ยูนิลีเวอร์ ผู้นำตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคระดับโลกและนวัตกรรม เดินหน้าสานต่อความสำเร็จของ “ซันซิล ไดมอนด์ไชน์” (Sunsilk Diamond Shine) พร้อมยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ทันสมัยและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภครุ่นใหม่  ด้วยการเปิดตัววง BUS (Because of You I Shine) เป็นพรีเซนเตอร์ชายกลุ่มแรกของซันซิล เสริมทัพพรีเซนเตอร์หญิงคนเดิมอย่าง ต้าเหนิง – กัญญาวีร์ สองเมือง ที่ยังคงสะท้อนภาพลักษณ์ของความมั่นใจและเสน่ห์ของผมเงางามอย่างมีสไตล์
 
นางสาววิชพร คณะพงษา รองประธานกรรมการบริหารการตลาดผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า “หัวใจสำคัญของยูนิลีเวอร์คือการสร้างแบรนด์ที่ผู้บริโภคสามารถเชื่อมโยงและไว้วางใจได้อย่างแท้จริง ซึ่ง ซันซิล ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของแบรนด์ที่เติบโตจากความเข้าใจในผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง และสามารถเข้าไปอยู่ในใจของคนจำนวนมากได้ ความสำเร็จของเราถูกขับเคลื่อนด้วยการสร้าง Brand Love และ Brand Loyalty อย่างยั่งยืน ในการขยายฐานลูกค้าของ ซันซิล ไดมอนด์ไชน์ เราให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์เข้ากับไลฟ์สไตล์และวัฒนธรรม Pop Culture ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นอีกก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของยูนิลีเวอร์ในการเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคทุกช่วงวัย”
 
เบื้องหลังความสำเร็จของ ซันซิล ไดมอนด์ไชน์ คือ ความมุ่งมั่นของยูนิลีเวอร์ในการสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงและครองใจผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำข้อมูลเชิงลึกมาออกแบบกลยุทธ์และแคมเปญที่ตอบโจทย์ทั้งความต้องการและแรงบันดาลใจ พร้อมเสริมความมั่นใจให้ผู้หญิงในทุกโมเมนต์ ยูนิลีเวอร์เชื่อว่า ความงามของเส้นผมไม่ได้เป็นเพียงภาพลักษณ์ภายนอกหรือสัญญาณของสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นใจ และเป็นจุดเริ่มต้นของความประทับใจ การสร้างแบรนด์ที่เข้าถึง ละเป็นที่รักของผู้บริโภคจึงเป็นหัวใจสำคัญ ที่ทำให้ ซันซิล ไดมอนด์ไชน์ เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในตลาดความงาม
 
“ยูนิลีเวอร์ให้ความสำคัญกับการนำข้อมูลเชิงลึกและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่มาเป็นหัวใจหลักในการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบคุณภาพที่ดีที่สุดและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง จากเทรนด์ Glass Hair ที่กำลังเป็นที่นิยม เราได้พัฒนา ซันซิล ไดมอนด์ไชน์ เพื่อมอบประสบการณ์การดูแลเส้นผมให้เงางามและสุขภาพดี พร้อมเสริมสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคในทุกโอกาส การร่วมงานกับวง BUS ไอดอลกรุ๊ปที่เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ Gen Z ในฐานะ พรีเซนเตอร์ชายกลุ่มแรกของซันซิล จึงถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยเชื่อมโยงแบรนด์เข้ากับไลฟ์สไตล์และค่านิยมของผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้อย่างลงตัว เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สร้างแรงบันดาลใจ พร้อมต่อยอดความสำเร็จของ ซันซิล ไดมอนด์ไชน์ ผ่านกิจกรรมการตลาดที่หลากหลายทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์อย่างเต็มรูปแบบ” รองประธานกรรมการบริหารการตลาดผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติม แคมเปญ #Sunsilkผมไชน์วิ้งวิ้งวิ้งวิ้งxBUS ออกมาแบบให้สะท้อนภาพลักษณ์ความสนุกสนาน สดใส และใกล้ชิดผู้บริโภค ตั้งแต่คอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียไปจนถึงอีเวนต์สุดพิเศษ ที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโมเมนต์แห่งความเปล่งประกาย โดยเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ซันซิลได้จัดกิจกรรมสุดยิ่งใหญ่ ณ ลาน เซ็นทรัลเวิลด์สแควร์ บี เปิดตัววง BUS เป็นพรีเซนเตอร์ใหม่อย่างเป็นทางการ พร้อมการแสดงพิเศษจากต้าเหนิง ไฮไลท์ภายในงานประกอบด้วย FANZONE สำหรับผู้บริโภคที่โชคดีได้สิทธิ์ลุ้นเข้าร่วมสนุกกับศิลปินอย่างใกล้ชิด รวมถึง “โรงเรียนสุดไชน์” ที่เต็มไปด้วยกิจกรรมสนุกและมุมถ่ายภาพสร้างสรรค์ และ “Hall of Shine The Immersive” ที่มอบประสบการณ์เสมือนจริงให้ผู้บริโภคได้ถ่ายและแชร์โมเมนต์สุดไชน์บนโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชันพิเศษ เมื่อซื้อซันซิลครบ 499 บาทที่ บิ๊กซี และ CJ More รับฟรีกิ๊บติดผม BUS สุดไชน์กว่า 24 แบบ พร้อม Rare Collection สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ช่วยสร้างกระแสความฮอตให้กับแคมเปญขึ้นไปอีกขั้น ซันซิล ไดมอนด์ไชน์ เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ช่วยเสริมความมั่นใจ เชื่อมโยงความเงางามของเส้นผมกับพลังบวกและความมั่นใจในทุกๆ วัน ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนการดูแลเส้นผม โดดเด่นด้วยนวัตกรรม ไกลคอลไชน์ คอมเพล็กซ์ (Glycol Shine Complex) ส่วนผสมจาก Skin Care ที่ช่วยเข้าซ่อมบำรุงเกล็ดผม พร้อมล็อคความชุ่มชื้น ให้ผมที่แห้งกลับมาเรียงตัวสวย เล่นแสง และให้ผมเงางามเปล่งประกายยาวนานถึง 100 ชั่วโมง ตอบโจทย์เทรนด์ “Glass Hair” ให้ผู้บริโภครู้สึกมั่นใจและเปล่งประกายในทุกโมเมนต์
 
ซันซิล ไดมอนด์ไชน์ วางจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ รวมถึง 7-Eleven ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวจากซันซิลได้ที่ Facebook, Instagram X, TikTok และ YouTube