“คูโบต้า” ชวนคนไทยค้นพบเสน่ห์ของจานสะอาด กับเรื่องน่าทึ่งที่อาจยังไม่เคยรู้ แค่กินข้าวหมดจาน ก็เปลี่ยนโลกได้จริง!!

0    21    0    10 พ.ย. 2568 15:42 น.   
แบ่งปัน

เคยมั้ย กินข้าวเหลือในจานแล้วคิดว่า “ไม่เป็นไรหรอก แค่นิดเดียวเอง” แต่ถ้าบอกว่าข้าวคำที่เราปล่อยให้เหลือนั่นแหละคือหนึ่งในสาเหตุของโลกร้อนที่แรงกว่ารถยนต์ทั้งคัน คุณจะเชื่อไหม?
 
เพราะสิ่งที่เราทำอยู่ทุกวัน บนโต๊ะอาหารดูเหมือนเรื่องเล็ก แต่แท้จริงแล้วมันมีพลังมากกว่าที่คิดและนั่นคือสิ่งที่ สยามคูโบต้า อยากชวนคนไทยทุกคนลองกลับมามองใหม่ ผ่านแคมเปญ “Small Actions Change the World – มื้อนี้หมดจาน” ที่เริ่มต้นจากแนวคิดเรียบง่ายว่าแค่กินข้าวให้หมดก็เปลี่ยนโลกได้จริง ทุกจานที่สะอาดไม่ได้สะท้อนแค่ความอิ่ม แต่มันสะท้อนถึงความเข้าใจ ความรับผิดชอบ และพลังของคนธรรมดาที่เชื่อว่า การดูแลโลกเริ่มได้จากสิ่งใกล้ตัวที่สุด และวันนี้ สยามคูโบต้า จะพาไปดูเรื่องจริงที่คุณอาจไม่เคยรู้ว่าอาหารคำสุดท้ายในจานของเรา ช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงและมีพลังเปลี่ยนโลกได้มากกว่าที่คิด

กินหมดจาน = ช่วยโลกเย็นลงจริง
        ของเหลือในจานที่เราทิ้งไปไม่ได้แค่หายไป แต่มันเดินทางต่อไปกองรวมกันในหลุมฝังกลบ แล้วกลายเป็นก๊าซที่ลอยขึ้นฟ้า เหมือนลมหายใจร้อน ๆ ที่ห่มโลกไว้โดยที่เราไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นตัวการสำคัญของภาวะโลกร้อน และนั่นยิ่งน่าตกใจเมื่อรู้ว่าทั่วโลกมีขยะ 1 ใน 3 ที่มาจากอาหารเหลือทิ้ง นอกจากจะสูญเสียอาหารเป็นจำนวนมหาศาลแล้ว ยังคิดเป็น 8-10% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก  เมื่อเศษอาหารถูกฝังกลบจะย่อยสลายแบบไร้ออกซิเจนส่งผลให้ปล่อย ก๊าซมีเทน (CH₄) ออกมา ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่กักเก็บความร้อนมากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ถึง 25 เท่า! ดังนั้นจานสะอาดของคุณในวันนี้เท่ากับการช่วยลดคาร์บอนในอากาศโดยตรง แบบไม่ต้องออกแรงเลยด้วยซ้ำ
 
กินหมดจาน = สร้างสมดุลของทรัพยากร  
การกินอาหารให้หมดจาน คือการใช้ทรัพยากรของโลกอย่างคุ้มค่าที่สุด เพราะ “ระบบเกษตร” คือห่วงโซ่ที่เชื่อมโยงกันทั้งระบบ จากพืชอาหารซึ่งเป็นต้นทางของการผลิต ไปจนถึงอาหารสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์อย่างเนื้อ นม ไข่ ที่บริโภคในทุกวัน หากผลผลิตพืชไม่เพียงพอ ย่อมส่งผลต่อเนื่องต่อทั้งภาคปศุสัตว์และความมั่นคงทางอาหารของประเทศ ภาคการเกษตรจึงต้องได้รับการสนับสนุนให้แข็งแรงตั้งแต่ต้นน้ำ ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถเพาะปลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้เผชิญกับความไม่แน่นอนของธรรมชาติ แนวคิด Smart Farming จึงมีบทบาทสำคัญในการสร้าง “ระบบนิเวศอาหารที่ยั่งยืน” พร้อมด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AgriTech & FoodTech เช่น AI, โดรน และ IoT เพื่อผลักดันเกษตรแม่นยำ เพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และลดการสูญเสียอาหารได้ทั้งต้นทางและปลายทาง อันเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับประเทศ มาสู่ปลายทางข้าวคำสุดท้ายของคุณ...อาจเป็นคำที่มีค่าที่สุดในระบบนิเวศทั้งระบบ เพราะการกินหมดจาน คือการเคารพธรรมชาติ เคารพแรงงานของเกษตรกร และช่วยรักษาทรัพยากรของโลกให้ยั่งยืนต่อไป
 
กินหมดจาน = ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน และสร้างระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืนจากในบ้าน
เพราะในทุกมื้ออาหาร ล้วนมีต้นทุนซ่อนอยู่มากกว่าที่คิด ตั้งแต่น้ำที่ใช้หุงข้าว ไฟฟ้าที่ใช้ปรุงอาหาร ดังนั้นการกินให้หมดจานจึงไม่ใช่เพียงเรื่องของ “ความประหยัด” แต่คือการบริหารทรัพยากรในบ้านอย่างชาญฉลาด ทุกครั้งที่เรากินหมด คือการใช้ของที่ซื้อมาคุ้มค่าที่สุด ไม่ต้องเททิ้ง ไม่ต้องซื้อใหม่เกินจำเป็น และลดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการกำจัดขยะอาหาร ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าแล้ว ยังเป็นการสร้าง “ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในครัวเรือน” ที่ช่วยให้ทรัพยากรถูกใช้ซ้ำอย่างคุ้มค่า เกิดการวางแผนมื้ออาหารที่ดีขึ้น กินในปริมาณที่เหมาะสม ถูกสัดส่วน เพื่อสุขภาพ และลดการสูญเสียโดยไม่จำเป็น

ในระดับประเทศ ปัญหาอาหารเหลือกลายเป็นภาระทางเศรษฐกิจมหาศาล จากข้อมูลขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ระบุว่าเมื่อพิจารณาถึงขยะอาหารในภูมิภาคเอเชีย-ผู้ผลิต ผู้จำหน่าย และผู้บริโภคต่างมีส่วนทำให้เกิด ‘อาหารเหลือทิ้ง’ ซึ่งในระดับโลกส่งผลให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจสูงถึง USD 940 billion หรือราว 29.2 ล้าน ล้านบาท ต่อปี
 
กินหมดจาน = ช่วยสร้างเสน่ห์ในด้าน Empathy โดยธรรมชาติ
เชื่อหรือไม่ว่าเสน่ห์บางอย่างไม่จำเป็นต้องพูดหรือแสดงออก แค่สะท้อนพฤติกรรมก็สามารถทำให้คนรอบข้างรู้สึกอบอุ่นได้ทันที ซึ่งการกินจนหมดจานคือหนึ่งในสัญญาณเล็ก ๆ ของคนที่มี Empathy อย่างแท้จริง เพราะสะท้อนถึงความเข้าใจและเคารพในคุณค่าของทุกสิ่ง ตั้งแต่ต้นทางของอาหาร ไม่ว่าจะเป็นแรงกายของคนปรุง เหงื่อของเกษตรกร หรือทรัพยากรจากผืนดินที่หล่อเลี้ยงอาหารทุกคำ คือการแสดงออกถึงความรับผิดชอบและการเห็นคุณค่าในสิ่งเล็กน้อย ที่กลายเป็นเสน่ห์เรียบง่าย...ซึ่งใคร ๆ ก็มีได้ เริ่มต้นจาก “จานอาหารตรงหน้า” ของเราเอง
 
กินหมดจาน = สร้างนิสัยรับผิดชอบและเห็นคุณค่าในสิ่งเล็ก ๆ
การกินหมดจานไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของมารยาทบนโต๊ะอาหาร แต่คือ “บทเรียนแห่งความรับผิดชอบ” ที่เริ่มต้นได้จากโต๊ะอาหารเล็ก ๆ ในบ้านของเรา เพราะทุกคำที่เรากินจนหมดคือการเคารพต่ออาหาร ต่อแรงกายของคนปลูกคนปรุง และต่อทรัพยากรของโลกที่ทำให้ข้าวหนึ่งจานเกิดขึ้นได้ เมื่อเราตระหนักถึงคุณค่าของสิ่งเล็ก ๆ อย่างข้าวหนึ่งคำ เราก็จะค่อย ๆ ซึมซับทัศนคติของความไม่ฟุ่มเฟือย ความรู้จักพอดี และการใช้ชีวิตอย่างมีสติ สิ่งเล็ก ๆ นี้ยังกลายเป็นพื้นฐานของความรับผิดชอบในมิติอื่นของชีวิต ทั้งการใช้ของอย่างรู้คุณค่า ไปจนถึงการมีวินัยและเห็นคุณค่าของผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากความพยายาม ซึ่งเมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นพร้อมกันในสังคม เราก็จะได้เห็นสังคมที่รู้จักคุณค่าของสิ่งเล็ก ๆ มากขึ้น และเติบโตบนรากฐานของความพอดีและความยั่งยืนอย่างแท้จริง

คูโบต้ากำลังทำให้เรื่องเล็ก ๆ นี้กลายเป็นพลังระดับประเทศ
ในฐานะผู้อยู่เบื้องหลังทุกเมล็ดข้าวของคนไทย สยามคูโบต้า มองเห็นพลังของการกินอาหารให้หมดจานมานาน เพราะเชื่อว่าความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ มักเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ ที่เราทำได้ทุกวัน จึงผุดเป็นแคมเปญ “Small Actions Change the World – มื้อนี้หมดจาน” ที่ชวนคนไทยทั่วประเทศเริ่มต้นสิ่งดี ๆ ง่าย ๆ จากโต๊ะอาหารของตัวเอง ให้มองเห็นถึงคุณค่าเพียงแค่การกินหมดจานและสร้างวัฒนธรรมการบริโภคอย่างรับผิดชอบ WISE BITES เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา พร้อมแฮชแท็ก #มื้อนี้หมดจานกับคูโบต้า #SmallActionsChangeTheWorld กลายเป็นพื้นที่แชร์แรงบันดาลใจของผู้คนทั่วประเทศ เพียงวันแรกก็ถูกแชร์ต่อกว่า 400 ครั้ง และมีคนกว่า 1,500 คน ร่วมถ่ายภาพจานอาหารที่สะอาดของตัวเองพร้อมติดแฮชแท็กเพื่อบันทึกโมเมนต์ของ “พลังเล็ก ๆ ที่เริ่มจากมื้ออาหารของเรา” ซึ่งถือเป็นกลุ่มต้นแบบที่ช่วยส่งต่อแนวคิด “กินให้หมด ลดขยะอาหาร” ไปสู่สังคมวงกว้าง สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยให้ความสนใจกับการสร้างวัฒนธรรมการรับประทานอาหารอย่างรับผิดชอบเป็นอย่างมาก

จากพฤติกรรมเล็ก ๆ แค่การกินข้าวหมดจานกำลังกลายเป็นขบวนการแห่งความรับผิดชอบของคนทั่วประเทศ อีกทั้งเหล่าครีเอเตอร์รุ่นใหม่สายอาหารและสิ่งแวดล้อมทั่วประเทศ โดยคาดหวังว่าแนวคิดจากแคมเปญนี้จะถูกขยายออกไปและจุดประกายให้คนไทยกว่า 70 ล้านคน อย่างน้อย 30% ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการบริโภคอย่างรับผิดชอบ ผ่านการรับรู้ที่เกิดขึ้นจากทุกช่องทางสื่อสาร เสียงสะท้อนจากแคมเปญนี้บอกเราชัดว่า คนรุ่นใหม่เริ่มมองอาหารด้วยสายตาใหม่ ไม่ใช่แค่เรื่องของความอิ่มแต่คือ ความรับผิดชอบต่อโลกใบเดียวกัน เพราะท้ายที่สุดแล้ว ทุกจานที่สะอาดเท่ากับโลกที่สะอาดขึ้นด้วย เรื่องยิ่งใหญ่บางเรื่องไม่ต้องเริ่มจากนโยบายระดับโลก แต่อาจเริ่มจากจานธรรมดา ๆ บนโต๊ะของทุกคน
 
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
รสชาติจากสองวัฒนธรรมสู่ประสบการณ์ “โฟร์แฮนด์ ดินเนอร์” สุดพิเศษ  ณ ห้องอาหารญี่ปุ่น สึ โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
รสชาติจากสองวัฒนธรรมสู่ประสบการณ์ “โฟร์แฮนด์ ดินเนอร์” สุดพิเศษ ณ ห้องอาหารญี่ปุ่น สึ โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ
เมื่อสองศาสตร์แห่งการปรุงอาหารหลอมรวมเป็นประสบการณ์ความอร่อยอันเหนือระดับ ห้องอาหารญี่ปุ่น สึ โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมดื่มด่ำรสชาติที่รังสรรค์โดยเชฟอัตสึชิ โยชิดะ ผู้เชี่ยวชาญการทำอาหารแบบไคเซกิ และเชฟซองฮยอน ยุน ผู้เชี่ยวชาญการทำอาหารญี่ปุ่น-เกาหลีสไตล์โมเดิร์น ให้ทุกท่านได้เต็มอิ่มกับมื้อค่ำสุดพิเศษที่ผสานเทคนิคการปรุงและความคิดสร้างสรรค์ของ 2 เชฟผู้แชร์ความหลงใหลในการทำอาหารร่วมกันในวันพุธที่ 19 พฤศจิกายน 2568
‘ประกันภัยไทยวิวัฒน์’ ผนึก ‘มูลนิธิเมาไม่ขับ’ รณรงค์ “ขับด้วยใจปลอดภัยทุกเส้นทาง” มอบกรมธรรม์ประกันรถยนต์ฟรี เสริมความอุ่นใจให้ประชาชนเดินทางช่วงปีใหม่ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
‘ประกันภัยไทยวิวัฒน์’ ผนึก ‘มูลนิธิเมาไม่ขับ’ รณรงค์ “ขับด้วยใจปลอดภัยทุกเส้นทาง” มอบกรมธรรม์ประกันรถยนต์ฟรี เสริมความอุ่นใจให้ประชาชนเดินทางช่วงปีใหม่
บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) เดินหน้าสานต่อเจตนารมณ์ “คิดเผื่อเพื่อทุกชีวิต” ผ่านโครงการ “Caring is Giving ให้ด้วยใจ ให้ด้วยรัก” เปิดตัวแคมเปญ“ขับด้วยใจ ปลอดภัยทุกเส้นทาง” ส่งเสริมวัฒนธรรมการขับขี่ปลอดภัยในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ รับช่วงเวลาที่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว พร้อมร่วมมือกับ มูลนิธิเมาไม่ขับ ในการรณรงค์ “เมาไม่ขับ” เพื่อสร้างถนนปลอดภัยช่วงเทศกาล