เนเจอร์ เซ็นเซชั่น สาธิตท่าโยคะแบบง่าย ตอนรับเช้าวันใหม่อย่างมีคุณภาพ

0    412    0    23 ธ.ค. 2567 17:35 น.   
แบ่งปัน
นอกจากการออกกำลังกายด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้ง หรือปั่นจักรยานในช่วงเช้าหลังตื่นนอนแล้ว ผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางและมีพื้นที่จำกัดอาจเลือกทำโยคะที่บ้าน โยคะถือเป็นการออกกำลังกายที่เน้นความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ  ของร่างกาย เสริมความแข็งแรง อีกทั้งยังสร้างความผ่อนคลายใจ ทั้งง่ายและได้ประโยชน์แบบจัดเต็ม วันนี้ เนเจอร์ เซ็นเซชั่น จึงมาแนะนำท่าโยคะ 5 ท่า ให้ทุกคนได้ลองทำตามกันทีละขั้นตอน ดังนี้
 
  1. ท่าต้นไม้
เริ่มจากการยืนตรง มือประกบกันทั้งสองข้างในลักษณะพนมมือ จากนั้นยกขาขวาขึ้น แนบฝ่าเท้าที่ต้นขาซ้ายด้านใน ลักษณะปลายเท้าชี้ลงพื้น ยืดตัวตรง อกผาย เปิดไหล่ออก แล้วเหยียดมือที่ประกบกันอยู่ขึ้นเหนือศีรษะ ท่านี้จะช่วยเสริมความแข็งแรงบริเวณต้นขาและหลัง และเพิ่มความสมดุลให้ร่างกาย
 
  1. ท่ายืนก้มตัว
ยืนเท้าชิดหรือแยกเท้าขนานหัวไหล่ จากนั้นก้มตัวลงแนบฝ่ามือทั้งสองข้างบนพื้นบริเวณข้างเท้า แนบศีรษะกับขา การทำโยคะด้วยท่านี้จะช่วยลดอาการปวดศีรษะและทำให้นอนหลับสบาย       
 
  1. ท่างูเห่า
การทำท่านี้ในขั้นแรกให้นอนคว่ำลง ขาเหยียดตรง หลังเท้าแนบไปกับพื้น งอข้อศอกแล้วคว่ำมือทั้งสองข้างวางไว้ระดับหัวไหล่ จากนั้นค่อย ๆ ยันลำตัวช่วงบนตั้งแต่อกไปจนถึงเอวขึ้นด้วยแขนทั้งสองข้าง เปิดไหล่ออก พยายามเกร็งร่างกายส่วนล่างตั้งแต่สะโพกให้อยู่ราบกับพื้น ประโยชน์ที่ได้จากท่านี้คือลดอาการปวดบริเวณหลังนั่นเอง
 
  1. ท่าเด็ก
คุกเข่าแบบขาชิดกัน วางสะโพกทับส้นเท้า และหลังเท้าแนบไปกับพื้น ค่อย ๆ ก้มตัวจรดหน้าผากแนบพื้น ยังคงค้างสะโพกไว้บนส้นเท้า แล้วค่อยๆเหยียดแขนไปเหนือศีรษะให้ตึงที่สุด แนบฝ่ามือทั้งสองกับพื้น ท่าเด็กเป็นอีกท่าที่ช่วยการปวดหลังและคอได้
 
  1. ท่าธนู
นอนคว่ำแล้วยกขาขึ้นทั้งสองข้าง จากนั้นใช้มือจับบริเวณข้อเท้าแล้วดึงเพื่อยกศีรษะและลำตัวขึ้นพร้อมกับการยกเข่าและต้นขาขึ้นจากพื้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อส่วนท้อง
 
ทุกท่านสามารถเลือกท่าโยคะที่ถนัดหรือท่าที่จะช่วยผ่อนคลายให้ตรงกับจุดที่มีอาการปวดได้ หลังการออกกำลังกาย ควรเลือกทานอาหารเช้าที่สามารถเติมพลังงานที่เสียไปให้กับร่างกาย เช่น การทานอาหารที่มีส่วนผสมของโปรตีนอย่างเนื้อสัตว์ และคาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง โดยในวันนี้ขอนำเสนอ เนเจอร์ เซ็นเซชั่น ออริจินอล กราโนล่า ที่มีส่วนผสมหลักเป็นข้าวโอ๊ตและอัลมอนด์ สามารถทานคู่กับ กรีกโยเกิร์ต ที่อุดมด้วยโปรตีน และอาจเพิ่มความอร่อยด้วยผลไม้หลากชนิดตามความชอบ เนเจอร์ เซ็นเซชั่น วางขายแล้ววันนี้ที่ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ LINE Official: @heritagethailand, Shopee: Heritage Official, Lazada: Heritage Official, และ TikTok Shop: HeritageGroupTH สอบถาม เพิ่มเติมโทร 02-813-0954-5 หรือติดตามกิจกรรมและข่าวสารได้ที่ https://www.facebook.com/naturessensationth และ IG: naturessensation
 
อ้างอิง:
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์
Seafood from Norway Festival 2025 ป๊อปอัพสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมนำทุกท่านดำดิ่งสู่โลกแห่งอาหารทะเลจากน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาดของนอร์เวย์ ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสและสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง Seafood from Norway และผู้บริโภคชาวไทย ถ่ายทอดเรื่องราวของธรรมชาติ ผู้คน และอนาคตที่มีร่วมกัน พร้อมกิจกรรมโซนอินเทอร์แอคทีฟ ลิ้มลองเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และบูธจากพาร์ทเนอร์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 กันยายน 2568 เวลา 10.00–22.00 น. ณ EM MARKET ห้างสรรพสินค้า EMSPHERE กรุงเทพฯ
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก  ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เปิดนิทรรศการ “Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” หยิบซอสปรุงรสท้องถิ่นมาต่อยอดในมุมมองใหม่ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมที่กินได้” ร้อยเรียงเรื่องราวผ่าน 4 โซนนิทรรศการที่ชวนสำรวจทั้งวัฒนธรรมการกิน ภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านขวดซอส ลิ้มรสซอสไทย ที่ถูกครีเอตในรูปแบบใหม่ พร้อมมองโอกาสของเครื่องปรุงไทยที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยนิทรรศการดังกล่าวสามารถเข้าชมได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้จนถึง 23 พฤศจิกายน 2568 ณ Front Lobby ชั้น 1 TCDC กรุงเทพฯ