เจียไต๋ฟาร์มต่อยอดความยั่งยืน เปิดตัวเพอร์ซันนอลแคร์เมล่อนสายกรีน เพิ่มมูลค่าเมล่อนไทย พร้อมลด Food Waste จากผลิตผลเกษตร

1    741    9    31 มี.ค. 2565 17:14 น.   
แบ่งปัน

เจียไต๋ฟาร์มต่อยอดความยั่งยืน เปิดตัวเพอร์ซันนอลแคร์เมล่อนสายกรีน เพิ่มมูลค่าเมล่อนไทย พร้อมลด Food Waste จากผลิตผลเกษตร

   เจียไต๋ฟาร์ม โดยกลุ่มบริษัทเจียไต๋ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ถนอมและบำรุงผิวกายจากสารสกัดเมล่อน ชูแนวคิดด้านความยั่งยืนด้วยการเพิ่มมูลค่าเมล่อนไทย ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการ Food Waste

เจียไต๋ฟาร์ม ผู้นำตลาดผักผลไม้สด สะอาด ปลอดภัย และกูรูเมล่อนในไทย (King of Melon) ส่งผลิตภัณฑ์ถนอมและบำรุงผิวกาย 4 ชนิดสู่ตลาด ภายใต้แนวคิดสวยสุขภาพดีแบบฉบับ cruelty-free ได้แก่ ครีมอาบน้ำ-Clear Your Mind สครับผิวกาย-Self-Love โลชั่นบำรุงผิว-Glow Time และครีมบำรุงมือ-Hold My Hand ชูจุดขายส่วนผสมจากธรรมชาติด้วย “สารสกัดเมล่อนมรกต” ซึ่งเป็นหนึ่งในสายพันธุ์เมล่อนเจียไต๋ที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้ มุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตผลสด ผลักดันวงการเกษตรของไทย อีกทั้ง ยังตอบโจทย์ด้านความยั่งยืนที่เจียไต๋ฟาร์มได้ต่อยอดด้วยการบริหารจัดการ Food Waste โดยได้คัดสรรเมล่อนมรกตเกรดรองที่มีคุณภาพดีมาแปรรูป และนำสารสกัดมาพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ถนอมและบำรุงผิวกาย มุ่งเจาะตลาดกลุ่ม Silver Age ผู้สูงวัยที่รักสุขภาพ กลุ่มวัยทำงาน และกลุ่มผู้รักสิ่งแวดล้อม

นางสุภาภรณ์ เกียรติศิริขจร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สำนักประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจียไต๋ จำกัด กล่าวถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ถนอมและบำรุงผิวสูตรเมล่อนมรกตเจียไต๋ฟาร์ม ว่า “เจียไต๋ให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและการรักษาสิ่งแวดล้อม เราจึงเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยผลิตภัณฑ์ถนอมและบำรุงผิวกายสูตรเมล่อนของเจียไต๋ฟาร์มนี้ เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่เราพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์การเพิ่มมูลค่าผลิตผลจากเกษตรกร และเรื่องการบริหารจัดการ Food Waste ซึ่งเมล่อนมรกตที่เราเลือกเป็นส่วนผสมหลักนี้ ผลและเนื้อเมล่อนมีคุณภาพดีคงคุณประโยชน์ครบถ้วน รวมถึงมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ จึงถูกนำไปทำเป็นสารสกัดเมล่อน ก่อนพัฒนาเป็นครีมอาบน้ำ สครับผิว ครีมบำรุงผิว รวมไปถึงครีมบำรุงมือ โดยผ่านกระบวนการผลิตที่ได้รับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จุดเด่นของผลิตภัณฑ์เพอร์ซันนอลแคร์เมล่อนนี้คือการใช้สารสกัดจากธรรมชาติโดยตรงและที่สำคัญยังเป็นผลิตภัณฑ์ cruelty-free ไม่ทำการทดลองกับสัตว์อีกด้วย ทั้งนี้ การก้าวสู่ตลาดกลุ่มสุขภาพและความงามสะท้อนให้เห็นศักยภาพและการไม่หยุดนิ่งของเจียไต๋ฟาร์มที่เรายืนหยัดการเป็น King of Melon ในไทย ซึ่งนอกจากการจำหน่ายผลิตผลสดแล้ว เรายังขยายไลน์สินค้าไปสู่ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกมิติ

ส่วนผสมหลักอย่างเมล่อนนั้นมีสรรพคุณในด้านการเยียวยาและฟื้นฟูสภาพผิว เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงจึงช่วยป้องกันและชะลอความเสื่อมของเซลล์ ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินที่เป็นต้นเหตุของผิวหมองคล้ำ ทั้งยังช่วยลดระดับความเครียด และมีกลิ่นหอมเพิ่มความสดชื่น ผลิตภัณฑ์ถนอมและบำรุงผิวกายสูตรเมล่อนมรกตภายใต้แบรนด์เจียไต๋ฟาร์ม ยังผสานส่วนผสมจากธรรมชาติ และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากการทดลองกับสัตว์ (cruelty-free) จึงมีความอ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว ช่วยปลอบประโลมผิวจากมลภาวะ ดูแลผิวพรรณให้ชุ่มชื้น น่าสัมผัส ผสานกลิ่นหอมของเมล่อนมรกตที่ช่วยผ่อนคลายจากความเครียดในชีวิตประจำวัน ได้แก่
 
  1. ครีมอาบน้ำ-Clear Your Mind (ขนาด 250 มล. ราคา 405 บาท) ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกายที่มาพร้อมการบำรุง ช่วยคงความชุ่มชื้น เผยผิวกระจ่างใส ด้วยส่วนผสมหลักจากธรรมชาติอย่างสารสกัดเมล่อนมรกต สารสกัดว่านหางจระเข้ วิตามินบี 3 และสารสกัดจากกระบองเพชร
  2. สครับผิวกาย-Self Love (ขนาด 200 มล. ราคา 355 บาท) ผลิตภัณฑ์ขัดผิวแบบอ่อนโยน ช่วยผลัดเซลล์ผิวใหม่ที่สดใสยิ่งขึ้น ด้วยพลังของสารสกัดเมล่อนมรกต อาร์บูติน สารสกัดผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ 6 ชนิด และวิตามินบี 3 ที่จะช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิว ยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน เผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสชวนสัมผัส
  3. โลชั่นบำรุงผิว-Glow Time (ขนาด 200 มล. ราคา 375 บาท) ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเนื้อโลชั่น จากสารสกัดเมล่อนมรกต สารสกัดคาเวียร์ เขียว และแพนตาไวทินที่ช่วยล็อกความชุ่มชื้นให้ผิว ฟื้นบำรุงผิวแห้งกร้านให้เนียนนุ่ม ไม่แห้งตึง ผิวแลดูกระชับ กระจ่างใส
  4. ครีมบำรุงมือ-Hold My Hand (ขนาด 50 มล. ราคา 205 บาท) หมดกังวลเรื่องผิวมือแห้งกร้านจากการล้างมือบ่อยๆ ด้วยครีมบำรุงที่ผสานสารสกัดเมล่อนมรกต เชียบัตเตอร์ วิตามินอี และสารสกัดแตงกวา เนื้อครีมซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ช่วยบำรุงผิวมือให้เนียนนุ่ม คงความชุ่มชื้น ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้ง แตก เพิ่มความยืดหยุ่น ปกป้องเซลล์ผิวไม่ให้ถูกทำลาย ป้องกันการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น

เพิ่มความมั่นใจเผยผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้น พร้อมผ่อนคลายด้วยกลิ่นหอมของสารสกัดจากเมล่อนมรกต ด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายสูตรเมล่อนจากเจียไต๋ฟาร์ม สำหรับผู้ที่สนใจสามารถซื้อได้ทางร้านเจียไต๋ฟาร์ม Shop and Restaurant สุขุมวิท 60 ร้านเจียไต๋ฟาร์ม สาขาทรงวาด ปากช่อง และกาญจนบุรี หรือช่องทางออนไลน์ Line @chiataifarm หรือ Facebook: Chia Tai Farm โทร 089-139-6170 และทาง Shopee: Chia Tai Farm
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์
Seafood from Norway Festival 2025 ป๊อปอัพสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมนำทุกท่านดำดิ่งสู่โลกแห่งอาหารทะเลจากน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาดของนอร์เวย์ ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสและสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง Seafood from Norway และผู้บริโภคชาวไทย ถ่ายทอดเรื่องราวของธรรมชาติ ผู้คน และอนาคตที่มีร่วมกัน พร้อมกิจกรรมโซนอินเทอร์แอคทีฟ ลิ้มลองเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และบูธจากพาร์ทเนอร์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 กันยายน 2568 เวลา 10.00–22.00 น. ณ EM MARKET ห้างสรรพสินค้า EMSPHERE กรุงเทพฯ
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก  ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เปิดนิทรรศการ “Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” หยิบซอสปรุงรสท้องถิ่นมาต่อยอดในมุมมองใหม่ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมที่กินได้” ร้อยเรียงเรื่องราวผ่าน 4 โซนนิทรรศการที่ชวนสำรวจทั้งวัฒนธรรมการกิน ภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านขวดซอส ลิ้มรสซอสไทย ที่ถูกครีเอตในรูปแบบใหม่ พร้อมมองโอกาสของเครื่องปรุงไทยที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยนิทรรศการดังกล่าวสามารถเข้าชมได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้จนถึง 23 พฤศจิกายน 2568 ณ Front Lobby ชั้น 1 TCDC กรุงเทพฯ