ร้านอาหาร 29 แห่งใต้ฟ้าเมืองไทยคว้า ‘ดาวมิชลิน’ ปี 2563
ศรณ์ และ R-Haan รั้งตำแหน่งร้านอาหารไทยแบบดั้งเดิมที่ครองรางวัล 2 ดาวมิชลิน เป็นครั้งแรกของโลก
เกว็นดัล ปูลเล็นเนค ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ทั่วโลก
และ
ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วยร้านอาหารได้รับรางวัลดาวมิชลิน เปิดตัวคู่มือแนะนำร้านอาหารและที่พัก
‘มิชลิน ไกด์ ฉบับกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ตและพังงา ประจำปี 2563’ โดยในปีนี้มีร้านอาหารใหม่มากมายได้รับมิชลินสตาร์เพิ่มมากยิ่งขึ้น เพื่อให้นักเดินทางสามารถเติมเต็มประสบการณ์ความอร่อยแห่งมื้ออาหารและการพักผ่อนชั้นเลิศใน 4 เมืองท่องเที่ยวหลักของไทยได้อย่างครบครันด้วยคู่มือเพียงเล่มเดียว ณ โรงแรม แบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์เมื่อเร็วๆ นี้
มิชลินจัดงานแถลงข่าวประกาศรายชื่อร้านอาหารที่ได้รับรางวัล ‘
ดาวมิชลิน’ (MICHELIN Star) และ ‘
บิบ กูร์มองด์’ (Bib Gourmand) ปีล่าสุด พร้อมทั้งเปิดตัว ‘
มิชลิน ไกด์ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ตและพังงา’
ประจำปี 2563 ซึ่งเป็นคู่มือแนะนำร้านอาหารและที่พัก ‘มิชลิน ไกด์’
ฉบับที่ 3 ของประเทศไทย โดยคู่มือเล่มล่าสุดนี้บรรจุรายชื่อร้านอาหารที่ผ่านการคัดสรรรวมทั้งสิ้น 282 แห่ง และที่พัก 74 แห่ง โดยมีร้านอาหารได้รับรางวัล 2 ดาวมิชลิน จำนวน 5 ร้าน, รางวัล
1 ดาวมิชลิน จำนวน 24 ร้าน
และรางวัล ‘บิบ กูร์มองด์’ จำนวน 94 ร้าน
มร.เกว็นดัล ปูลเล็นเนค (Gwendal Poullennec), ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ทั่วโลก เปิดเผยว่า “ในปีนี้ กระแสเรื่องการใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นมาแรงมากจนถือเป็นดาวเด่นที่ขับเคลื่อนวงการอาหารในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ แนวโน้มดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าผลผลิตในท้องถิ่นของไทยมีความหลากหลายและมีคุณภาพมาตรฐานสูง นอกจากนี้ อาหารไทยแบบดั้งเดิมยังฉายแสงโดดเด่น เพราะปีนี้มีร้านอาหารไทยแบบดั้งเดิมสร้างปรากฎการณ์ครอง 2 ดาวมิชลินเป็นครั้งแรกของโลกพร้อมกันถึง 2 ร้าน โดยทั้งคู่ต่างเลื่อนระดับมาจากร้าน 1 ดาวมิชลิน”
ร้านอาหารไทยดั้งเดิม 2 ร้านที่สร้างชื่อด้วยการเลื่อนระดับจาก 1 ดาวมาครอง
รางวัล 2 ดาวมิชลินในครั้งนี้ คือ ร้าน
R-Haan ซึ่งนำเสนออาหารไทยสไตล์ต้นตำรับ ทั้งอาหารท้องถิ่นพื้นบ้านและอาหารชาววัง โดยใช้วัตถุดิบชั้นดีจากทั่วประเทศ, และร้าน
ศรณ์ ที่คืนชีวิตให้แก่ศิลปะแห่งอาหารใต้ที่เคยสูญหายไปตามกาลเวลา โดยใช้วัตถุดิบจากกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรและชาวประมงผ่านการปรุงด้วยความรักและความใส่ใจอย่างละเมียดละไมในทุกขั้นตอน นอกจากนี้ ร้านระดับ 2 ดาวมิชลินในปีก่อนซึ่งยังคงดำเนินธุรกิจอยู่จนถึงปัจจุบัน ได้แก่
Le Normandie (เลอ นอร์มังดี),
Mezzaluna (เมซซาลูน่า)
และ
Sühring ยังคงรักษาสถานะดาวมิชลินเอาไว้ได้
ในบรรดาร้านอาหารที่ได้รับ
รางวัล 1 ดาวมิชลินประจำปีนี้จำนวนทั้งสิ้น 24 ร้าน ร้าน
Khao (ข้าว) ซึ่งนำเสนออาหารไทยดั้งเดิมที่ปรุงขึ้นจากวัตถุดิบท้องถิ่น เป็นเพียงร้านเดียวที่เลื่อนระดับมาจากรางวัล ‘มิชลิน
เพลท’ (MICHELIN
Plate) นอกจากนี้ ยังมีร้านที่ติดอับดับในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ครั้งแรกแต่ทะยานเข้ามาคว้า 1 ดาวมิชลินไปครองจำนวน 3 ร้าน ได้แก่
Chef’s Table ร้านอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัยที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง รังสรรค์เมนู โดยเชฟที่มาจากร้านระดับ 3 ดาวมิชลิน,
80/20 ร้านอาหารไทยร่วมสมัยเชิงนวัตกรรมที่รังสรรค์เมนูอาหารจากวัตถุดิบท้องถิ่นหายากผสานกับเทคนิคในการปรุงใหม่ๆ แบบสากล และ
Table 38 (เทเบิ้ล 38) ร้านอาหารสไตล์ Chef’s Table ที่เชฟเป็นผู้กำหนดเมนูและมีที่นั่งจำกัด นำเสนออาหารไทยโบราณและอาหารสไตล์ร้านริมทางที่ได้รับการตีความใหม่ พร้อมปรุงแต่งด้วยวิธีการสมัยใหม่แต่ยังคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณแบบดั้งเดิม ทั้งนี้ ร้านระดับ 1 ดาวมิชลินในปีก่อนซึ่งยังคงดำเนินธุรกิจอยู่จนถึงปัจจุบันต่างสามารถรักษาสถานะดาวมิชลินเอาไว้ได้ รวมถึง
PRU (พรุ) ร้านอาหารแห่งเดียวในจังหวัดภูเก็ตที่ได้รับรางวัล 1 ดาวมิชลินด้วย
สำหรับร้านอาหารที่ได้รับ
รางวัล ‘บิบ กูร์มองด์’ มีจำนวนทั้งสิ้น 94 ร้าน โดยในจำนวนนี้เป็นร้านที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ 61 ร้าน, เชียงใหม่ 17 ร้าน, ภูเก็ต 14 ร้าน และพังงา 2 ร้าน สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นปีแรกที่ ‘มิชลิน ไกด์’ เข้าไปดำเนินการคัดสรรและจัดอันดับร้านอาหารและที่พัก พบว่ามีจำนวนร้านที่ได้รับรางวัล ‘บิบ กูร์มองด์’ สูงเป็นพิเศษ ร้านเหล่านี้ ได้แก่
Ginger Farm Kitchen (จินเจอร์ฟาร์มคิชเช่น) ที่เชี่ยวชาญด้านอาหารเหนือเป็นพิเศษ ใช้วัตถุดิบสดใหม่และมีคุณภาพจากฟาร์มของร้านเองภายใต้แนวคิด “ฟาร์ม-ทู-เทเบิล” (Farm-to-Table),
เฮือนสุนทรี ที่รังสรรค์เมนูต้นตำรับจากวัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพสูงจนเป็นที่เลื่องชื่อและดึงดูดลูกค้าอย่างไม่ขาดสาย และ
ข้าวซอยแม่มณี ร้านอาหารริมทางที่มี “ข้าวซอย” หรือเส้นหมี่ไข่สีเหลืองทองในน้ำซุปเข้มข้น เป็นเมนูเด็ดที่ชนะใจลูกค้าต่อเนื่องมานานกว่า 30 ปี
ผู้สนใจสามารถคลิกดูรายชื่อและข้อมูลร้านอาหารทั้งหมดที่ได้รับคัดสรรและจัดอันดับอยู่ใน
คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ตและพังงา’ ประจำปี 2563 (The MICHELIN Guide Bangkok, Chiang Mai, Phuket & Phang-Nga 2020) ซึ่งจัดทำเป็น 2 ภาษา ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ได้ทางเว็บไซต์
guide.michelin.com/th/th ตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน ศกนี้เป็นต้นไป สำหรับคู่มือแบบรูปเล่มจะเริ่มวางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป ในราคาเล่มละ 650 บาท ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน เป็นต้นไป