วันเดอร์พัฟฟ์ ชวนส่องประโยชน์จากมะม่วง ผลไม้แสนอร่อยที่ครองใจคนไทย!

0    303    0    3 ก.ค. 2567 15:38 น.   
แบ่งปัน

แม้มะม่วงจะเป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศอินเดีย แต่ก็สามารถหาทานได้ง่ายและเป็นที่ชื่นชอบของคนไทยจำนวนมาก ดังจะเห็นได้จากการถูกนำไปประกอบเมนูต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำมะม่วงปั่น ข้าวเหนียวมะม่วง และ มะม่วงน้ำปลาหวาน เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเมนูที่หากใครได้มาเที่ยวประเทศไทยก็พลาดไม่ได้ที่จะลิ้มลองเมนูขึ้นชื่อของมะม่วง หนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ที่สำคัญของประเทศไทย

นอกจากมะม่วงจะมีรสหวานอร่อยแล้ว รู้หรือไม่ว่ามะม่วงยังเต็มไปด้วยคุณประโยชน์ที่ดีต่อร่างกายอีกหลายประการ วันนี้วันเดอร์พัฟฟ์จึงอยากจะมาแนะนำผลิตภัณฑ์รสชาติใหม่ล่าสุด ข้าวโพดอบกรอบผสมมะม่วง และพาทุกคนมาสำรวจข้อดีของการทานมะม่วงไปพร้อมกัน

มะม่วงเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ ซึ่งช่วยบำรุงสายตา เพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา เสริมการมองเห็นในที่มืดให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยชะลอความเสื่อมของดวงตา นอกจากนี้การได้รับวิตามินเออย่างเพียงพอจะสามารถลดโอกาสการเกิดสิวอุดตันได้เช่นกัน

อีกหนึ่งวิตามินที่สำคัญในมะม่วงได้แก่ วิตามินซี ที่มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโดยรวมนั้นแข็งแรง กำจัดเชื้อโรคได้ดีขึ้น นอกจากนี้การได้รับวิตามินซียังช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดียิ่งขึ้น และเป็นการลดความเสี่ยงการเกิดโรคโลหิตจางได้

ยิ่งไปกว่านั้น แมงจิเฟอรินในมะม่วงยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆและความเสียหายของเซลล์ที่อาจเกิดจากสารอนุมูลอิสระในร่างกายได้ โดยปกติแล้วสารอนุมูลอิสระสามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลากหลายทาง การรับประทานผักผลไม้ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระจึงส่งผลดีต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก
เส้นใยอาหารเป็นอีกหนึ่งในคุณประโยชน์ที่เราจะได้รับจากการทานมะม่วง การรับประทานผักผลไม้ที่มีเส้นใยอาหารเป็นส่วนประกอบจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น อุจจาระไม่แข็ง นำไปสู่การขับถ่ายที่คล่องตัวมากยิ่งขึ้น

และหากคุณอ่านบทความนี้แล้วรู้สึกอยากทานขนมที่มีความอร่อยของมะม่วงเป็นส่วนประกอบ เราขอแนะนำ วันเดอร์พัฟฟ์ ข้าวโพดอบกรอบผสมมะม่วง ป๊อปคอร์นเคลือบคาราเมลคุณภาพพรีเมียมที่ผสมผสานความหวานจากผลไม้แท้ อร่อย หอม กรอบเต็มคำ พร้อมให้คุณสัมผัสรสชาติความอร่อยที่ลงตัว

สามารถหาซื้อ วันเดอร์พัฟฟ์ ป๊อปคอร์น ได้แล้ววันนี้ที่ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ LINE Official: @Heritagethailand, Shopee: Heritage Official, Lazada: Heritage, และ TikTok Shop : HeritageGroupTH สอบถาม เพิ่มเติมโทร 02-813-0954-5 หรือติดตามกิจกรรมและข่าวสารได้ที่ www.facebook.com/wonderpuff.th และIG: wonderpuff.th
 
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ Seafood from Norway Festival 2025 ประสบการณ์ป๊อปอัพสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์
Seafood from Norway Festival 2025 ป๊อปอัพสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมนำทุกท่านดำดิ่งสู่โลกแห่งอาหารทะเลจากน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาดของนอร์เวย์ ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสและสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง Seafood from Norway และผู้บริโภคชาวไทย ถ่ายทอดเรื่องราวของธรรมชาติ ผู้คน และอนาคตที่มีร่วมกัน พร้อมกิจกรรมโซนอินเทอร์แอคทีฟ ลิ้มลองเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และบูธจากพาร์ทเนอร์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–นอร์เวย์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 กันยายน 2568 เวลา 10.00–22.00 น. ณ EM MARKET ห้างสรรพสินค้า EMSPHERE กรุงเทพฯ
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก  ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์แม่บ้าน
CEA เปิด “นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” ชวนสำรวจซอสไทยกับรสชาติที่มัดใจครัวโลก ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลิ้มรสได้ เปิดโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 พฤศจิกายน ณ TCDC กรุงเทพฯ
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เปิดนิทรรศการ “Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” หยิบซอสปรุงรสท้องถิ่นมาต่อยอดในมุมมองใหม่ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมที่กินได้” ร้อยเรียงเรื่องราวผ่าน 4 โซนนิทรรศการที่ชวนสำรวจทั้งวัฒนธรรมการกิน ภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านขวดซอส ลิ้มรสซอสไทย ที่ถูกครีเอตในรูปแบบใหม่ พร้อมมองโอกาสของเครื่องปรุงไทยที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยนิทรรศการดังกล่าวสามารถเข้าชมได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้จนถึง 23 พฤศจิกายน 2568 ณ Front Lobby ชั้น 1 TCDC กรุงเทพฯ