กระเฉดชะลูดน้ำ... กับเมนูสุดบันเทิง

แเสดงความคิดเห็น
ถูกใจ
แเสดงความคิดเห็น
ถูกใจ
7,094    6    -4    15 ต.ค. 2562 15:00 น.
แบ่งปัน
       เมื่อวันก่อนมีปาร์ตี้กันเล็กน้อยที่บ้าน น้องที่สนิทกันขึ้นมาจากภาคใต้ เลยหอบหิ้วนำสะตอมาฝากมากมาย เรียกว่ารับประทานกันเป็นสัปดาห์ก็ไม่หมด งานนี้เลยต้องแกะเมล็ดออกแล้วนำไปดองกับน้ำเกลือไว้ก่อน ส่วนที่เหลือนำมาผัดกับวุ้นเส้น แถมด้วยการใส่กระเทียมโทนดอง และกระเฉดลงไปด้วย น้องสาวเรียกเมนูนี้ว่า “ผัดสามเหม็น” เรียกว่านอกจากกลิ่นจะกระจายไปไกล 3 บ้าน 8 บ้านแล้ว หลังจากรับประทานกันเสร็จนี่แทบไม่อยากพูดกันเลยค่ะ เพราะกลิ่นปากเหม็นไป 3 วันเลยทีเดียว

อันที่จริงครั้งนี้อยากพูดถึงผักชนิดหนึ่งที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี “กระเฉด” เป็นผักที่ปลูกในน้ำ เวลาจะรับประทานต้องรูดนม (ฟองน้ำสีขาว) ออกให้หมด จากนั้นจึงนำมาเด็ดเป็นท่อนเล็ก ๆ ก่อนนำไปปรุงอาหารต่อไป แต่วันก่อนได้เปิดดู YouTube ถึงเรื่องผักกระเฉดอีกชนิดหนึ่งที่น่ารับประทานมาก เรียกว่า “กระเฉดชะลูดน้ำ” ต้นยาวเรียวสวย แถมไม่มีนมสีขาวอีกด้วย ทำให้เวลานำมารับประทานสะดวกยิ่งขึ้นกว่าเดิม
 
 

งานนี้ไม่รอช้ารีบบึ่งรถไปหาแหล่งปลูกกระเฉดชะลูดน้ำกันถึงถิ่น ณ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งก็คือสวนของ ป้าสมนึก พรมมี หรือ “ป้านึก” หนึ่งในเกษตรกรในพื้นที่ซึ่งทำนาควบคู่กับการปลูกพืชผักสวนครัว ก่อนจะหันมาปลูก “ผักกระเฉด” ขายเพียงอย่างเดียว เพราะได้ราคาดีกว่า และผักกระเฉดของที่นี่ถือได้ว่าเป็นของดีของเด่นที่ไม่ธรรมดา เรียกว่าเป็น “กระเฉดชะลูดน้ำ” ที่หารับประทานได้เฉพาะที่นี่เพียงแห่งเดียว ซึ่งความไม่ธรรมดานั้น ได้รับแรงบันดาลใจที่สรรค์สร้างขึ้นจากกระแสน้ำอันเชี่ยวกราดของแควหนุมานในช่วงฤดูฝนนั่นเอง

ป้าสมนึกเล่าว่า ทุก ๆ ปี ในหน้าน้ำหรือฤดูฝน ปริมาณของแม่น้ำสายน้อยแห่งนี้จะเอ่อล้นจนท่วมเรือกสวนไร่นาบริเวณรอบ ๆ จนหมด ช่วงเวลาดังกล่าวกิจกรรมทางการเกษตรเกือบทั้งหมดจะหยุดชะงักลง อาหารการกินหาได้ยาก แต่มีผักพื้นบ้านอยู่ชนิดหนึ่งที่กระแสน้ำจากแควหนุมาน ช่วยเปลี่ยนให้มีรสชาติหวาน กรอบและนุ่มกำลังพอดี ๆ  เกิดเป็นลักษณะเฉพาะของผักชนิดนี้ที่หากินได้เฉพาะในถิ่นตำบลเมืองเก่าแห่งนี้

“เดิมผู้คนแถบนี้ปลูกผักกระเฉดกันเป็นอาชีพกันมานานแล้ว แต่ทุก ๆ ปีพอน้ำท่วม จะได้กินผักกระเฉดที่อร่อยกว่าช่วงอื่น ๆ ของปี เพราะผักกระเฉดที่ถูกน้ำท่วม ส่วนนมหรือฟองน้ำสีขาวที่ช่วยพยุงต้นจะหลุดออก ทำให้ต้นชะลูดน้ำ ตั้งตรงและยาวขึ้น รสชาติก็จะเปลี่ยนไปเป็นหวานและกรอบนุ่มขึ้น ไม่เหมือนผักกระเฉดที่หากินได้ทั่วไป”
 

หลังน้ำลด ท้องนาเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ เสียงของความต้องการผักกระเฉดชะลูดน้ำที่ได้กินกันเฉพาะช่วงน้ำท่วมก็ดังขึ้นทุก ๆ ปี  ในหมู่ชาวบ้านเองจึงเริ่มทดลองเลียนแบบธรรมชาตินำยอดผักกระเฉดไปกดน้ำหรือเลี้ยงต่อในน้ำเหมือนเวลาที่น้ำท่วมขัง ในครั้งแรก ๆ ยังไม่ประสบความสำเร็จ เพราะขาดความเข้าใจธรรมชาติของน้ำที่มีการเคลื่อนหรือไหลอยู่ตลอด ต่างกับสระที่ขุดขึ้น ซึ่งน้ำจะนิ่งไม่เกิดการหมุนเวียน เมื่อนำผักกระเฉดไปแช่ในบ่อที่น้ำไม่มีการหมุนเวียน ก็ปรากฏว่าแทนที่จะได้กินของอร่อย ๆ กลับได้เป็นยอดกระเฉดเน่ากลับมาแทน

“ลักษณะของน้ำหรือสระที่จะทำผักกระเฉดชะลูดน้ำได้ น้ำต้องมีการซึมออกหรือเข้าคล้ายน้ำในบ่อบาดาล ในบ่อนั้นมีการไหลและหมุนเวียนของน้ำอยู่ตลอดเวลา ผักจึงจะไม่เน่า แต่การหาบ่อน้ำลักษณะนี้ค่อนข้างยาก สมัยก่อนปลูกอยู่ที่หนึ่ง จะไปแช่น้ำให้ต้นชะลูดก็ต้องไปอีกที่ซึ่งอยู่ไกลออกไปมาก แต่ตอนนี้มีสระธรรมชาติที่เกิดจากเจ้าของที่ขุดดินไปขายอยู่ไม่ไกลนัก ใช้เป็นสระทำผักกระเฉดชะลูดน้ำมากว่า 20 ปีแล้ว”
 

การทำผักกระเฉดชะลูดน้ำ ต้องเริ่มต้นด้วยการปลูกผักกระเฉดให้ได้เสียก่อน จากนั้นจึงนำผักกระเฉดที่ได้ไปแช่หรือกดน้ำ ใช้เวลาประมาณ 3 วัน สำหรับผักกระเฉดยอดเล็ก และประมาณ 5 วัน หากเป็นผักกระเฉดยอดใหญ่ บริเวณที่นำหลักผักกระเฉดไปแช่น้ำนั้น มักเลือกบริเวณริมสระน้ำที่มีการหมุนเวียนน้ำได้ดี เพื่อให้สะดวกทั้งการปักหลักและการเก็บ นอกจากนี้ยังต้องมีการขึงตาข่ายโดยรอบแนวที่นำหลักไปปักเพื่อป้องกันสัตว์น้ำ เช่น ปลากินพืชที่จะเข้ามากัดกินยอดผักกระเฉดได้

การปลูกกระเฉดชะลูดน้ำนับเป็นภูมิปัญญาของคนพื้นบ้านอย่างแท้จริง ซึ่งป้านึกยังบอกด้วยว่าเคยมีคนนำไปปลูกที่อื่นแต่ก็ไม่สามารถทำได้แบบนี้ อาจเป็นเพราะแหล่งน้ำที่ปลูกไม่สะอาดพอ ดังนั้นเราจึงสามารถหากระเฉดชะลูดน้ำรับประทานแค่ที่ ตำบลเมืองเก่า อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ส่วนรสชาติและความกรอบอร่อยบอกเลยว่ายอดเยี่ยมกว่ากระเฉดธรรมดา เนื่องจากมีรสอ่อนกว่า อีกทั้งสามารถรับประทานได้ทั้งต้น และนำมาทำอาหารได้หลากหลายชนิด ซึ่งแน่นอนว่าครั้งนี้จะต้องมีเมนูสุดบันเทิงที่เรียกว่า “ผัดสามเหม็น” ให้ได้ลองชิมกัน
 
ที่ตั้ง : 6/1 หมู่ 15 ตำบลเมืองเก่า อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี 25110
โทร. 08-9036-6228
 

วุ้นเส้นผัดสามเหม็น
 

ส่วนผสม
หมูสับ 50 กรัม
กุ้งสดปอกเปลือกผ่าหลังดึงเส้นดำออก 5 ตัว
วุ้นเส้นแช่น้ำพอนุ่ม 100 กรัม
สะตอแกะเม็ดหั่นครึ่ง 10 เม็ด
ผักกระเฉดชะลูดน้ำหั่นท่อน 50 กรัม
กระเทียมดอง 10 กลีบ
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
พริกสดสีแดงสับ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสเห็ดหอม 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1 1/2 ช้อนชา
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
 
วิธีทำ
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่พริกสดและกระเทียมลงผัดพอหอม ใส่หมูสับและกุ้งสดลงผัดพอสุก
2. ใส่กระเทียมดองและสะตอลงผัด ปรุงรสด้วยซอสเห็ดหอม ซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว พริกไทยป่น และน้ำตาลทราย
3. เติมน้ำเปล่า พอเดือดใส่วุ้นเส้น ผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน ใส่ผักกระเฉดชะลูดน้ำ เร่งไฟแรง ๆ ผัดแค่พอผักสลด ตักใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟ
 

ยำสามทัพ
 

ส่วนผสม
หอยนางรมสด 10 ตัว
ปลาหมึกหั่นชิ้นลวกสุก 1 ตัว
กุ้งสดปอกเปลือกผ่าหลังดึงเส้นดำออกลวกสุก 5 ตัว
ผักกระเฉดชะลูดน้ำหั่นท่อนสั้น ๆ 50 กรัม
หอมแดงเจียว 1/4 ถ้วยตวง
กระเทียม 10 กลีบ
พริกขี้หนู 15 เม็ด
น้ำปลา 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
 
วิธีทำ
1. โขลกกระเทียมและพริกขี้หนูให้ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย และน้ำมะนาว ชิมรสตามชอบ
2.ใส่หอยนางรม ปลาหมึก และกุ้ง ลงในชามผสม เทน้ำยำในข้อที่ 1 ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน
3. จัดผักกระเฉดชะลูดน้ำใส่จาน ตักส่วนผสมข้อที่ 2 ราดลงไป โรยหอมแดงเจียว

หมายเหตุ : สำหรับผู้ไม่รับประทานผักกระเฉดสด ๆ สามารถลวกให้สุกก่อนได้
 

แกงส้มกระเฉดไข่กุ้งสด
 

ส่วนผสม
กุ้งสดปอกเปลือกผ่าหลังดึงเส้นดำออก 6 ตัว
ผักกระเฉดชะลูดน้ำหั่นท่อนสั้น ๆ 50 กรัม
ผักกระเฉดชะลูดน้ำหั่นท่อนยาวประมาณ 3 นิ้ว 100 กรัม
ไข่ไก่ 3 ฟอง
น้ำพริกแกงส้ม 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 6 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา (1) 1/2 ช้อนชา
น้ำปลา (2) 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ
1. ตอกไข่ไก่ใส่ภาชนะ ตีพอแตก ใส่ผักกระเฉดชะลูดน้ำหั่นท่อนสั้น ปรุงรสด้วย น้ำปลา (1) ตีพอเข้ากัน
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่ส่วนผสมข้อที่ 1 ลงทอดพอสุกเหลืองทั้ง 2 ด้าน ตักขึ้นหั่นเป็นชิ้นเตรียมไว้
3. ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำพริกแกงส้ม คนพอเข้ากัน พอเดือดใส่กุ้งสด ปรุงรสด้วยน้ำปลา (2) น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก คนพอเข้ากัน
4.ใส่ผักกระเฉดชะลูดน้ำหั่นท่อนยาวลงต้มพอสุก ใส่ส่วนผสมข้อที่ 2 พอเดือด ตักใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟ



เรื่อง / TONGTA
ภาพ / TONGTA, ชุลีภรณ์
 
บทความแนะนำอื่นๆ
สูตรอาหารน่าสนใจ
แสดงความคิดเห็น

* จำเป็นต้องกรอก

คะแนนสำหรับบทความนี้ *
รายละเอียด *
ยังไม่มีรีวิว
บทความใกล้เคียงดูบทความทั้งหมด