แคนนอน ประกาศแผนรุกตลาดพื้นที่ทำงานอัจฉริยะทั่วเอเชีย

0    263    0    7 ต.ค. 2567 14:08 น.   
แบ่งปัน
  • ชูเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าและรอยยิ้มเพื่อยกระดับธุรกิจบริการ
  • ประกาศแผนอย่างเป็นทางการในวันแห่งรอยยิ้มสากล 4 ตุลาคม เพื่อกระจายความสุขและส่งเสริมสังคมที่เปี่ยมอัธยาศัยไมตรี
แคนนอน (Canon) ประกาศแผนรุกตลาดโซลูชันพื้นที่ทำงานอัจฉริยะ (Smart Workspace Solutions) ในเอเชี[1] สอดคล้องกับผลการวิจัยซึ่งระบุว่าตลาดสำนักงานอัจฉริยะในเอเชียแปซิฟิกจะมีการเติบโตสูงมากในช่วงปี 2567 - 2572 โดยคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ถึง 10.5%[2]  ซึ่งยิ่งทำให้ตลาดนี้น่าดึงดูดใจมากขึ้นสำหรับภาคธุรกิจต่าง ๆ ในเอเชีย ทั้งสำนักงานบริษัท สถาบันการศึกษา สถานบริการสุขภาพ สถานบันเทิง และบริษัทด้านการผลิต
 
ปัจจุบันนี้โซลูชันเพื่อพื้นที่ทำงานอัจฉริยะกำลังเป็นที่ต้องการมากขึ้น เนื่องจากผู้ใช้งานต้องการเครื่องมือการทำงานที่มีเทคโนโลยีทันสมัย สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต และรับมือกับสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่หยุดนิ่งได้อย่างสะดวกสบาย แคนนอนจึงวางแผนรุกตลาดสำนักงานอัจฉริยะที่กำลังเติบโต เพื่อนำเสนอโซลูชันพื้นที่ทำงานอัจฉริยะหลากหลายรูปแบบ อาทิ ระบบควบคุมการเข้าออกสถานที่ การบริหารจัดการผู้มาเยือน การจองห้องและโต๊ะทำงาน การควบคุมการสั่งพิมพ์งานที่ปลอดภัย และอื่น ๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการนี้
โซลูชันเหล่านี้จะช่วยรับมือกับความท้าทายทางธุรกิจได้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นความต้องการด้านระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง การบริหารจัดการพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ และการยกระดับการมีส่วนร่วมของพนักงาน การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลร่วมกับข้อมูลของแผนกทรัพยากรบุคคลในการควบคุมการเข้าออกพื้นที่สำนักงาน และระบบการลงทะเบียนรายชื่อผู้มาเยือนที่มีความคล่องตัวมากขึ้น ส่วนการจองพื้นที่ทำงานก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายจากการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจากฐานข้อมูลเพื่อการใช้พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบการสั่งพิมพ์งานที่ปลอดภัยสำหรับสำนักงานซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้ที่ยืนยันตัวตนแล้วเท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงเอกสารที่เป็นความลับขององค์กรได้
 
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่โดดเด่นคือเทคโนโลยีจดจำใบหน้าและรอยยิ้ม ซึ่งพัฒนามาจากเทคโนโลยี deep learning ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งรวมถึงการเล่นเกมกระตุ้นการแสดงความคิดเห็นของผู้ใช้ โดยให้รางวัลแก่อารมณ์เชิงบวก หรือเสริมสร้างการมีปฏิสัมพันธ์เชิงบวกในพื้นที่ทำงานให้มากยิ่งขึ้น โซลูชันนี้ยังเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจบริการ เนื่องจากสร้างแรงจูงใจให้พนักงานบริการหน้าเคาน์เตอร์เริ่มต้นวันทำงานด้วยรอยยิ้ม ส่วนลูกค้าก็สามารถให้คะแนนประสบการณ์ของตัวเองได้อย่างง่ายดายด้วยการยิ้มให้กับระบบ สำหรับด้านการศึกษา เด็กเล็กจะรู้สึกสนุกสนานไปกับโซลูชันนี้ผ่านรูปแบบเกมที่สามารถนำมาเล่นด้วยกันกับเพื่อนๆ ได้
 
วันแห่งรอยยิ้มสากล
ฟังก์ชันการจดจำใบหน้าและรอยยิ้มยังสอดรับในโอกาสวันแห่งรอยยิ้มสากล World Smile Day ซึ่งตรงกับวันที่ 4 ตุลาคมของทุกปี โดยเป็นวันที่ทั่วโลกเฉลิมฉลองให้กับการส่งต่อความสุขและส่งเสริมการแสดงอัธยาศัยไมตรีต่อกัน และเพื่อร่วมเฉลิมฉลองในวันดี ๆ นี้ แคนนอนยังได้จัดทำวิดีโอสองชุด ชุดหนึ่งคือเรื่องราวการเฉลิมฉลองช่วงเวลาแห่งความสุข (https://youtu.be/sJTXhfcxbh4) ส่วนอีกชุดหนึ่ง (https://youtu.be/DSke6QxX5_Q) จะเป็นการแสดงให้เห็นว่าโซลูชันพื้นที่ทำงานอัจฉริยะของแคนนอนช่วยเพิ่มรอยยิ้มและยกระดับการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้งานได้อย่างไร โดยวิดีโอชุดนี้จะสาธิตวิธีการที่โซลูชันสร้างประสบการณ์เชิงบวกในสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการยิ้มในที่ทำงานได้อย่างดีเยี่ยม

“วันแห่งรอยยิ้มสากล World Smile Day เป็นเครื่องเตือนใจว่ารอยยิ้มสามารถนำเราไปสู่ความสำเร็จได้ โซลูชันพื้นที่ทำงานอัจฉริยะของเราจะช่วยปลูกฝังการมีส่วนร่วมเชิงบวก เพิ่มศักยภาพของธุรกิจผ่านการส่งเสริมวัฒนธรรมที่เอื้อให้ผู้คนประสบความสำเร็จและเติบโต ซึ่งจะส่งผลให้นวัตกรรมมีความเฟื่องฟูต่อไป” นอร์แมน เอย็อบ หัวหน้าฝ่ายโซลูชันการถ่ายภาพและการวิเคราะห์ แคนนอน สิงคโปร์ กล่าว
 
นอกจากความสามารถในการจดจำรอยยิ้ม โซลูชันพื้นที่ทำงานอัจฉริยะของแคนนอนยังมีฟีเจอร์ที่ล้ำสมัยอื่น ๆ อาทิ
  • ระบบควบคุมการเข้าออกสถานที่: บุคลากรที่มีอำนาจสามารถให้สิทธิ์การเข้าถึงพื้นที่หวงห้ามได้ มาพร้อมโปรไฟล์ที่ปรับแต่งได้เพื่อจำกัดการเข้าออกในกรณีจำเป็น โดยสามารถบูรณาการข้อมูลเข้ากับระบบของแผนกทรัพยากรบุคคลได้อย่างราบรื่น เพื่อการตรวจสอบเวลาและการเข้างานที่แม่นยำ
  • การบริหารจัดการผู้มาเยือน: เจ้าหน้าที่สามารถลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อจัดการข้อมูลการลงทะเบียนของผู้มาเยือนได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ผู้มาเยือนที่ลงทะเบียนล่วงหน้าจะได้รับรหัส QR ทางข้อความ SMS เพื่อให้เช็กอินได้อย่างง่ายดายและยังช่วยป้องกันความแออัดในบริเวณแผนกต้อนรับ
  • การจองพื้นที่ทำงาน: โซลูชันช่วยให้กระบวนการจองห้องประชุมและโต๊ะส่วนกลางทำได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ รายงานวิเคราะห์สถิติจะให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์ในการวางแผนพื้นที่ และการจัดการกลุ่มคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การสั่งพิมพ์งานที่มั่นคงปลอดภัย: พนักงานสามารถสั่งพิมพ์ข้อมูลที่เป็นความลับได้อย่างปลอดภัยผ่านเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันของแคนนอนด้วยระบบจัดการการพิมพ์แบบ uniFLOW โดยเอกสารจะถูกแจกจ่ายไปยังบุคลากรผู้มีอำนาจหลังจากยืนยันตัวตนแล้วเท่านั้น ผู้ใช้งานยังสามารถเลือกสแกนและส่งเอกสารไปยังอีเมลหรือระบบการจัดการเอกสารได้อย่างปลอดภัย
 
[1] ครอบคลุมฮ่องกง อินเดีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์
Seafood from Norway Festival 2025 ป๊อปอัพสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมนำทุกท่านดำดิ่งสู่โลกแห่งอาหารทะเลจากน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาดของนอร์เวย์ ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสและสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง Seafood from Norway และผู้บริโภคชาวไทย ถ่ายทอดเรื่องราวของธรรมชาติ ผู้คน และอนาคตที่มีร่วมกัน พร้อมกิจกรรมโซนอินเทอร์แอคทีฟ ลิ้มลองเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และบูธจากพาร์ทเนอร์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 กันยายน 2568 เวลา 10.00–22.00 น. ณ EM MARKET ห้างสรรพสินค้า EMSPHERE กรุงเทพฯ
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก  ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เปิดนิทรรศการ “Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” หยิบซอสปรุงรสท้องถิ่นมาต่อยอดในมุมมองใหม่ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมที่กินได้” ร้อยเรียงเรื่องราวผ่าน 4 โซนนิทรรศการที่ชวนสำรวจทั้งวัฒนธรรมการกิน ภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านขวดซอส ลิ้มรสซอสไทย ที่ถูกครีเอตในรูปแบบใหม่ พร้อมมองโอกาสของเครื่องปรุงไทยที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยนิทรรศการดังกล่าวสามารถเข้าชมได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้จนถึง 23 พฤศจิกายน 2568 ณ Front Lobby ชั้น 1 TCDC กรุงเทพฯ