เพื่อนๆ รู้ไหมคะว่าน้ำตาลที่ให้ความหวานในการปรุงอาหาร มาจาก 3 แหล่ง คือ

1. น้ำตาลจากน้ำเลี้ยงของพืช เช่น น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลโตนด (Palm Sugar) หรือน้ำตาลปี๊บ ได้มาจากการเก็บน้ำเลี้ยงจากดอกมะพร้าวหรือดอกตาล ซึ่งสามารถเก็บน้ำเลี้ยงที่เรียกกันว่าน้ำตาลสดได้มากถึง 8-10 ลิตร/วัน ในน้ำเลี้ยงจะมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบอยู่สูงถึง 12 % เมื่อนำน้ำตาลสดไประเหยน้ำออกจะได้สารสะลายน้ำตาลเข้มข้น นำไปตากให้แห้งเป็นน้ำตาลปึกนั่นเอง
 
2. น้ำตาลที่ได้จากสัตว์ คือ น้ำผึ้ง (Honey Bee) ที่ได้จากผึ้ง เมื่อผึ้งงานบินออกไปเพื่อเก็บน้ำหวานจากดอกไม้ แล้วกลืนลงไปในกระเพาะ ซึ่งมีเอนไซม์ช่วยเปลี่ยนน้ำหวานให้เป็นน้ำตาล เมื่อผึ้งบินกลับมาที่รังก็จะคายน้ำหวานที่ผ่านการย่อยแล้วเก็บเอาไว้ภายในรวง หลังจากนั้นผึ้งจะกระพือปีกเพื่อให้น้ำที่เจืออยู่ในน้ำผึ้งระเหยออกไป จนน้ำหวานเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ และกลายเป็นน้ำผึ้ง ซึ่งน้ำผึ้งที่เราบริโภคเกิดจากการนำรวงผึ้งมาปาดฝารวงผึ้งออกแล้วนำเข้าเครื่องสลัดเพื่อแยกน้ำผึ้งออกจากรวงโดยแรงเหวี่ยงกรองจนได้น้ำผึ้งที่ใสสะอาดบรรจุขวดขาย
 
3. น้ำตาลที่มีการใช้มานานแล้วในวงการอุตสาหกรรมอาหาร ได้แก่ น้ำเชื่อมจากพืชกลุ่มที่ผลิตแป้ง ได้แก่ พืชจำพวกมันสำปะหลัง ข้าวโพดหรืออ้อย แล้วผ่านกระบวนการแปรรูปย่อยแป้งโดยการเติมกรดบางชนิดหรือเอนไซม์ลงไปในสภาวะที่เหมาะสม เพื่อเปลี่ยนแป้งของพืชให้เป็นน้ำตาล ใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตซอสต่าง ๆ ที่ให้ความหวานและให้ความข้นหนืดอีกด้วย