรฐานสากลเป็นเครื่องการันตีถึงคุณภาพที่สดใหม่และปลอดภัยของอาหารทะเลจากนอร์เวย์ ประเทศนอร์เวย์ยังเป็นที่รู้จักในด้านการผลิตอาหารโดยใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ มีการทำฟาร์มเพาะพันธุ์ปลาตามแนวทางปฏิบัติที่ยอดเยี่ยม โดยคำนึงถึงสวัสดิภาพสัตว์น้ำและใส่ใจในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การผลิตอาหารทะเลที่ยั่งยืนของนอร์เวยจึงสามารถช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกของโลกได้อีกด้วย
 
“ชาวนอร์เวย์ขึ้นชื่อในเรื่องของความใส่ใจและเข้าใจในธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง ส่งผลให้นอร์เวย์เป็นประเทศผู้ผลิตอาหารทะเลที่ยั่งยืนที่สุดเจ้าหนึ่งและยังเป็นผู้ส่งออกอาหารทะเลรายใหญ่อันดับสองของโลก นอร์เวย์มีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมอาหารทะเลและสร้างมาตรฐานที่ดีให้แก่ผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโลกที่น่าอยู่ขึ้นผ่านอุตสาหกรรมอาหารทะเลที่ยั่งยืน” ดร. อัสบีเยิร์น กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
หมอนทองเลิฟเวอร์ห้ามพลาด! “ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท” พร้อมเสิร์ฟ “Durian Decadent Afternoon Tea” ชวนจิบอาฟเตอร์นูนทีระดับไฮเอนด์และลิ้มรสเมนูพิเศษที่รังสรรค์จาก “ราชาผลไม้” สำนักพิมพ์แม่บ้าน
หมอนทองเลิฟเวอร์ห้ามพลาด! “ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท” พร้อมเสิร์ฟ “Durian Decadent Afternoon Tea” ชวนจิบอาฟเตอร์นูนทีระดับไฮเอนด์และลิ้มรสเมนูพิเศษที่รังสรรค์จาก “ราชาผลไม้”
เมื่อซัมเมอร์มาเยือนเมืองไทยอีกครั้ง หลายคนคงตั้งตารอคอย "ทุเรียน" ราชาแห่งผลไม้เมืองร้อนกับรสชาติหอมหวานมันเป็นเอกลักษณ์ที่ถูกอกถูกใจทั้งคนไทยและคนทั่วโลก และในปีนี้ โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท กลับมาอีกครั้งกับแคมเปญ Durian Decadent Afternoon Tea หลังได้รับเสียงตอบรับอย่างยอดเยี่ยมเมื่อปีก่อน โดยจับมือกับ Toby's Farm สวนทุเรียนคุณภาพระดับพรีเมียมจากจังหวัดจันทบุรี ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง นำเสนอประสบการณ์การจิบน้ำชายามบ่ายที่ผสานความหรูหราเข้ากับรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของทุเรียนหมอนทอง พร้อมยกระดับ “ความโลคอล” ด้วยการนำเสนอแบบ “โกลบอล” ระดับห้าดาว โดยเซตอาฟเตอร์นูนทีในธีมทุเรียนหมอนทองสุดพิเศษนี้ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยเฉพาะฤดูกาลทุเรียนตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน - 31 พฤษภาคม 2568 เท่านั้น