ริเวอร์ไซด์ หม่าล่า เดินเครื่อง 4 กลยุทธ์ยกระดับความร้อนแรง ตอบโจทย์คนรักอาหารจีน

0    354    0    8 พ.ค. 2567 16:52 น.   
แบ่งปัน

ริเวอร์ไซด์ กริลล์ฟิช แอนด์หม่าล่า เร่งเครื่องความร้อนแรง รีแบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อ “ริเวอร์ไซด์ หม่าล่า” (Riverside Mala) เพื่อสร้างการจดจำในกลุ่มเป้าหมาย พร้อมส่ง 4 กลยุทธ์เพิ่มทางเลือกและตอบโจทย์ลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารจีนสไตล์เสฉวนอย่างตรงจุด ตั้งแต่กลยุทธ์การชูเมนูยอดฮิตเป็นจุดขาย การปรับโฉมเล่มเมนูพร้อมเมนูอาหารเสฉวนที่หลากหลายมากขึ้น การเพิ่มช่องทางให้บริการในรูปแบบเดลิเวอรีเพื่อเข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม รวมถึงออกโปรโมชันเพื่อดึงดูดลูกค้าประจำและขยายฐานลูกค้าใหม่ สอดรับเทรนด์ธุรกิจร้านอาหารจีนที่มีการแข่งขันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตเป็นตามเป้าหมายที่วางไว้

นายธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในปี 2567 ไมเนอร์ ฟู้ด ได้วางกลยุทธ์รีแบรนด์ร้านริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช แอนด์ หม่าล่า ผ่านการเปลี่ยนชื่อร้านเป็น “ริเวอร์ไซด์ หม่าล่า” เพื่อให้เกิดการจดจำและเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างได้มากขึ้น ซึ่งหลังจากชิมลางธุรกิจอาหารจีนเสฉวน พบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แบรนด์จึงต้องวางกลยุทธ์เพื่อปรับตัวให้สอดรับกับเทรนด์และความต้องการของผู้บริโภค โดยในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ริเวอร์ไซด์ หม่าล่า เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจผ่าน 4 กลยุทธ์สำคัญ เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าได้อย่างตรงจุดอันเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างการเติบโตของร้านในระยะยาว ท่ามกลางการแข่งขันของธุรกิจร้านอาหารจีนในปัจจุบันที่มีมูลค่าตลาดสูงถึง 6,000 ล้านบาท”

สำหรับ 4 กลยุทธ์ที่จะเข้ามาช่วยสร้างการเติบโตทางธุรกิจของร้านริเวอร์ไซด์ หม่าล่า เริ่มต้นด้วยกลยุทธ์แรก คือ

การสร้างจุดขายผ่านเมนูอาหารที่ได้รับความนิยม (Product Strategy) โดยมีการดึงจุดเด่นของเมนูยอดฮิตอย่าง “ริเวอร์ไซด์ หม่าล่าทั่ง” ขึ้นมาเป็นเมนูไฮไลต์ในทุกสาขา เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น หลังได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า จากการนำร่องให้บริการที่ร้านสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ในปีที่ผ่านมา โดยเมนูหม่าล่าดังกล่าวมีความโดดเด่นจากคุณภาพของวัตถุดิบและกิมมิกการรับประทานที่แปลกใหม่ ลูกค้าสามารถเลือกวัตถุดิบสดมากกว่า 50 รายการ ตลอดจนการปรุงน้ำซุปและเครื่องปรุงสไตล์เสฉวนสูตรเฉพาะของร้าน อาทิ น้ำซุปหม่าล่าคอลลาเจน น้ำซุปคอลลาเจน และหม่าล่าผัดแห้ง โดยมีราคาเริ่มต้นเพียง 49 บาท ต่อ 100 กรัม

กลยุทธ์ต่อมาคือการยกเครื่องเล่มเมนูใหม่ (Menu Revamp) ที่ได้ปรับดีไซน์ให้ทันสมัยและใช้งานง่ายขึ้น (User-friendly) พร้อมเพิ่มเมนูอาหารเสฉวนยอดนิยมเข้ามาในเล่มเมนู  อาทิ “ปลากระทะร้อนสไตล์ฉงชิ่งซอสหม่าล่าคอลลาเจน” เมนูดั้งเดิมจากนครฉงชิ่งในมณฑลเสฉวน ที่พลิกแพลงกรรมวิธีการปรุงให้เข้ากับพฤติกรรมการรับประทานอาหารของคนไทยซึ่งชื่นชอบของทอด โดยนำปลาทั้งตัวไปทอดในน้ำมันร้อน ๆ  จนได้หนังกรอบตัดกับเนื้อในที่ชุ่มฉ่ำ ราดซอสหม่าล่าคอลลาเจนเข้มข้นหอมมันเพื่อเสริมความร้อนแรง ก่อนเสิร์ฟมาบนกระทะร้อน หรือเมนู “ผัดเต้าหู้อ่อนสไตล์เสฉวน” เต้าหู้ขาวเนื้อเนียนผัดเข้ากับซอสและเครื่องปรุงรสเผ็ดร้อน “หมูสามชั้นผัดสไตล์เสฉวน” เนื้อหมูสไลซ์บางหมักกับเครื่องเทศก่อนนำไปผัดด้วยไฟแรง เพิ่มมิติรสชาติด้วยเหล่ากานมา รวมถึง “พริกผัดไข่” ไข่ไก่สดผัดกับพริกแห้งจนได้เนื้อสัมผัสละมุนลิ้นแฝงความหอมมัน ปิดท้ายด้วยเมนูเติมความสดชื่นอย่าง “สลัดแตงกวา” สอดรับกับความนิยมของกลุ่มคนรักอาหารจีนเป็นอย่างดี

ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้มีการเพิ่มบริการส่งตรงถึงทุกที่หมาย (Delivery Service) นอกจากการรับประทานที่ร้านและสั่งกลับบ้าน ริเวอร์ไซด์ หม่าล่า ยังได้เดินกลยุทธ์ทำให้แบรนด์ใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้นผ่านการให้บริการในรูปแบบเดลิเวอรี สำหรับในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้า ให้พร้อมอิ่มอร่อยไปกับเมนูหม่าล่าและอาหารจีนต้นตำรับโดยไม่ต้องเดินทางมาที่ร้าน ตลอดจนเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคใหม่ ๆ ได้มากยิ่งขึ้น โดยมีการใช้บรรจุภัณฑ์หม้ออุ่นร้อนแบบพิเศษ ทำให้สามารถรักษารสชาติความสดใหม่ของอาหารเหมือนไปนั่งรับประทานที่ร้าน

ปิดท้ายด้วยกลยุทธ์ ส่งเสริมการขายผ่านการจัดโปรโมชัน (Sales Promotion) ที่เน้นความคุ้มค่า หลากหลาย และสร้างความตื่นเต้นในกลุ่มผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการจัดโปรโมชันเมนูอาหารราคาพิเศษ การแจกคูปองส่วนลด ไปจนถึงโปรโมชัน 1 แถม 1 กับเมนูอาหารที่ร่วมรายการ โดยมีการประชาสัมพันธ์โปรโมชันเหล่านี้ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของแบรนด์ เพื่อกระตุ้นยอดขายและดึงดูดลูกค้าอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี

“จากกลยุทธ์ข้างต้น ถือเป็นการจัดกระบวนทัพเพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเชื่อมั่นว่าร้านริเวอร์ไซด์ หม่าล่า จะสามารถกระตุ้นยอดขายตลอดปีนี้ พร้อมบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางธุรกิจได้ตามที่คาดหวังไว้”

นายธันยเชษฐ์ กล่าวสรุปค้นพบมิติใหม่แห่งอาหารจีนต้นตำรับเสฉวน ได้ที่ร้านริเวอร์ไซด์ หม่าล่า ทั้ง 2 สาขา ได้แก่ สาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 6 และสาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัล พระราม 9 ชั้น 6 ตั้งแต่เวลา 10.00 - 22.00 น. สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ เฟซบุ๊กแฟนเพจ Riverside Mala TH หรือผ่านบัญชีอินสตาแกรม @riversidemala.th รวมถึงแอด LINE เพื่อดูเมนูและสำรองที่นั่งได้ที่ @rgfandmalath
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์
Seafood from Norway Festival 2025 ป๊อปอัพสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมนำทุกท่านดำดิ่งสู่โลกแห่งอาหารทะเลจากน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาดของนอร์เวย์ ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสและสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง Seafood from Norway และผู้บริโภคชาวไทย ถ่ายทอดเรื่องราวของธรรมชาติ ผู้คน และอนาคตที่มีร่วมกัน พร้อมกิจกรรมโซนอินเทอร์แอคทีฟ ลิ้มลองเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และบูธจากพาร์ทเนอร์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 กันยายน 2568 เวลา 10.00–22.00 น. ณ EM MARKET ห้างสรรพสินค้า EMSPHERE กรุงเทพฯ
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก  ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เปิดนิทรรศการ “Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” หยิบซอสปรุงรสท้องถิ่นมาต่อยอดในมุมมองใหม่ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมที่กินได้” ร้อยเรียงเรื่องราวผ่าน 4 โซนนิทรรศการที่ชวนสำรวจทั้งวัฒนธรรมการกิน ภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านขวดซอส ลิ้มรสซอสไทย ที่ถูกครีเอตในรูปแบบใหม่ พร้อมมองโอกาสของเครื่องปรุงไทยที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยนิทรรศการดังกล่าวสามารถเข้าชมได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้จนถึง 23 พฤศจิกายน 2568 ณ Front Lobby ชั้น 1 TCDC กรุงเทพฯ