ยุโรปเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมยุโรปไม่เพียงแต่จะได้ตื่นตาไปกับมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม แต่ยังได้เริ่มต้นการเดินทางที่น่าตื่นเต้นอีกด้วย ประเทศสมาชิกทั้ง 27 ประเทศของสหภาพยุโรปมีความอุดมสมบูรณ์และอุดมไปด้วยอาหารนานาชนิด แต่ละประเทศในของสหภาพยุโรปมีวัฒนธรรมการทำอาหารที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความรู้ดั้งเดิม ภูมิประเทศ และสภาพภูมิอากาศ โดยภูมิอากาศของยุโรปมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก เริ่มตั้งแต่ชายฝั่งอาร์กติกทางตอนเหนือไปจนถึงภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนทางตอนใต้ จากมหาสมุทรแอตแลนติกทางตะวันตก ไปจนถึงทะเลดำทางตะวันออก ซึ่งครอบคลุมภูมิประเทศที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นแตกต่างกันไป ความหลากหลายนี้ทำให้สหภาพยุโรปสามารถผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มทางการเกษตรคุณภาพสูงและเป็นต้นตำรับได้มากมาย

แคมเปญ “Colours by Europe. Tastes of Excellence.” เป็นการเฉลิมฉลองมรดกแห่งการทำอาหารของยุโรป ผ่านการนำเสนอและส่งเสริมผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับจากสหภาพยุโรป (EU) ในประเทศไทย แคมเปญ ฯ ได้เดินหน้ากระตุ้นยอดจำหน่ายสินค้าปลีกและจัดทำโปรโมชั่นร่วมกับกูร์เมต์ มาร์เก็ต (Gourmet Market) ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม 2565 และต้อนรับทุกท่านให้ได้มาเปิดประสบการณ์ไปกับอาหารและเครื่องดื่มทางการเกษตรของสหภาพยุโรป ผู้ชื่นชอบอาหารทราบดีว่า แม้อาหารยุโรปจะมีความแตกต่างจากอาหารไทยดั้งเดิมอยู่มาก แต่กลับมีรสชาติและรสสัมผัสที่คล้ายคลึงกัน ทุกวันนี้ อาหารยุโรปไม่ได้เป็นแค่เรื่องของ “เมนูทั่ว ๆ ไป” อย่างพวก พิซซ่า พาสตา หรือสเต็ก เพราะประเทศไทยมีผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มทางการเกษตรจากสหภาพยุโรปมากมาย ประกอบไปด้วยอาหารรสเลิศตั้งแต่เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากนม ซีเรียล ไปจนถึงผัก ผลไม้และอื่น ๆ อีกมากมาย

อาหารยุโรปหาซื้อได้ในซูเปอร์มาร์เก็ต แถมยังสามารถนำมาประกอบอาหารที่บ้านได้ง่าย ๆ ส่วนผสมคุณภาพสูงของสหภาพยุโรป สามารถตอบสนองต่อเทรนด์ที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในเรื่องของการหันมาทำอาหารที่ดีต่อสุขภาพกันเองที่บ้านมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ประเทศไทยยังต้องการผลิตภัณฑ์อาหารที่มีความยั่งยืนมากกว่าที่เคย เนื่องจากผู้คนจำนวนมากขึ้นตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างสุขภาพของเรากับความเป็นไปของดิน พืช สัตว์ และโลก ด้วยเหตุผลนี้ สหภาพยุโรปจึงได้กำหนดกลยุทธ์ “จากฟาร์มถึงโต๊ะอาหาร” โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงสวัสดิภาพสัตว์ และลดการสูญเสียที่เกิดต่อความหลากหลายทางชีวภาพด้วยการสร้างห่วงโซ่อาหารที่เหมาะสำหรับผู้บริโภค ผู้ผลิต สภาพภูมิอากาศ และสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน  สหภาพยุโรปมีมาตรฐานในการควบคุมการใช้สารกำจัดศัตรูพืช สารกำจัดวัชพืช และสารเคมี เพราะฉะนั้น เมื่อเลือกผักและผลไม้ของสหภาพยุโรป ผู้บริโภคจะสามารถมั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ได้ผ่านการเก็บเกี่ยวในสภาวะที่มีความเหมาะสมทั้งในเรื่องของสภาพอากาศ ดิน และการเพาะปลูกที่ปลอดภัย

อาหารของสหภาพยุโรปไม่ได้มีเพียงแค่ความปลอดภัยและยั่งยืน แต่ยังมีมรดกทางวัฒนธรรมและการทำอาหารที่สำคัญซึ่งได้รับการคุ้มครองโดยโครงการฉลาก GI อย่าง ฉลาก PDO และ PGI ซึ่งช่วยคุ้มครองชื่อเสียงของผลิตภัณฑ์ที่มาจากภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่งและเป็นไปตามกระบวนการผลิตแบบดั้งเดิมโดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์คุ้มครองโดยโครงการฉลาก GI แต่ละชิ้นมีเรื่องราวของตัวเองที่บอกเล่าเกี่ยวกับประเพณี ประวัติศาสตร์ และภูมิภาคของการผลิต สหภาพยุโรปมีผลิตภัณฑ์ GI มากกว่า 3,000 รายการ ตั้งแต่ผลไม้ ผัก ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ ชีส ไวน์และสุรา ฯลฯ ลักษณะและชื่อเสียงของสิ่งเหล่านี้เชื่อมโยงกับพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่ปลูกหรือผลิตอย่างใกล้ชิด โดยไม่สามารถ “ผลิตในภูมิภาคอื่นได้” ซึ่งหมายความว่า หากผลิตในภูมิภาคอื่น ความเป็นต้นตำรับของตัวผลิตภัณฑ์ก็จะสูญไป สิ่งนี้นำมาซึ่งประโยชน์มากมายต่อผู้ผลิตและให้การรับประกันถึงความเป็นต้นฉบับและคุณภาพของแหล่งที่มาแก่ผู้บริโภค

“อิ่มอร่อยไปกับอาหารจากยุโรป” ในแคมเปญ ““Colours by Europe. Tastes of Excellence.” ที่พร้อมให้ทุกท่านได้เลือกช็อปอาหารและเครื่องดื่มยุโรปคุณภาพดีกลับบ้าน มาสร้างสรรค์เมนูอาหารยุโรปที่ปรุงได้ง่าย ๆ ที่บ้าน และรสชาติแสนอร่อยด้วยส่วนผสมและผลิตภัณฑ์จากสหภาพยุโรป ซึ่งทั้งหมดนี้หาได้จากในซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้านคุณแล้ววันนี้