ใครว่าอาหารไทยไม่เด็ด ตอนนี้ชื่อเสียงขจรขจายไปทั่วโลกแล้วนะจ๊ะขอบอก ไม่ว่าจะเป็นภาคไหน ๆ เหนือ กลาง อีสาน ใต้ ก็ขึ้นชื่อเรื่องความเด็ด เผ็ด ร้อนทั้งนั้น เพราะเครื่องเทศและสมุนไพรที่มีตามท้องถิ่นในแต่ละภูมิภาคช่วยทำให้อาหารมีความกลมกล่อมมากยิ่งขึ้นส่วนผสมต่าง ๆ ทำให้อาหารไทยมีความโดดเด่นในรสชาติและมีเอกลักษณ์เฉพาะ เมื่อกินแล้วจะทราบทันทีเลยว่านี่เป็นอาหารไทย และเมนูทั้ง 4 ภาคในวันนี้จะมีอะไรบ้าง และเมนูไหนจะโดนใจคุณแม่บ้านที่สุดลองไปดูกันได้เลยค่ะ
แกงผักกาดจอ
| ส่วนผสม |
|
| ซี่โครงหมูหั่นชิ้น |
300 กรัม |
| ผักกวางตุ้งชนิดมีดอก |
4 ต้น |
| กะปิ |
2 ช้อนชา |
| น้ำปลา |
2 ช้อนโต๊ะ |
| น้ำมะขามเปียก |
1 ช้อนโต๊ะ |
| กระเทียมเจียว |
1 ช้อนโต๊ะ |
| พริกชี้ฟ้าแห้งเผา |
2 เม็ด |
| ถั่วเน่าแผ่นปิ้งโขลกหยาบ ๆ |
1 แผ่น |
| หอมแดงเจียว |
1 ช้อนโต๊ะ |
| น้ำเปล่า |
4 ถ้วยตวง |
วิธีทำ
1. ล้างผักกวางตุ้งให้สะอาดหั่นเป็นท่อน เตรียมไว้
2. เคี่ยวซี่โครงหมูกับน้ำเปล่าให้เปื่อย ใส่ผักกวางตุ้ง กะปิ น้ำปลา และน้ำมะขามเปียก
3. พอเดือดใส่กระเทียมเจียว หอมแดงเจียว พริกชี้ฟ้าแห้ง และถั่วเน่า สักครู่ยกลง
หมายเหตุ
- เป็นแกงที่มีรสเปรี้ยวและเค็ม จัดเป็นอาหารพื้นเมืองประเภทแกงจืด
น้ำพริกถั่วเน่า
| ส่วนผสม |
|
| ถั่วเน่า |
50 กรัม |
| มะเขือเทศหั่นชิ้นเล็ก ๆ |
200 กรัม |
| พริกขี้หนูสวนโขลกละเอียด |
15 เม็ด |
| เกลือป่นหยาบ |
1 ช้อนชา |
| น้ำเปล่า |
1 ช้อนโต๊ะ |
| ต้นหอมซอย |
2 ช้อนโต๊ะ |
| น้ำมันพืช |
3 ช้อนโต๊ะ |
| ผักชีสำหรับตกแต่ง |
1 ช้อนโต๊ะ |
| ผักสดต่าง ๆ เช่น แตงกวา มะเขือเปราะ ถั่วฝักยาว |
|
| ผักกาดขาว |
|
วิธีทำ
1. ปิ้งถั่วเน่าพอหอม จากนั้นโขลกให้ละเอียด เตรียมไว้
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน นำถั่วเน่าลงผัดพอหอม
3. ใส่มะเขือเทศและพริกขี้หนูสวนผัดพอเข้ากัน เติมน้ำเปล่า
4. ปรุงรสด้วยเกลือป่น ผัดต่อพอเข้ากันดี โรยต้นหอม ยกลงตักใส่ถ้วย ตกแต่งด้วยผักชี รับประทานคู่กับผักสดต่าง ๆ
แกงสับนกปลากราย
| ส่วนผสม |
|
| เนื้อปลากรายขูด |
250 กรัม |
| กะทิ |
2 1/2 ถ้วยตวง |
| มะเขือพวงหรือมะเขือเปราะ |
50 กรัม |
| พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นแฉลบ |
2 เม็ด |
| ใบมะกรูดฉีก |
3 ใบ |
| ใบโหระพา |
1/4 ถ้วยตวง |
| น้ำตาลปี๊บ |
1 ช้อนชา |
| น้ำปลา |
1 ช้อนโต๊ะ |
| น้ำเกลือ (เกลือป่น 1/4 ช้อนชา ผสมน้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ) |
|
ส่วนผสมน้ำพริกแกง |
|
| พริกสดสีเขียวผ่าเมล็ดออก |
5 เม็ด |
| ตะไคร้ซอย |
1 ช้อนโต๊ะ |
| ข่าซอย |
1 ช้อนชา |
| ผิวมะกรูดหั่นฝอย |
1/2 ช้อนชา |
| รากผักชีซอย |
1 ช้อนชา |
| กระเทียมซอย |
1 ช้อนโต๊ะ |
| หอมแดงซอย |
1 ช้อนโต๊ะ |
| กะปิ |
1/2 ช้อนชา |
วิธีทำ
1. โขลกส่วนผสมน้ำพริกแกงให้ละเอียด
2. สับเนื้อปลากรายให้ละเอียดและเหนียวตักใส่ภาชนะ ใส่น้ำเกลือเคล้าให้เหนียวยิ่งขึ้น
3. ตั้งกะทิ 1/2 ถ้วยตวง เคี่ยวให้แตกมัน ใส่น้ำพริกแกงผัดให้หอม ตักใส่หม้อเติมกะทิที่เหลือพอเดือด ใส่เนื้อปลากรายโดยหยิบเป็นก้อน พอสุกใส่มะเขือพวง ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ ใส่พริกชี้ฟ้า ใบมะกรูด และใบโหระพาคนให้เข้ากัน ยกลง
หมายเหตุ
- เป็นแกงที่ต้องรับประทานร้อน ๆ เสิร์ฟพร้อมไข่เค็มหรือรับประทานกับขนมจีน
แกงหมูกับใบมะดันอ่อน
| ส่วนผสม |
|
| เนื้อหมูป่นมัน |
500 กรัม |
| ใบมะดันอ่อน |
1/2 ถ้วยตวง |
| น้ำปลา |
3 1/2 ช้อนโต๊ะ |
| น้ำตาลปี๊บ |
2 ช้อนโต๊ะ |
| น้ำมันพืช |
2 ช้อนโต๊ะ |
| น้ำเปล่า |
2 ถ้วยตวง |
ส่วนผสมน้ำพริกแกง |
|
| พริกไทย |
10 เม็ด |
| หอมแดงซอย |
1/4 ถ้วยตวง |
| กระเทียมซอย |
1/4 ถ้วยตวง |
| รากผักชีซอย |
1/2 ช้อนโต๊ะ |
| ข่าซอย |
1 ช้อนชา |
วิธีทำ
1. คั่วหอมแดง กระเทียม รากผักชี และข่าให้หอม โขลกรวมกับพริกไทยและกะปิให้ละเอียด
2. ล้างหมูหั่นชิ้นโตพอควร
3. ผัดน้ำพริกแกงกับน้ำมันพืชให้หอม ใส่หมูสามชั้น ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ เติมน้ำเปล่า เคี่ยวให้นุ่ม ใส่ใบมะดันอ่อน ชิมให้ได้สามรส
หมายเหตุ
- เป็นแกงที่มีน้ำขลุกขลิก รสชาติเข้มข้น เค็ม เปรี้ยว และหวาน รสเปรี้ยวจะได้จากใบมะดันอ่อน ต้องเคี่ยวให้รสชาติซึมเข้าไปในเนื้อหมูทั่วกัน มีกลิ่นหอมจากพริกไทยเม็ดและกะปิเผา
แกงอ่อมปลาดุก
| ส่วนผสม |
|
| ปลาดุก |
500 กรัม |
| น้ำเปล่า |
2 ถ้วยตวง |
| มะเขือพวง |
1/4 ถ้วยตวง |
| ใบตำลึง |
1/4 ถ้วยตวง |
| ยอดฟักทองหรือยอดฟักแม้ว |
1/2 ถ้วยตวง |
| ยอดชะอม |
1/4 ถ้วยตวง |
| ข้าวคั่วป่น |
1 ช้อนโต๊ะ |
| น้ำปลาร้าต้มสุก |
2 ช้อนโต๊ะ |
| น้ำปลา |
1/4 ถ้วยตวง |
| น้ำมันพืช |
|
ส่วนผสมน้ำพริกแกง |
|
| พริกสด |
5 เม็ด |
| หอมแดงปอกเปลือก |
4 หัว |
| ตะไคร้หั่นฝอย |
2 ช้อนโต๊ะ |
| ข่าหั่นฝอย |
1 ช้อนชา |
| เกลือป่นหยาบ |
1 ช้อนชา |
| |
|
วิธีทำ
1. โขลกส่วนผสมน้ำพริกแกงให้ละเอียด
2. ขูดเมือกปลาดุกล้างให้สะอาด ตัดเป็นชิ้น ๆ ล้างให้สะอาดอีกครั้ง พักให้สะเด็ดน้ำ
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่น้ำพริกแกงลงผัดพอหอม ใส่ปลาดุกผัดพอตึงตัว ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้าและน้ำปลา ใส่ข้าวคั่ว เติมน้ำเปล่าพอเดือดทั่ว ใส่ผักที่เตรียมไว้ พอผักสุกยกลงคนให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะ เสิร์ฟร้อน ๆ
หมายเหตุ
- รสชาติของแกงจะเค็มและเผ็ด ส่วนข้าวคั่วจะทำให้น้ำแกงข้น ผักพื้นบ้านจะเป็นเอกลักษณ์ของแกงชนิดนี้
ซุปขนุนอ่อน
| ส่วนผสม |
|
| ปลาทูต้มแกะเอาแต่เนื้อ |
1/2 ถ้วยตวง |
| ขนุนอ่อนต้มสุก |
1 ถ้วยตวง |
| หอมแดงซอย |
2 ช้อนโต๊ะ |
| ผักชีฝรั่งซอย |
2 ช้อนโต๊ะ |
| ต้นหอมซอย |
2 ช้อนโต๊ะ |
| ใบสะระแหน่เด็ดใบ |
1/4 ถ้วยตวง |
| ข้าวคั่ว |
1 ช้อนโต๊ะ |
| พริกป่น |
1 1/2 ช้อนโต๊ะ |
| น้ำปลา |
1/2 ช้อนโต๊ะ |
| น้ำปลาร้า |
2 ช้อนโต๊ะ |
ผักสด เช่น แตงกวา ถั่วฝักยาว มะเขือเปราะ
ข้าวเหนียวนึ่งสุก
วิธีทำ
1. โขลกขนุนอ่อนต้มพอแหลก ใส่เนื้อปลาทูโขลกต่อให้เข้ากัน
2. ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำปลา พริกป่น และข้าวคั่วโขลกให้เข้ากัน ใส่หอมแดง ผักชีฝรั่ง ต้นหอม และใบสะระแหน่คนให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะ เสิร์ฟพร้อมผักสดและข้าวเหนียว
หมายเหตุ
- เป็นอาหารประเภทยำคล้ายเครื่องจิ้มมีลักษณะค่อนข้างข้น รับประทานกับข้าวเหนียวและผักสด
แกงกะทิสับปะรดกับหมูเมืองนคร
| ส่วนผสม |
|
| เนื้อหมูหั่นชิ้น |
1 ถ้วยตวง |
| สับปะรดหั่นชิ้นพอคำ |
1 ถ้วยตวง |
| น้ำปลา |
2 ช้อนโต๊ะ |
| น้ำตาลปี๊บ |
2 ช้อนชา |
| กะทิ |
3 ถ้วยตวง |
| พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นแฉลบ |
2 เม็ด |
ส่วนผสมน้ำพริกแกง |
|
| พริกขี้หนูแห้ง |
10 เม็ด |
| ตะไคร้ซอย |
1 ช้อนโต๊ะ |
| ขมิ้นสด |
1/4 ช้อนชา |
| กระเทียมซอย |
1 ช้อนชา |
| พริกไทยป่น |
1/4 ช้อนชา |
| กะปิ |
2 ช้อนชา |
| เกลือป่นเล็กน้อย |
|
วิธีทำ
1. โขลกส่วนผสมน้ำพริกแกงให้ละเอียด
2. เคี่ยวกะทิพอแตกมัน ใส่น้ำพริกแกงลงผัดให้สุกหอม
3. ใส่เนื้อหมูและสับปะรดพอสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊บคนให้เข้ากันพอเดือด ใส่พริกชี้ฟ้า ยกลง
หมายเหตุ
- น้ำแกงมีลักษณะข้นปานกลาง สีเหลืองอมส้ม รสชาติ เค็ม เผ็ด และเปรี้ยวเล็กน้อย
แกงพุงปลา
| ส่วนผสม |
|
| ปลาช่อนย่างขนาดกลาง |
1 ตัว |
| พุงปลาดิบ |
2 ช้อนโต๊ะ |
| กะทิ |
2 1/2 ถ้วยตวง |
| น้ำตาลปี๊บ |
1 ช้อนโต๊ะ |
| น้ำปลา |
1 1/2 ช้อนชา |
| ใบมะกรูดฉีก |
2 ใบ |
| ฟักทองปอกเปลือกหั่นชิ้น |
200 กรัม |
| ถั่วฝักยาวตัดท่อนสั้น ๆ |
150 กรัม |
| มะเขือเปราะผ่าสี่ |
3 ลูก |
ส่วนผสมน้ำพริกแกง |
|
| พริกชี้ฟ้าแห้งผ่าเมล็ดออก |
2 เม็ด |
| พริกขี้หนูสด |
5 เม็ด |
| พริกไทย |
5 เม็ด |
| หอมแดงซอย |
1 ช้อนโต๊ะ |
| กระเทียมซอย |
2 ช้อนชา |
| ตะไคร้หั่นฝอย |
3 ช้อนโต๊ะ |
| ขมิ้นชันหั่นแว่น |
3 แว่น |
| กะปิ |
1 ช้อนชา |
ข่าหั่นฝอยเล็กน้อย
ผิวมะกรูดเล็กน้อย
วิธีทำ
1. โขลกส่วนผสมน้ำพริกแกงให้ละเอียด
2. แกะเนื้อปลาช่อนย่าง แบ่งโขลกรวมกับน้ำพริกแกงบ้างเพื่อให้น้ำแกงข้น
3. ต้มพุงปลากับกะทิให้เดือด ละลายน้ำพริกแกงลงในหม้อพุงปลา เคี่ยวจนหอมดี ใส่เนื้อปลาช่อนย่างและน้ำปลา ถ้าชอบหวานเติมน้ำตาลปี๊บตามต้องการ แล้วใส่ใบมะกรูดฉีก
4. ใส่ผักที่เตรียมไว้ ได้แก่ ฟักทอง มะเขือเปราะ ถั่วฝักยาว พอผักสุก ยกลง
หมายเหตุ
- ลักษณะของแกงชนิดนี้จะมีน้ำข้น รสชาติเค็ม มัน และเผ็ด รับประทานกับผักสดได้ทุกชนิด เช่น ยอดมะม่วงหิมพานต์ ยอดมะกอก ผักบุ้ง มะเขือ แตงกวา ถั่วฝักยาว สะตอ ลูกเหรียง