Smoothie เครื่องดื่มแก้วสวยจากผลไม้

แเสดงความคิดเห็น
ถูกใจ
แเสดงความคิดเห็น
ถูกใจ
58,791    91    -4    12 ต.ค. 2559 14:45 น.
แบ่งปัน
สมูทตี้ (Smoothie) เป็นเครื่องดื่มปั่นสีสวยที่มีให้ดื่มหลายรสชาติ การดื่มสมูทตี้เพียง 1 แก้วต่อวัน ก็สามารถทำให้ร่างกายของคุณเปี่ยมสุขได้ เนื่องจากมีสารอาหารครบถ้วน ทั้งวิตามิน เกลือแร่ แอนตี้ออกซิแดนท์ โปรตีน ไขมัน และสารอาหารอื่นๆ อีกมากมาย การทำให้สมูทตี้มีรสชาติชวนชิมขึ้นอยู่กับส่วนผสมที่ลงตัว เตรียมเครื่องให้พร้อมไม่ว่าจะเป็นผลไม้สด หรือผลไม้แช่แข็ง แนะนำว่าให้ใส่สัก 2 ชนิดขึ้นไป เพื่อเพิ่มรสให้กลมกลืน ส่วนของเหลวจำพวก นมสด นมถั่วเหลือง กาแฟ ชา หรือน้ำผลไม้ สามารถใส่ได้ตามความชอบ ของที่ขาดไม่ได้อีกอย่างหนึ่งคือสิ่งที่ช่วยทำให้สมูทตี้ข้นมากขึ้น อาทิ ไอศกรีม น้ำแข็ง ข้าวโอ๊ต หรือถั่วชนิดต่างๆ นอกจากช่วยเพิ่มความข้นแล้วยังมีคุณค่าทางอาหารด้วย การเพิ่มรสหวาน โดยส่วนใหญ่จะใช้เป็นน้ำเชื่อม น้ำผึ้ง หรือไซรัปกลิ่นต่างๆ แต่ถ้าอยากให้เก๋หน่อยอาจใช้เป็นผลไม้อบแห้งรสหวานจำพวก อินทผลัม มะเดื่อ พุทราอบแห้ง หรือลูกพลับอบแห้งก็ได้ แต่สำหรับใครที่ยังไม่จุใจทางแม่บ้านก็ยังมีสูตรเครื่องดื่มสมูทตี้อีกมากมาย อย่างเมนู Rainbow Smoothies, สมูทตี้ผักชีกับแตงโมเหลือง อีกด้วย

Strawberry Cheesecake Smoothies
 
ส่วนผสม  
นมสด 1 ถ้วยตวง
Cottage Cheese 1/4 ถ้วยตวง
สตรอว์เบอร์รีแช่แข็ง 1 1/2 ถ้วยตวง
กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
น้ำผึ้ง      1 ช้อนโต๊ะ
สตรอว์เบอร์รีสด สำหรับตกแต่ง  

วิธีทำ
นำส่วนผสมทุกอย่างปั่นให้เข้ากันจนละเอียด รินใส่แก้ว ตกแต่งด้วยสตรอว์เบอร์รีสด

Cantalope and Mint Smoothies
  
ส่วนผสม  
แคนตาลูปหั่นเป็นชิ้น 1 ถ้วยตวง
กล้วยหอมปอกเปลือก 1 ลูก
ส้มปอกเปลือก      3 ช้อนโต๊ะ
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1/2 ถ้วยตวง
ใบสะระแหน่ 1/2 ถ้วยตวง
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
ใบสะระแหน่สำหรับตกแต่ง  

วิธีทำ
นำส่วนผสมทุกอย่างปั่นให้เข้ากันจนละเอียด รินใส่แก้ว โรยด้านบนด้วยผงชาเขียว
 
Green Tea & Oat Smoothie
ส่วนผสม  
กล้วยหอมปอกเปลือก 1 ลูก
ส้มปอกเปลือก      1 ลูก
องุ่นเขียวแกะเมล็ดออก       1/2 ถ้วยตวง
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1/2 ถ้วยตวง
น้ำเย็น    1/4 ถ้วยตวง
ข้าวโอ๊ต  1 ช้อนโต๊ะ
ผงชาเขียวสำหรับโรย 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ
นำส่วนผสมทุกอย่างปั่นให้เข้ากันจนละเอียด รินใส่แก้ว โรยด้านบนด้วยผงชาเขียว

Papaya Smoothie
ส่วนผสม  
เนื้อมะละกอสุกแช่แข็ง 300 กรัม
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 120 กรัม
นมสด 1/4 ถ้วยตวง
น้ำผึ้ง      2 ช้อนโต๊ะ
งาดำคั่วสำหรับตกแต่ง  

วิธีทำ
นำส่วนผสมทุกอย่าง (ยกเว้นงาดำ) ปั่นให้เข้ากันจนละเอียด รินใส่แก้ว โรยด้านบนด้วยงาดำคั่ว           

Peanut Butter Oatmeal Smoothie
ส่วนผสม  
นมถั่วเหลือง  1 ถ้วยตวง
เนยถั่ว (พีนัทบัตเตอร์)  1/4 ถ้วยตวง
กล้วยหอมสุก ปอกเปลือก 2 ลูก
ข้าวโอ๊ต  1/4 ถ้วยตวง
ข้าวโอ๊ตสำหรับตกแต่ง  

วิธีทํา
นําส่วนผสมทุกอย่างใส‹ลงในเครื่องปั่นนํ้าผลไม้Œ ปั่นให้เข้Œากันจนละเอียด รินใส‹แก้ว ตกแต่งด้วยข้Œาวโอ๊ต

Key Lime Pie Milkshakes
ส่วนผสม  
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1/2 ถ้วยตวง
นมสด     1 ถ้วยตวง
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเชื่อม 3 ช้อนโต๊ะ
ขนมปังกรอบบดหยาบสำหรับโรย       
วิปปิ้งครีมและชิ้นมะนาวสำหรับตกแต่ง  

วิธีทำ
1. ผสมโยเกิร์ต นมสด น้ำเชื่อม และน้ำมะนาวให้เข้ากัน รินใส่แก้ว
2. ตกแต่งด้านบนด้วยวิปปิ้งครีม โรยด้วยขนมปังกรอบ แล้วตกแต่งด้วยมะนาว

 
บทความแนะนำอื่นๆ
สูตรอาหารน่าสนใจ
แสดงความคิดเห็น

* จำเป็นต้องกรอก

คะแนนสำหรับบทความนี้ *
รายละเอียด *
ยังไม่มีรีวิว
บทความใกล้เคียงดูบทความทั้งหมด  

3 เมนูง่ายๆ จากถั่วลิสง

พูดถึงถั่วที่สามารถรับประทานได้ง่ายๆ หลายคนคงนึกถึงถั่วลิสงต้มที่มีขายทั่วไปตามท้องตลาด ถั่วชนิดนี้เป็นที่นิยมรับประทานกันมาก ไม่ว่าจะนำมาต้ม ใช้เป็นกับแกล้ม หรือเป็นส่วนผสมของเมนูอร่อยๆ ในถั่วลิสงนั้นมีสรรพคุณที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก อาทิ ช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงสมองและประสาทตา เสริมสร้างความจำ และยังมีโคลีนที่ช่วยควบคุมความจำอีกด้วย แนะนำให้รับประทานเพียงวันละ 30 กรัม หรือ 1 กำมือเท่านั้น ถ้าจะให้ดีควรเลือกรับประทานแบบดิบหรือต้ม เพราะหากรับประทานถั่วคั่ว ถั่วทอด หรือถั่วอบ จะทำให้ไขมันไม่อิ่มตัวที่มีในถั่วลิสงหายไปได้

5 เมนูเสริมธาตุเหล็ก เพิ่มความกระปรี้กระเปร่าให้วันนั้นของเดือน

ผู้หญิงเราพอเริ่มมีวันนั้นของเดือนมักมีอาการวูบอยู่บ่อย ๆ สาเหตุหลักนอกจากการพักผ่อนไม่เพียงพอแล้ว ยังขึ้นอยู่กับการขาดธาตุเหล็กด้วยเช่นกัน เชื่อหรือเปล่าว่าภาวะขาดธาตุเหล็กสามารถเกิดขึ้นได้มากพอ ๆ กับโรคฮิตประเภทอื่น ไม่ใช่แค่ผู้หญิงเราเท่านั้น แต่รวมถึงคนที่ไม่กินเนื้อสัตว์ด้วยเช่นกัน ดังนั้นเราควรต้องเติมธาตุเหล็กให้เพียงพอต่อความต้องการร่างกาย โดยผู้หญิงในวัย 15-50 ปี ควรได้รับธาตุเหล็กประมาณ 15 มิลลิกรัมต่อวัน แต่หากมีอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรรับธาตุเหล็กให้ได้วันละ 10 มิลลิกรัมก็เพียงพอแล้ว