สศส. จับมือ จังหวัดเพชรบุรี เปิดเวที “การประกวดรสเพ็ดรีประจำบ้าน” สืบสานต่อยอดวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่นเมืองเพชรฯ ส่งต่อสู่คนรุ่นใหม่

0    22    0    1 ก.ย. 2568 17:35 น.   
แบ่งปัน

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ สศส. ภายใต้โครงการส่งเสริมเมืองสร้างสรรค์องค์การยูเนสโกในประเทศไทย (UNESCO Creative Cities Network: UCCN) ร่วมกับ สำนักงานจังหวัดเพชรบุรี เปิดเวทีกิจกรรม “การประกวดรสเพ็ดรีประจำบ้าน (Cooking and Storytelling Competition)” ภายใต้ แนวคิด “รสเพ็ดรี มีดีไม่เหมือนใคร” เพื่อตอกย้ำบทบาทเพชรบุรีในฐานะเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร (City of Gastronomy) ของประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านวัฒนธรรมอาหารจากรุ่นสู่รุ่น สำหรับกิจกรรมนี้มีการจับคู่ “แม่ครัวหัวเตา” กับ “นักเล่าเรื่องรุ่นเยาว์” ถ่ายทอดสูตรอาหารประจำบ้านผ่านการปรุงและการเล่าเรื่องในรูปแบบร่วมสมัย เพื่อเชื่อมโยงองค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่น ขณะเดียวกันยังเป็นเวทีสร้างคุณค่าเพิ่มแก่ชุมชน และต่อยอดสู่อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ณ สวนตาลลุงถนอม อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี
 
นางสาวพุฒศรี สามี ผู้อำนวยการสำนักบริหาร และ พัฒนาองค์กร สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กล่าวว่า “กิจกรรม การประกวดรสเพ็ดรีประจำบ้าน ไม่ใช่เพียงเวทีแข่งขันทำอาหาร แต่คือการถ่ายทอดมรดกภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตและรากเหง้าของชุมชนในเพชรบุรี เราเชื่อว่าอาหารคือจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่ยั่งยืน ซึ่ง สศส.ได้กำหนดแนวทางการพัฒนาเมืองสร้างสรรค์เพชรบุรีผ่าน 3 แกนหลัก ได้แก่ 1) ชวนสำรวจ รีวิวตัวเอง 2) รู้จักเรื่องราว รู้ลึกถึงราก และ 3) ต่อยอดผ่านประสบการณ์ใหม่ สู่ตลาดใหม่ เพื่อให้วัฒนธรรมอาหารเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน
การจับคู่ แม่ครัวหัวเตา กับ นักเล่าเรื่องรุ่นเยาว์ จึงเป็นสัญลักษณ์ของการสานต่อพลังระหว่างรุ่น ถ่ายทอดคุณค่าและความคิดสร้างสรรค์ให้อาหารพื้นถิ่นเข้าถึงผู้คนในยุคปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญ กิจกรรมนี้ยังเป็นแรงขับเคลื่อนการสื่อสารอัตลักษณ์เมืองผ่านอาหาร เสริมบทบาทของเพชรบุรีในฐานะ เมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล”
 
ด้าน นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี รักษาการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ประธานในพิธีเปิดงาน กล่าวว่า “เพชรบุรีได้รับการคัดเลือกจากองค์การยูเนสโกตั้งแต่ปี 2564 ให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร จากรากฐานวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง ทั้งวัตถุดิบพื้นถิ่น อาทิ น้ำตาลโตนด มะนาวแป้น และเกลือสมุทร ผสานภูมิปัญญาการปรุงอาหารที่สืบทอดกันมา ก่อเกิดเป็น “รสเพ็ดรี” ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร สำรับอาหารและเรื่องเล่าของแต่ละบ้าน ไม่ใช่เพียงวัตถุดิบและรสชาติ แต่เป็นพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์และภูมิปัญญาที่สืบทอดต่อกันมา กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่รักษาเอกลักษณ์ของเพชรบุรี แต่ยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ชุมชนและเยาวชนได้แสดงศักยภาพและต่อยอดสู่ระดับนานาชาติ การประกวดรสเพ็ดรีประจำบ้าน จึงเป็นมากกว่าการแข่งขัน แต่เป็นพื้นที่เรียนรู้ สร้างแรงบันดาลใจ และกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พร้อมยกระดับเพชรบุรีให้ก้าวสู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์ที่เข้มแข็งและยั่งยืน”

การประกวดรสเพ็ดรีประจำบ้าน ไม่ได้เป็นเพียงเวทีโชว์ฝีมือการทำอาหารเท่านั้น แต่คือการนำภูมิปัญญาของแต่ละชุมชนมาตีความใหม่ในรูปแบบร่วมสมัย โดยมีทีมแม่ครัวและนักเล่าเรื่องรุ่นใหม่ 3 ทีมที่สะท้อนรากเหง้าความหลากหลายของเพชรบุรีอย่างน่าสนใจ ได้แก่
  1. สำรับกะเหรี่ยงโปว์ โดย แม่ครัวป้าแหวน x แม่ครัวซูซี่ นำเสนอเมนู เชอเง๊กะทิ ข้าวห่อกะเหรี่ง แกงข้าวคั่ว และซูชิข้าวกะเหรี่ยง ซึ่งสะท้อนวิถีชุมชนกะเหรี่ยงที่ควรค่าต่อการอนุรักษ์ไว้ และต่อยอดผสมผสานอาหารรูปแบบใหม่ได้อย่างลงตัว
  2. สำรับลาวโซ่ง โดย แม่ครัวป้าติ๋ม x แม่ครัวพลอย นำเสนอเมนู แกงหน่อส้ม แจ่วด้าน ผักจิ้ม ปลาแดดเดียว และหมูลอย ถ่ายทอดรสชาติจัดจ้านถูกปากทุกเมนู
  3. สำรับแม่ครัววัดใหญ่สุวรรณาราม โดย แม่ครัวป้าเตี้ย x แม่ครัวนัท นำเสนอเมนู แกงหัวกะโหนด และ ยำใหญ่แบบเพชรบุรี รังสรรค์อาหารอย่างละเมียดละไม สืบทอดเมนูพื้นถิ่นแบบเพชรบุรี
ภายในงานมีกิจกรรมที่หลากหลาย ตั้งแต่การปรุงสำรับประจำบ้าน การชิมวัตถุดิบเพ็ดรี นิทรรศการอาหาร ไปจนถึงการเสวนา “รสเพ็ดรี สำรับนี้มีดีอยากเล่า” ก่อนจะปิดท้ายด้วยการประกาศผลและมอบรางวัลอย่างอบอุ่น ซึ่งแต่ละทีมได้รับรางวัลที่สะท้อนเอกลักษณ์ของตนเอง ดังนี้

รางวัล “สำรับชวนว้าว” รางวัลความคิดสร้างสรรค์ ตกเป็นของ ทีมแม่ครัวกะเหรี่ยง ถ่ายทอดภูมิปัญญาป่าพื้นถิ่นอย่างมีเสน่ห์
“เมนูเหล่านี้สื่อถึงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษตามวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยง โดยเราได้นำข้าวกะเหรี่ยงมาต่อยอดกับคนรุ่นใหม่ ออกมาเป็นเมนูซูชิ ส่งต่ออาชีพให้รุ่นลูกหลานในอนาคต เราขอขอบคุณที่ให้โอกาสกลุ่มกะเหรี่ยงได้เข้ามามีส่วนร่วมและบอกเล่าเรื่องราวอาหารของชาวกะเหรี่ยง โดยสามารถแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอาหาร และเป็นการบอกต่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปดูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง ซึ่งใน 1 ปีจะมีประเพณีของชาวกะเหรี่ยง 3 ประเพณีด้วยกัน โดยแต่ละประเพณีจะมีอาหารแต่ละประเภทไม่ซ้ำกัน ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบในแต่ละช่วง อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสวิถีชุมชนของเราอย่างแท้จริง” ทีมแม่ครัวกล่าว

รางวัล “สำรับชวนฟัง” รางวัลการเล่าเรื่องน่าฟัง มอบให้กับ ทีมแม่ครัวชุมชนวัดใหญ่สุวรรณาราม ที่ใช้การเล่าเรื่องเชื่อมโยงอาหารกับประวัติศาสตร์วัดและวิถีชีวิตอย่างน่าประทับใจ
“แกงหัวกะโหนดเป็นอาหารพื้นเมืองของจังหวัดเพชรบุรี วัตถุดิบมาจากผลผลิตของชาวบ้านทุกอย่าง ปกติเราเป็นแม่ครัวอยู่ที่วัดใหญ่สุวรรณาราม ใครอยากชิมรสชาติอาหารพื้นเมืองเพชรบุรีสามารถมาหาแม่ครัวได้ที่วัดได้ และทางทีมแม่ครัวชุมชนวัดใหญ่สุวรรณารามก็รู้สึกมีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดงานครั้งนี้”

รางวัล “สำรับชวนหิว” รางวัลรสชาติอาหารอร่อย ยกให้ ทีมแม่ครัวลาวโซ่ง ที่จัดสำรับหลากหลายและรสชาติจัดจ้านจนทำให้ผู้เข้าร่วมงานอยากลิ้มลองทันที
“เราอยากให้ผู้คนได้รู้จักชุมชนของเราผ่านเมนูเหล่านี้ ซึ่งเราสามารถหาวัตถุดิบได้เองจากท้องถิ่นของเรา เป็นอาหารพื้นบ้านที่ถ่ายทอดวิถีชีวิตชุมชนได้ดี เรามีความภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้มีส่วนร่วมในการประกวดรสเพ็ดรีประจำบ้านครั้งนี้และได้รับรางวัลนี้”

การประกวด “รสเพ็ดรีประจำบ้าน” ครั้งนี้ ทำให้ทุกคนได้เห็นว่า “รสเพ็ดรี” คือรสชาติที่สะท้อนความหลากหลายของเพชรบุรี ไม่ว่าจะเข้มข้นแบบกะเหรี่ยง จัดจ้านแบบลาวโซ่ง หรือประณีตละเมียดละไมแบบตำรับวัดใหญ่สุวรรณาราม ล้วนเป็นพลังแห่งภูมิปัญญาที่ควรค่าแก่การสืบสานและต่อยอดสู่ระดับนานาชาติ
 
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์
Seafood from Norway Festival 2025 ป๊อปอัพสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมนำทุกท่านดำดิ่งสู่โลกแห่งอาหารทะเลจากน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาดของนอร์เวย์ ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสและสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง Seafood from Norway และผู้บริโภคชาวไทย ถ่ายทอดเรื่องราวของธรรมชาติ ผู้คน และอนาคตที่มีร่วมกัน พร้อมกิจกรรมโซนอินเทอร์แอคทีฟ ลิ้มลองเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และบูธจากพาร์ทเนอร์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 กันยายน 2568 เวลา 10.00–22.00 น. ณ EM MARKET ห้างสรรพสินค้า EMSPHERE กรุงเทพฯ
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก  ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เปิดนิทรรศการ “Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” หยิบซอสปรุงรสท้องถิ่นมาต่อยอดในมุมมองใหม่ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมที่กินได้” ร้อยเรียงเรื่องราวผ่าน 4 โซนนิทรรศการที่ชวนสำรวจทั้งวัฒนธรรมการกิน ภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านขวดซอส ลิ้มรสซอสไทย ที่ถูกครีเอตในรูปแบบใหม่ พร้อมมองโอกาสของเครื่องปรุงไทยที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยนิทรรศการดังกล่าวสามารถเข้าชมได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้จนถึง 23 พฤศจิกายน 2568 ณ Front Lobby ชั้น 1 TCDC กรุงเทพฯ