‘เอส แอนด์ พี’ ขับเคลื่อนองค์กรมุ่งสู่ Net Zero นำร่องเปิดตัว ‘S&P EV Truck’ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมคันแรก พร้อมติดตั้ง ‘Solar Roof’ อีก 4 แห่ง สำเร็จในปี 2566

0    279    0    1 ก.พ. 2567 13:53 น.   
แบ่งปัน

บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) โดย คุณกำธร ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงินและการผลิต และ คุณมณีสุดา ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่สำนักพัฒนาความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เปิดตัว "S&P EV Truck" นำร่องโครงการรถขนส่งไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100 % เพื่อลดการใช้พลังงานดีเซลในระบบขนส่ง ด้วยการใช้รถบรรทุกไฟฟ้าพลังงานสะอาดทดแทน โดยมุ่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบโลจิสติกส์ และยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อ มณ ศูนย์กระจายสินค้าเอส แอนด์ พี

คุณมณีสุดา ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่สำนักพัฒนาความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร เปิดเผยว่า “บริษัทฯ มีเป้าหมายความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของสหประชาชาติ คือ เป้าหมายที่ 12 Responsible Consumption and Production: สร้างหลักประกันให้มีรูปแบบการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน และเป้าหมายที่ 13 Climate Action: ดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบ โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และเป้าหมายสูงสุดคือ การมุ่งสู่การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2065 จากความมุ่งมั่นดังกล่าวบริษัทฯ จึงปรับตัวและพัฒนาแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่คุณค่า

สำหรับในปี 2566 มีเอส แอนด์ พี เริ่มใช้รถบรรทุกขนส่งสินค้าในเดือนธันวาคม เพื่อขนส่งวัตถุดิบ บรรจุภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์S&P จากคลังสินค้ากระจายไปยังหน้าร้าน S&P สำหรับรถไฟฟ้า 1 คัน ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงปีละประมาณ 20 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังตั้งเป้าการเพิ่มรถบรรทุกพลังงานสะอาด อีก 4 คัน ในปี 2567 เพื่อครอบคลุมระยะทางขนส่งสายหลัก และยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการเผาไหม้เชื้อเพลิงด้วย

พร้อมกันนี้ ศูนย์กระจายสินค้าS&P ยังได้ติดตั้งหลังคาพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 594 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 785,712 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงต่อปี ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 390 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ได้ถึง 12,104 ต้น

นอกจากบริษัทฯ ดำเนินโครงการติดตั้งหลังคาพลังงานแสงอาทิตย์ ณ ศูนย์กระจายสินค้าเอส แอนด์ พี แล้ว ยังได้ติดตั้งหลังคาพลังงานแสงอาทิตย์ ณ โรงงานผลิตเบกอรี่และอาหาร อีก 3 แห่ง ได้แก่ โรงงานผลิตเบเกอรี่บางนา-ตราด กม.23.5 (เฟส3) โรงงานผลิตเบเกอรี่ลำพูน และ โรงงานผลิตอาหารลาดกระบัง โดยสามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์รวมทั้งสิ้น 2,285,531.60 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงต่อปี ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 1,092 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ได้ถึง 33,980 ต้น”

S&P ขอเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตลอดห่วงโซ่คุณค่าเพื่อร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์
 
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
อิเกีย ประเทศไทย ชวนอร่อยจัดเต็มกับเทศกาลแซลมอน ด้วยหลากเมนูพิเศษจากแซลมอนนอร์เวย์ คัดสรรคุณภาพสดใหม่  1-31 พฤษภาคมนี้! สำนักพิมพ์แม่บ้าน
อิเกีย ประเทศไทย ชวนอร่อยจัดเต็มกับเทศกาลแซลมอน ด้วยหลากเมนูพิเศษจากแซลมอนนอร์เวย์ คัดสรรคุณภาพสดใหม่ 1-31 พฤษภาคมนี้!
เกีย ประเทศไทย เชิญชวนอิ่มอร่อยจัดเต็มกับเทศกาลแซลมอนที่จะจัดขึ้นในวันที่ 1-31 พฤษภาคม พ.ศ.2568 นี้ โดดเด่นด้วย 5 เมนูพิเศษหลากหลายรสชาติ ทั้งเมนูจัดจ้านแบบไทยและเมนูจานเด็ดสไตล์สแกนดิเนเวียนที่ล้วนรังสรรค์มาจากแซลมอนคุณภาพพรีเมียมนำเข้าจากแหล่งที่ยั่งยืนจากประเทศนอร์เวย์ ได้แก่ แซลมอนดองซีอิ๊ว เมนูเสิร์ฟพร้อมข้าวอย่างลาบแซลมอน แซลมอนราดซอสสับปะรด และสเต็กแซลมอน รวมถึงสเต็กแซลมอนเสิร์ฟพร้อมผักรวมย่าง โดยเน้นผสมผสานความอร่อยจากวัตถุดิบที่ผ่านการคัดสรรคุณภาพเข้ากับการสร้างสรรค์รสชาติที่หลากหลาย เปิดประสบการณ์ความอร่อย สดใหม่ ที่ดีต่อโลกและดีต่อใจในราคาที่คุ้มค่าได้แล้ววันนี้ ที่ร้านอาหารสวีเดน (IKEA Swedish Restaurant) พร้อมช้อปวัตถุดิบ อาทิ แซลมอนแล่ แซลมอนรมควัน และแซลมอนหมักเกลือ ในราคาพิเศษได้ที่มุมอาหารและขนมสวีเดน (Swedish Food Market) ณ อิเกีย บางนา อิเกีย บางใหญ่ และอิเกีย สุขุมวิท ตลอดเดือนพฤษภาคมนี้
เดินทางสู่ดินแดนสเปนโดย เชฟบอร์คา เทอรี่ บอเรโก  โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
เดินทางสู่ดินแดนสเปนโดย เชฟบอร์คา เทอรี่ บอเรโก โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์
โอ ล่า ห้องอาหารอูโนมาส ชั้น 54 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ ห้องอาหารสเปนที่มาในคอนเซปต์การเดินทางไปสู่ดินแดนมหัศจรรย์แห่งคาบสมุทรไอบีเรีย และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ด้วยความโดดเด่นขององค์ประกอบด้านดีไซน์ การตกแต่งด้วยการใช้แสงไฟ และเฉดสีฟ้าขาวทั่วห้องอาหารในบรรยากาศศิลปะแบบมัวริช เชื่อมโซนทั้ง 3 โซนเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งโซนไวน์เซลล่า โซนทาปาสแอนด์รอว์บาร์ และโซนไดนิ่งเด็ค พร้อมด้วยสถานที่ตั้งอันงดงามชั้น 54 ของโรงแรมฯ ด้วยทิวทัศน์ที่น่าตรึงตาตรึงใจบนเส้นขอบฟ้ากลางกรุง ชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น เชฟบอร์คา เทอรี่ บอเรโก หัวหน้าพ่อครัวประจำห้องอาหารอูโนมาส เชฟหนุ่มไฟแรงผู้มากด้วยประสบการณ์แห่งเมืองกาดิซ