แม็คโคร เดินหน้า ห้างค้าส่งรักษ์สิ่งแวดล้อม ลุยโครงการลดขยะฝังกลบทุกมิติ

0    258    0    17 มี.ค. 2566 10:37 น.   
แบ่งปัน

แม็คโคร เดินหน้า ห้างค้าส่งรักษ์สิ่งแวดล้อม ลุยโครงการลดขยะฝังกลบทุกมิติ

   รู้หรือไม่!  ในแต่ละปี อาหารกว่า 1,300 ล้านตัน หรือ 1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตได้ทั่วโลก ต้องกลายเป็นขยะอาหาร (Food Waste) ที่ถูกทิ้งอย่างสูญเปล่า และสร้างก๊าซเรือนกระจกถึง 8% ซึ่งในประเทศไทยมีตัวเลขที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะกว่า 60% ของขยะมาจากขยะอาหาร ส่วนใหญ่เป็นเศษอาหารหรืออาหารเหลือทิ้งจากการบริโภค และอาหารส่วนเกิน (ข้อมูลจาก สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม)

“แม็คโคร” ผู้นำธุรกิจค้าส่งที่มีพันธกิจด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มข้น และให้ความสำคัญกับการลดขยะฝังกลบ โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจก็คือ การนำขยะอาหารกลุ่มผักผลไม้ มาทำเป็น น้ำหมักชีวภาพ (EM)  หนึ่งในผลิตผลจากโครงการ “เปลี่ยนขยะเป็นประโยชน์” ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งเป็นการนำขยะอาหาร (Food Waste) จากทุกสาขาทั่วประเทศ มาคัดแยกและนำไปทำให้เกิดประโยชน์

โดยในปี 2566 นี้คาดว่า จะสามารถผลิตน้ำหมักชีวภาพ หรือ น้ำ EM ได้ประมาณ 1 ล้านลิตร จาก150 สาขา ทั่วประเทศ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ประกอบการร้านค้า หรือหน่วยงานที่สนใจ นำไปใช้ในการบำบัดน้ำเสีย  และทำความสะอาดบริเวณแวดล้อม

ล่าสุด แม็คโคร เข้าร่วมโครงการจิตอาสาพัฒนาฟื้นฟูคลองแสนแสบ กับ กรุงเทพมหานคร โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานรับมอบน้ำหมักชีวภาพ จาก 33 สาขาของแม็คโคร ในพื้นที่กรุงเทพฯ พร้อมถังดักไขมัน จำนวน 5 เครื่อง โดยมี นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการสื่อสารองค์กร  บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) และคณะผู้บริหาร ตลอดจนพนักงานแม็คโครสาขาลาดพร้าว เข้าร่วมกิจกรรมด้วยการเทน้ำหมักชีวภาพในคลองแสนแสบ เพื่อบำบัดน้ำเสียและสร้างสมดุลสิ่งแวดล้อม
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
วัตสันเดินหน้า รุกขยายสาขา  พร้อมเปิดตัว Greener Store แห่งแรกของประเทศไทย  มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน สำนักพิมพ์แม่บ้าน
วัตสันเดินหน้า รุกขยายสาขา พร้อมเปิดตัว Greener Store แห่งแรกของประเทศไทย มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน
วัตสัน ผู้นำร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทย เผยทิศทางธุรกิจ ประจำปี 2567 เน้นขยายการเติบโต รวมถึงการนำความยั่งยืนมาใช้ผสานในการพัฒนาส่วนต่างๆ ของธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปีนี้ วัตสัน ในฐานะผู้นำตลาด ยังคงมุ่งหน้าชูกลยุทธ์การชอปปิ้งออฟไลน์และออนไลน์ (O+O) เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของลูกค้า รวมถึงการต่อยอดให้กับสินค้าภายใต้แบรนด์วัตสัน โดยทั้งหมดนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของวัตสันในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา