เนสท์เล่ ส่งแบรนด์ระดับโลก ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ (HARVEST GOURMET™) บุกตลาด Plant-based Food ตอบรับเทรนด์รักสุขภาพ

1    3,522    21    2 มี.ค. 2564 14:56 น.   
แบ่งปัน

เนสท์เล่ ส่งแบรนด์ระดับโลก ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ (HARVEST GOURMET™)
บุกตลาด Plant-based Food ตอบรับเทรนด์รักสุขภาพ

   ในปัจจุบันกระแสการดูแลสุขภาพถือเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคไทยหันมาให้ความสำคัญกันอย่างแพร่หลายมากขึ้นโดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน โดยหนึ่งในเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมคือการบริโภคโปรตีนจากพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการ โดยเฉพาะอาหารจากพืช หรือ Plant-based Food โดยในปัจจุบันพบว่ากว่า 25 เปอร์เซ็นต์ของคนไทยบริโภคอาหารที่ทำจากพืช ทั้งนี้ ไม่เพียงแต่ผู้บริโภคที่ทานมังสวิรัติ หรือ เจ แต่ยังรวมถึงกลุ่มผู้บริโภคที่ลดการบริโภคเนื้อสัตว์ ด้วยเหตุผลที่ใส่ใจด้านสุขภาพ ความเชื่อเรื่องการละเว้นหรือการบริโภคเนื้อสัตว์ให้น้อยลง และเหตุผลในการช่วยเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เล็งเห็นถึงพฤติกรรมการบริโภครูปแบบใหม่นี้ จึงเปิดตัวแบรนด์ระดับโลก ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ (HARVEST GOURMET™) เสริมทัพพอร์ตผลิตภัณฑ์ และบุกตลาด Plant-based Food เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจในการดูแลสุขภาพ และ โภชนาการกันมากขึ้น คุณเครือวัลย์ วรุณไพจิตร ผู้อำนวยการบริหารหน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหาร และ เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล ประจำภูมิภาคอินโดไชน่า กล่าวว่า “ด้วยวิสัยทัศน์ Good food, Good life ของเนสท์เล่ที่มุ่งมั่นคิดค้นนวัตกรรมอาหารเพื่อชีวิตที่ดีของผู้บริโภค เรามีแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช (Plant-based Food) ที่ทั้งมีคุณค่าทางโภชนาการและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์การใส่ใจสุขภาพเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และนับเป็นสัญญาณที่ดีที่คนไทยดูแลสุขภาพกันมากขึ้น นับเป็นเวลากว่า 30 ปีที่เนสท์เล่ได้สั่งสมประสบการณ์ และความรู้ที่ได้จากงานวิจัยทั่วโลก จนเกิดเป็นความเชี่ยวชาญในการพัฒนานวัตกรรม Plant-based Food เพื่อคิดค้นผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวเอเชีย ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง และถือเป็นโอกาสดีที่จะได้แนะนำแบรนด์ ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ ซึ่งเป็น Plant-based Food แบรนด์แรกของเนสท์เล่ในประเทศไทย เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ มองหาอาหาร ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ รสชาติถูกปาก และใส่ใจสิ่งแวดล้อม”
 

ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ นำเสนอนวัตกรรมอาหารจากพืช (Plant-based Food) มีโปรตีนสูง เป็นแหล่งของใยอาหาร ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ไม่ใช้สีสังเคราะห์ แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งประสบการณ์อาหารรสชาติอร่อยที่คาดไม่ถึง มาในรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย อาทิ เนื้อเบอร์เกอร์, เนื้อบดละเอียด, ไก่ย่างรมควัน, ไก่ชุบเกล็ดขนมปัง และ มีทบอล ซึ่งล้วนมีส่วนประกอบหลักที่ทำจากโปรตีนพืช ได้แก่ พืชตระกูลถั่วจากธรรมชาติ, แต่งสีธรรมชาติ เช่น บีทรูทสกัดเข้มข้น และแครอทสกัดเข้มข้น ตลอดจน เพิ่มเนื้อสัมผัสที่ชุ่มฉ่ำด้วยน้ำมันมะพร้าว ให้มีลักษณะคล้ายไขมันแทรก เพื่อมอบรสชาติเสมือนเนื้อจริง โดยเรามีฐานการผลิตล่าสุดสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ที่ มาเลเซีย ซึ่งจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์จากฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ มีรสชาติที่ถูกปากคนเอเชีย รวมถึงคนไทยแน่นอน” คุณเครือวัลย์ วรุณไพจิตร กล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ผลสำรวจพบว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคคนไทยที่หันมาใส่ใจสุขภาพด้วยการลดการบริโภคเนื้อสัตว์ หรือที่เรียกว่า Flexitarian นี้ มีอยู่ 2 กลุ่มหลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มคนรักสุขภาพ (65%) และ กลุ่มควบคุมน้ำหนัก (20%)* คุณจันทิมา     เกยานนท์ นักโภชนาการ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวถึงคุณประโยชน์ทางด้านโภชนาการของอาหารจากพืช (Plant-based Food) ว่า “Plant-based Food คือ อาหารที่มาจากพืช ผัก ผลไม้ เห็ดต่างๆ รวมไปถึงธัญพืช และถั่ว โดยข้อมูลพบว่าถั่วบางชนิด เช่นถั่วเหลือง จัดเป็นโปรตีนที่สมบูรณ์ กล่าวคือมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายครบถ้วน ดังนั้นการเลือกทานอาหารจากพืช ควรเลือกทานให้มีความหลากหลายและได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ข้อแนะนำสำหรับการทานโปรตีนให้เพียงพอคือ ควรได้รับปริมาณโปรตีน 1 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กก. เพราะร่างกายต้องใช้โปรตีนในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ซ่อมแซมร่างกาย และใช้เป็นพลังงานเมื่อถึงคราวจำเป็น อาหารจากพืช (Plant-based Food) ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ที่รักสุขภาพ ซึ่งนอกจากมีโปรตีนสูงแล้ว ยังเป็นแหล่งของใยอาหารอีกด้วย”

 

ด้วยปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้ธุรกิจร้านอาหาร หันมาให้ความสำคัญกับเมนูโปรตีนจากพืชกันมากขึ้นโดยมีเมนูมังสวิรัติ และ โปรตีนจากพืชเพิ่มขึ้นถึง 65% และ 32% ตามลำดับ** ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยสร้างทัศนคติใหม่ ๆ ที่ดีกับผู้บริโภค ซึ่งผลสำรวจในต่างประเทศเผยให้เห็นว่า ผู้บริโภคชื่นชอบร้านอาหารที่นำเสนอเมนู Plant-based เพราะมีอาหารทางเลือกเพื่อผู้ที่รักสุขภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมองว่าภาพลักษณ์ของร้านดูทันสมัย และ ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอีกด้วย***

สำหรับแผนการตลาดในช่วงแรกของการเปิดตัวแบรนด์ ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ จึงมุ่งเน้นที่การจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจร้านอาหาร เพื่อส่งมอบประสบการณ์ของแบรนด์ ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ ให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ลิ้มลอง เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 เป็นต้นไป และคาดหวังว่าโมเดลธุรกิจนี้ จะช่วยส่งต่อเทรนด์อาหารจากพืชให้เป็นที่รู้จักและนิยมในวงกว้างมากยิ่งขึ้น

สำหรับคู่ค้าทางธุรกิจที่สนใจผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชจาก ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ สามารถติดต่อ เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัลที่ 02-657-8625 กด 1 และผู้บริโภคสามารถติดตามข่าวสารและเมนูจากฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ที่ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจได้ที่ https://www.nestleprofessional.co.th/harvest-gourmet
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์
Seafood from Norway Festival 2025 ป๊อปอัพสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมนำทุกท่านดำดิ่งสู่โลกแห่งอาหารทะเลจากน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาดของนอร์เวย์ ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสและสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง Seafood from Norway และผู้บริโภคชาวไทย ถ่ายทอดเรื่องราวของธรรมชาติ ผู้คน และอนาคตที่มีร่วมกัน พร้อมกิจกรรมโซนอินเทอร์แอคทีฟ ลิ้มลองเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และบูธจากพาร์ทเนอร์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 กันยายน 2568 เวลา 10.00–22.00 น. ณ EM MARKET ห้างสรรพสินค้า EMSPHERE กรุงเทพฯ
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก  ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เปิดนิทรรศการ “Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” หยิบซอสปรุงรสท้องถิ่นมาต่อยอดในมุมมองใหม่ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมที่กินได้” ร้อยเรียงเรื่องราวผ่าน 4 โซนนิทรรศการที่ชวนสำรวจทั้งวัฒนธรรมการกิน ภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านขวดซอส ลิ้มรสซอสไทย ที่ถูกครีเอตในรูปแบบใหม่ พร้อมมองโอกาสของเครื่องปรุงไทยที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยนิทรรศการดังกล่าวสามารถเข้าชมได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้จนถึง 23 พฤศจิกายน 2568 ณ Front Lobby ชั้น 1 TCDC กรุงเทพฯ