ส่องนิสัยการทำความสะอาดของคนไทย จากวิจัยของ Dyson คนไทยเกินครึ่งละเลยจุดเก็บฝุ่นในบ้าน

0    826    0    25 พ.ค. 2565 15:12 น.   
แบ่งปัน

ส่องนิสัยการทำความสะอาดของคนไทย จากวิจัยของ Dyson คนไทยเกินครึ่งละเลยจุดเก็บฝุ่นในบ้าน

   Dyson เผยผลการสำรวจและวิจัย Global Dust Study ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย ที่สำรวจเกี่ยวกับนิสัยการทำความสะอาดและความเข้าใจเกี่ยวกับฝุ่นในครัวเรือน รวมถึงผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในบ้าน

Dyson ได้สำรวจเจ้าของบ้านกว่า 3 หมื่นคนจาก 33 ประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ผลการสำรวจได้เผยว่าคนไทยมีนิสัยการทำความสะอาดเหมือนปีที่ผ่านมา เนื่องจากต้องการให้บ้านสะอาดอยู่เสมอซึ่งเป็นผลพวงมาจากการระบาดของโรค COVID-19 ที่ทำให้หลายครัวเรือนหันมาสนใจเรื่องการทำความสะอาดบ้านมากขึ้น อย่างไรก็ตามผลสำรวจพบว่าเจ้าของบ้านจำนวน 40% จะทำความสะอาดบ้านก็ต่อเมื่อพบฝุ่นที่มองเห็นได้เท่านั้น ตรงกับผลสำรวจในประเทศไทยที่พบว่าคนไทย 46% จะทำความสะอาดบ้านก็ต่อเมื่อพบฝุ่นที่มองเห็นได้

โดย Monika Stuczen นักจุลชีววิทยาที่ Dyson กล่าวว่า “นับว่าเป็นเรื่องน่าเป็นห่วงที่ผู้คนจะทำความสะอาดบ้านก็ต่อเมื่อพบฝุ่นเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วยังมีฝุ่นที่มีขนาดเล็กที่เราไม่สามารถสังเกตเห็นได้ เพราะฉะนั้นเวลาที่เราเห็นฝุ่นในบ้านนั่นหมายความว่า มีความเป็นไปได้สูงที่บ้านของคุณจะมีตัวไรฝุ่นเต็มไปหมดแล้ว”

จุดไหนในบ้านที่พลาดไป? ทำความสะอาดยังไงให้สะอาดจริง?

จากการเปรียบเทียบผลสำรวจแบบปีต่อปี เราจะเห็นถึงการพัฒนาด้านนิสัยการทำความสะอาดจากการที่มีคนจำนวนมากขึ้นที่ดูดฝุ่นบริเวณที่มักถูกละเลย อย่างฟูกรองนอนหรือโซฟา อย่างไรก็ตามยังมีคนอีกจำนวนมากที่ยังหลงลืมจุดเก็บฝุ่นที่สำคัญเหล่านี้ โดยการสำรวจพบว่า 53% ไม่ดูดฝุ่นบริเวณฟูกนอน ในขณะที่คนจำนวน 55% ไม่ได้ดูดฝุ่นบริเวณโซฟา

นอกจากปัญหาเรื่องฝุ่นในบ้านแล้ว จากสถานการณ์โรคระบาดยังทำให้มีอีกหนึ่งปัญหาเพิ่มขึ้นมานั่นก็คือฝุ่นจากสัตว์เลี้ยงเนื่องจากการกักตัวอยู่ที่บ้านทำให้คนเลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้น โดยจากการสำรวจพบว่า 57% ของบ้านทั่วโลกมีสัตว์เลี้ยงอย่างน้อย 1 ตัว โดยในประเทศไทยพบว่า 72% ของครัวเรือนมีสัตว์เลี้ยงซึ่งนับว่าเป็นประเทศลำดับต้นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการเลี้ยงสัตว์ นอกจากนั้นยังพบว่าคนไทย 2 ใน 5 ให้สัตว์เลี้ยงนอนร่วมเตียงเดียวกัน แต่ในทางกลับกันจำนวนเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ตระหนักถึงปัญหาเรื่องฝุ่นจากสัตว์เลี้ยงกลับมีน้อยในระดับน่าเป็นห่วง
 
  • 4 ใน 5 ของเจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่ทราบว่าฝุ่นละอองสามารถถูกสะสมไว้บนตัวสัตว์เลี้ยงได้
  • 7 ใน 10 ของเจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่ทราบว่าตัวไรฝุ่นสามารถอาศัยอยู่บนตัวสัตว์เลี้ยงได้
  • 3 ใน 5 ของเจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่ทราบว่าไวรัสสามารถอาศัยอยู่บนตัวสัตว์เลี้ยงได้
  • 1 ใน 2 ของเจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่ทราบว่าแบคทีเรียและสะเก็ดผิวหนังสามารถถูกสะสมบนตัวสัตว์เลี้ยงได้

“คนส่วนมากคิดว่าปัญหาจากสัตว์เลี้ยงเกิดจากขนเพราะเป็นสิ่งที่สังเกตเห็นได้ง่าย จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายคนไม่ได้ตระหนักถึงฝุ่นหรือละอองอื่นๆ ที่สะสมอยู่บนตัวของสัตว์เลี้ยงเพราะว่าขนาดที่เล็กในระดับที่ไม่สามารถสังเกตเห็นได้”

โดยส่วนมาก คนทั่วไปจะคิดว่าอาการแพ้เกิดจากขนสัตว์เลี้ยง อย่างไรก็ตามอาการแพ้สามารถเกิดได้จากฝุ่นละอองที่เกิดจากสะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยง  เกือบครึ่งของเจ้าของสัตว์จะทำความสะอาดสัตว์เลี้ยงอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง แต่ 3 ใน 5 ทำความสะอาดโดยใช้แปรงหรือหวีเท่านั้น ซึ่งการหวีหรือแปรงทำได้เพียงลดขนที่หลุดร่วงของสัตว์เลี้ยง แต่ไม่สามารถกำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็กบนตัวได้ ทำให้เจ้าสัตว์เลี้ยงยังสามารถพาฝุ่นละอองไปยังบริเวณต่างๆ รอบบ้านได้

จากการวิจัยอย่างเข้มข้นที่ Dyson พบว่าการจัดการกับฝุ่นในบ้านที่ดีที่สุดคือการนำมันออกไปจากบ้าน และจากโครงการ Dyson Global Dust Study เผยว่าผู้คนคิดว่าเครื่องดูดฝุ่นเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการกำจัดฝุ่น แต่จากการสำรวจกลับพบว่าคนไทยใช้ไม้กวาดกับไม้ถูมาเป็นอันดับต้นๆ ที่ 68% ในขณะที่ใช้เครื่องดูดฝุ่นอยู่ที่ 47% เท่านั้น
 
การถูด้วยผ้าเปียกเป็นเรื่องที่ปกติ แต่ลำดับในการใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน การจบด้วยพื้นที่เปียกยิ่งทำให้ฝุ่นที่มองเห็นได้ยากขึ้นไปอีก นอกจากนั้นการทำพื้นให้ชื้นยังหมายถึงการสร้างสภาวะที่เหมาะกับการเจริญเติบโตของตัวไรฝุ่นและเชื้อราด้วย เพราะฉะนั้นการทำความสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพคือการดูดฝุ่นด้วยเครื่องดูดฝุ่นให้ฝุ่นหมดก่อน จากนั้นจึงจะถูด้วยผ้า อย่างไรก็ตามอีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือการเลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีเทคโนโลยีในการกักเก็บฝุ่นไม่ให้ฝุ่นหลุดรอดกลับออกมาภายในบ้าน
 
นี่คือเหตุผลที่ Dyson ใช้เวลากว่า 20 ปีในการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับฝุ่น เพื่อที่จะเข้าใจความซับซ้อนของฝุ่นในบ้านจริงๆ เพื่อที่จะพัฒนาเทคโนโลยีของเราให้สามารถแก้ไขปัญหาที่พบในสถานการณ์จริง โดยทีมวิศวกรของเราใช้เวลาในการพัฒนาตัวกรองและระบบกันรั่วเพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าเครื่องดูดฝุ่นสามารถดูดได้ทั้งฝุ่นที่มองเห็นและที่มองไม่เห็น รวมถึงมั่นใจได้ว่าฝุ่นที่ดูดได้จะอยู่ในที่เก็บและไม่รั่วกลับไปยังบ้านของคุณ ทำให้บ้านสะอาดและปราศจากฝุ่นโดยแท้จริง
 
Monica ได้กล่าวปิดท้ายด้วยว่า “เราหวังว่าการวิจัยในครั้งนี้จะทำให้คุณพิจารณาเรื่องฝุ่นในบ้าน ว่าถึงแม้คุณจะไม่สามารถมองเห็นมันได้ไม่ได้แปลว่ามันไม่ได้อยู่ตรงนั้น ถึงแม้จะมีขนาดเล็กแต่ฝุ่นอย่างสะเก็ดผิวหนังจากสัตว์เลี้ยงหรือตัวไรฝุ่นสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้เทียบเท่าหรือมากกว่าฝุ่นที่มองเห็นได้”
 
สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีเครื่องดูดฝุ่นของ Dyson ได้ที่เว็บไซต์ หรือ Facebook Page Dyson
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์
Seafood from Norway Festival 2025 ป๊อปอัพสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมนำทุกท่านดำดิ่งสู่โลกแห่งอาหารทะเลจากน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาดของนอร์เวย์ ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสและสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง Seafood from Norway และผู้บริโภคชาวไทย ถ่ายทอดเรื่องราวของธรรมชาติ ผู้คน และอนาคตที่มีร่วมกัน พร้อมกิจกรรมโซนอินเทอร์แอคทีฟ ลิ้มลองเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และบูธจากพาร์ทเนอร์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 กันยายน 2568 เวลา 10.00–22.00 น. ณ EM MARKET ห้างสรรพสินค้า EMSPHERE กรุงเทพฯ
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก  ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เปิดนิทรรศการ “Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” หยิบซอสปรุงรสท้องถิ่นมาต่อยอดในมุมมองใหม่ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมที่กินได้” ร้อยเรียงเรื่องราวผ่าน 4 โซนนิทรรศการที่ชวนสำรวจทั้งวัฒนธรรมการกิน ภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านขวดซอส ลิ้มรสซอสไทย ที่ถูกครีเอตในรูปแบบใหม่ พร้อมมองโอกาสของเครื่องปรุงไทยที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยนิทรรศการดังกล่าวสามารถเข้าชมได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้จนถึง 23 พฤศจิกายน 2568 ณ Front Lobby ชั้น 1 TCDC กรุงเทพฯ