ทีเอ็มบีธนชาต เปิด “พิพิธภัณฑ์ครุฑ” แห่งแรกและแห่งเดียวในอาเซียนอย่างเป็นทางการ จุดประกายแหล่งเรียนรู้ ต่อยอดการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยอย่างยั่งยืน

0    353    0    31 ส.ค. 2565 13:46 น.   
แบ่งปัน

ทีเอ็มบีธนชาต เปิด “พิพิธภัณฑ์ครุฑ” แห่งแรกและแห่งเดียวในอาเซียนอย่างเป็นทางการ จุดประกายแหล่งเรียนรู้ ต่อยอดการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยอย่างยั่งยืน

   เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี จัดพิธีเปิด “พิพิธภัณฑ์ครุฑ” อย่างเป็นทางการ  โดยได้รับเกียรติจาก ดร. เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานกรรมการ ทีเอ็มบีธนชาต เป็นประธานในพิธี ซึ่งพิพิธภัณฑ์ครุฑ โดย ทีเอ็มบีธนชาต เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งเดียวในประเทศไทยและในอาเซียน ที่รวบรวมครุฑที่มีเอกลักษณ์เฉพาะองค์จากทุกภาคของไทย โดยอัญเชิญครุฑที่ประดิษฐาน ณ ธนาคารสาขาต่าง ๆ มากกว่า 150 องค์ มาไว้ด้วยกัน พร้อมนำเสนอเรื่องราว “พญาครุฑ” สัตว์หิมพานต์ สัญลักษณ์แห่งความกตัญญู ความดีงาม และความซื่อสัตย์ ที่จัดแสดงอย่างทันสมัย ทั้งรูปแบบแอนิเมชัน และมัลติมีเดียต่าง ๆ  เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสประสบการณ์การชมนิทรรศการได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมสังคมเพื่อความยั่งยืน ด้านการจุดประกายความเป็นไทยของธนาคาร เพื่อส่งเสริมให้ผู้เข้าชมได้รับแรงบันดาลใจ และร่วมกันสืบสานมรดกศิลปะวัฒนธรรมไทย

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าชมพิพิธภัณฑ์ครุฑ สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต๋ https://www.ttbfoundation.org/th/garudamuseum/  หรือแจ้งความประสงค์ผ่านระบบการจองล่วงหน้าผ่าน QR Code ด้านล่าง  ได้แล้วตั้งแต่วันนี้  โดยจะเปิดให้เข้าชมทุกวันศุกร์ - เสาร์ วันละ 3 รอบ ในเวลา 10:00 / 13:00 / 15:00 น. พร้อมผู้นำชม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ ธนาคารได้จัดรถตู้บริการรับ-ส่งจากสถานีรถไฟฟ้า บีทีเอส สถานีเคหะสมุทรปราการ ถึง พิพิธภัณฑ์ครุฑ

สามารถติดตามเรื่องราวประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ครุฑ โดยทีเอ็มบีธนชาต ผ่าน E-Book ได้ที่ www.ttbfoundation.org/th/garudamuseum/ebook
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
วัตสันเดินหน้า รุกขยายสาขา  พร้อมเปิดตัว Greener Store แห่งแรกของประเทศไทย  มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน สำนักพิมพ์แม่บ้าน
วัตสันเดินหน้า รุกขยายสาขา พร้อมเปิดตัว Greener Store แห่งแรกของประเทศไทย มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน
วัตสัน ผู้นำร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทย เผยทิศทางธุรกิจ ประจำปี 2567 เน้นขยายการเติบโต รวมถึงการนำความยั่งยืนมาใช้ผสานในการพัฒนาส่วนต่างๆ ของธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปีนี้ วัตสัน ในฐานะผู้นำตลาด ยังคงมุ่งหน้าชูกลยุทธ์การชอปปิ้งออฟไลน์และออนไลน์ (O+O) เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของลูกค้า รวมถึงการต่อยอดให้กับสินค้าภายใต้แบรนด์วัตสัน โดยทั้งหมดนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของวัตสันในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา