กินอยู่ได้ ณ สามเสน ร้านอาหารไทยใจกลางเมืองกับเมนูโบราณ รสชาติต้นตำรับขนานแท้ ที่ควรค่าแก่การไปลิ้มลอง

1    1,479    9    3 ส.ค. 2563 10:22 น.   
แบ่งปัน

กินอยู่ได้ ณ สามเสน ร้านอาหารไทยใจกลางเมือง
กับเมนูโบราณ รสชาติต้นตำรับขนานแท้ ที่ควรค่าแก่การไปลิ้มลอง

อาหารไทยถือเป็นหนึ่งในอาหารที่ทรงเสน่ห์เป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก และมีความลึกล้ำซับซ้อนในเรื่องของรสชาติ ด้วยความหลากหลายของส่วนผสมและสรรพคุณที่เป็นยา จากส่วนประกอบของสมุนไพรและเครื่องเทศที่ดีและมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย รวมถึงรสชาติที่มีความสมดุลทานเพียงแค่จานเดียวก็สามารถรับรสได้ทั้ง เผ็ด เค็ม หวาน เปรี้ยว ขม เลยทีเดียว
 
ในวันนี้ กินอยู่ได้ ณ สามเสน ร้านอาหารไทยภายใต้คอนเซ็ปต์ “Classic Thai Food” ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีเธอก็ยังสวยไม่สร่าง อร่อยทุกครั้งเมื่อได้กิน อิ่มเอมใจเมื่อได้สัมผัส โดย คุณธนน วีอารยะ และคุณปิยะเลิศ ใบหยก พร้อมต้อนรับและเสิร์ฟความอร่อยแก่ผู้มาเยือนทุกท่านด้วยเมนูอาหารไทยสูตรโบราณที่มีความพิเศษและเอกลักษณ์เฉพาะตัวยากจะหาร้านไหนมาเหมือน

บรรยากาศภายในร้านเต็มไปด้วยเรื่องราวอันแสนอบอุ่นช่วยสร้างความประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกที่ได้เข้ามาสัมผัส ผนังแต่งแต้มด้วยสีน้ำเงิน ให้ความรู้สึกเย็นตาเมื่อได้พบเห็น ประดับประดาด้วยจาน Blue & White และเชิงเทียนที่เป็นของสะสมจากต่างประเทศที่ล้วนเป็นของเก่าอันทรงคุณค่า อีกทั้งยังมีเฟอร์นิเจอร์ทรงคลาสสิคท่ามกลางแสงไฟวอร์มไลท์ให้บรรยากาศเหมือนได้ย้อนกลับไปในอดีตอีกครั้ง
   
 

สำหรับเมนูแนะนำ อาทิ
  • แกงรัญจวน ถือเป็นอาหารชาววังที่มีมาแต่โบราณ แกงรัญจวนของร้านกินอยู่ได้นั้นมีส่วนผสมของกะปิ ตะไคร้ ใบโหระพา หอมแดง หมูหรือเนื้อเป็นหลัก รสชาติกลมกล่อมออกรสเปรี้ยว เค็ม เผ็ด อย่างลงตัว ส่วนไฮไลท์เด่นคือหมูเปื่อยหรือเนื้อเปื่อย ที่ทางร้านตุ๋นมาจนเปื่อยนุ่มละลายในปาก ถือเป็นเมนูห้ามพลาด เพราะหาทานได้ยากจริงๆ
  • ผัดสามเหม็น ส่วนผสมหลักของจานนี้คือ สะตอ ชะอม และกระเทียมโทนดอง นำมาผัดกับวุ้นเส้นเติมความอร่อยด้วยกุ้งสด แนะนำให้ทานกับข้าวสวยร้อนๆ จะกลายเป็นมื้อสุดฟินแน่นอน
  • สามชั้นคั่วพริกเกลือ เมนูที่ดูจะหาทานง่าย แต่หาร้านอร่อยยาก ตัวเนื้อหมูหั่นมาชิ้นพอดีคำ มีมันแทรกกำลังพอดีไม่เลี่ยนจนเกินไป บวกกับพริกเกลือและเครื่องเทศต่างๆ ที่ผัดมาได้อย่างเข้าเนื้อ รสชาติจัดจ้าน อีกทั้งยังใส่เม็ดพริกไทยดำลงมาในจานเพิ่มความร้อนแรงด้วย ใครชอบทานรสจัดๆ บอกเลยว่าจานนี้ไม่ควรพลาด
  • ไข่ลูกสะใภ้ ทางร้านได้ใส่ไอเดียใหม่ๆ เพิ่มเข้าไปในเมนูไข่ลูกเขยจนกลายร่างมาเป็นไข่ลูกสะใภ้ เมนูยอดนิยมของทางร้าน ซึ่งไข่ลูกสะใภ้นี้ก็จะมีความแตกต่างจากไข่ลูกเขย คือจะใช้ไข่เป็ดที่มีความมันมากมาทอดเป็นไข่ดาวให้พอสุก บริเวณไข่แดงยังเยิ้มๆ อยู่ พร้อมกับใส่หอมเจียว ราดด้วยน้ำซอสสูตรเฉพาะของทางร้าน เป็นเมนูที่ทานเพลินมากจริงๆ
  • แกงนพเก้า อีกหนึ่งแกงโบราณในแถบภาคกลาง โดยจะนำพริกแกงมาโขลกผสมกับกะทิทำเป็นน้ำแกงข้นๆ และใส่ผักต่างๆ ทั้ง 9 ชนิดลงไป ได้แก่ สะตอ ข้าวโพดอ่อน หน่อไม้ ถั่วฝักยาว มะเขือยาว พริกหยวก ผักบุ้งไทย ชะอม แตงกวา และสุดท้ายคือใส่กุ้งตัวโตๆ ลงไปในชามพร้อมกับปรุงรสให้กลมกล่อม
  • น้ำพริกกากหมู จะถูกเสิร์ฟมาพร้อมกับผักสดนานาชนิด ตัวน้ำพริกมีความกรุบกรอบและรสชาติที่เผ็ดจัดจ้าน ทานคู่กับผักสดจะพอดี ใครชอบทานน้ำพริกกากหมูควรมาลองร้านนี้สักครั้งไม่ผิดหวังแน่นอน
  • ข้าวคลุกกะปิ อีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยม นำกะปิคุณภาพดีมาคลุกกับข้าวสวย แล้วทานกับเครื่องเคียงต่างๆ ที่มีรสอร่อยหลายรสในจานเดียว เช่นรสหวานจากหมู เปรี้ยวจากมะม่วง เผ็ดจากพริกขี้หนู และมีเนื้อสัมผัสทั้งความกรอบจากกุ้งแห้งทอดและความนุ่มจากไข่เจียวซอย เพิ่มเอกลักษณ์ความเป็น กินอยู่ได้ ด้วยการใส่ผักเหม็นอย่างชะอมเสริมให้รสชาติแตกต่างออกไป แต่ยังคงรสชาติความอร่อยแบบที่เคยทานในสมัยเด็กๆ

 
 
ข้อมูลเพิ่มเติม
ที่ตั้งร้าน : 47/1 ถนนเศรษฐศิริ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด - ปิด : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 11.00 – 14.00 น. และ 17.00-22.00 น.
                          เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 11.00 – 22.00 น.
เฟสบุ๊ค : kinyoudaiatsamsen
ติดต่อ : 082-849-1455
 
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์
Seafood from Norway Festival 2025 ป๊อปอัพสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมนำทุกท่านดำดิ่งสู่โลกแห่งอาหารทะเลจากน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาดของนอร์เวย์ ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสและสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง Seafood from Norway และผู้บริโภคชาวไทย ถ่ายทอดเรื่องราวของธรรมชาติ ผู้คน และอนาคตที่มีร่วมกัน พร้อมกิจกรรมโซนอินเทอร์แอคทีฟ ลิ้มลองเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และบูธจากพาร์ทเนอร์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 กันยายน 2568 เวลา 10.00–22.00 น. ณ EM MARKET ห้างสรรพสินค้า EMSPHERE กรุงเทพฯ
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก  ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เปิดนิทรรศการ “Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” หยิบซอสปรุงรสท้องถิ่นมาต่อยอดในมุมมองใหม่ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมที่กินได้” ร้อยเรียงเรื่องราวผ่าน 4 โซนนิทรรศการที่ชวนสำรวจทั้งวัฒนธรรมการกิน ภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านขวดซอส ลิ้มรสซอสไทย ที่ถูกครีเอตในรูปแบบใหม่ พร้อมมองโอกาสของเครื่องปรุงไทยที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยนิทรรศการดังกล่าวสามารถเข้าชมได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้จนถึง 23 พฤศจิกายน 2568 ณ Front Lobby ชั้น 1 TCDC กรุงเทพฯ