เมนูพื้นบ้านต้านโควิด-19 กลุ่มที่มีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระสูง

แเสดงความคิดเห็น
ถูกใจ
แเสดงความคิดเห็น
ถูกใจ
4,901    7    -4    29 มี.ค. 2563 19:30 น.
แบ่งปัน
        สถานการณ์ โควิด-19 ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงวิกฤตสุด ๆ นอกจากต้องระวังรักษาตัวเองแล้ว ยังต้องเยียวยาจิตใจกันเป็นการใหญ่ หลายคนเกิดอาการแพนิคเพราะไม่รู้ว่าตัวเองติดไวรัสหรือยัง จะให้ไปตรวจแต่ละครั้งก็ใช้เงินเยอะเหลือเกิน แม่บ้านอย่างเราจึงอยากเป็นกำลังใจให้ทุกคน สู้ ๆ กันต่อไป เราคงช่วยอะไรไม่ได้มากนอกจากหาเมนูอร่อย ๆ มาให้แฟนเพจได้นำไปลองทำดู ซึ่งคราวนี้เป็น 30 เมนูพื้นบ้านต้านโควิด-19 ที่จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันได้ตามที่สมาคมแพทย์แผนไทยได้แนะนำมา

โดยนพ.มรุต จิรเศรษฐศิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก แนะนำผักผลไม้สมุนไพร 3 กลุ่ม เพื่อเสริมภูมิต้านทานของร่างกายช่วยป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้แก่ กลุ่มเสริมภูมิคุ้มกัน, กลุ่มที่มีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระสูง และกลุ่มที่มีสารสำคัญที่มีศักยภาพในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19

นอกจากอาหารจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันแล้ว เรายังสามารถป้องกันได้ง่าย ๆ โดยเริ่มจากตัวเองก่อน เช่น การล้างมืออย่างสม่ำเสมอด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอลล์ ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่เป็นหวัด มีอาการไอ จาม กินร้อนช้อนตัวเอง งดเดินทางไปประเทศเสี่ยง และรักษาระยะห่างจากคนอื่น ๆ งดการพบปะสังสรรค์และร่วมกิจกรรม หรือเดินทางไปในที่ที่มีคนเยอะ จะช่วยลดการแพร่ระบาด และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้

กลุ่มที่มีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระสูง
เน้นผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ดอกขี้เหล็ก ยอดมะยม ใบเหลียง ยอดสะเดา มะระขี้นก ฟักข้าว ผักเชียงดา คะน้า มะรุม ผักแพว มะขามป้อม หรือมีสารกลุ่มแอนโทไซยานินซึ่งเป็นสารฟลาโวนอยด์ ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น ลูกหม่อน และผักผลไม้หลากสี ยังช่วยเสริมการทำงานของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันด้วย


ยำยอดคะน้าอ่อน
 
 
ส่วนผสม  
กุ้งสดปอกเปลือกผ่าหลังดึงเส้นดำออก 100 กรัม
คะน้าฮ่องกง 150 กรัม
กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
พริกสดสีแดงสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา   1 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงเจียวสำหรับโรย  
กระเทียมเจียวสำหรับโรย  

วิธีทำ
1. ปอกก้านคะน้าฮ่องกงส่วนที่แข็งออกล้างให้สะอาด นำลงลวกในน้ำเดือด ตักขึ้นพักไว้ จากนั้นนำกุ้งลงลวกต่อจนสุกตักขึ้น จัดกุ้งลวกและคะน้าฮ่องกงใส่จาน เตรียมไว้
2. ผสมน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน ใส่กระเทียม และพริกสดคนพอเข้ากัน ตักราดลงบนส่วนผสมในข้อที่ 1 โรยหอมแดงเจียวและกระเทียมเจียว จัดเสิร์ฟ

ยำสะเดากุ้งทอด
 
 
ส่วนผสม  
กุ้งสดตัดหัวผ่าหลัง               5 ตัว
สะเดาเด็ดยอดลวกสุก 100 กรัม
หอมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา   1/4 ถ้วยตวง
น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วยตวง
น้ำมะขามเปียก 3/4 ถ้วยตวง
พริกขี้หนูหั่นแว่น 1 ช้อนชา
น้ำมันพืชสำหรับทอด
แป้งทอดกรอบสำเร็จรูปสำหรับคลุก
 

วิธีทำ
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน นำกุ้งคลุกแป้งทอดกรอบ เคาะแป้งส่วนเกินออก นำลงทอดจนสุกเหลือง ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน เตรียมไว้
2. ใส่น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียกลงในหม้อยกขึ้นตั้งไฟอ่อน เคี่ยวจนมีลักษณะข้นเล็กน้อย
3. ใส่สะเดาและกุ้งทอดลงในอ่างผสม ราดน้ำยำในข้อที่ 2 คลุกเคล้าให้เข้ากันเบา ๆ ตักใส่ภาชนะ โรยหอมเจียว พริกขี้หนู จัดเสิร์ฟ

แกงส้มใบเหลียงใส่ปลาทับทิมทอด
 
 
ส่วนผสม  
ปลาทับทิมหั่นชิ้น 650 กรัม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
ใบเหลียงหั่นหยาบ 50 กรัม
น้ำพริกแกงส้ม 1/4 ถ้วยตวง
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา   3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียกคั้นข้น ๆ 1/4 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง
น้ำมันพืช  

วิธีทำ
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่ปลาทับทิมลงทอดจนสุกเหลือง ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
2. ตอกไข่ไก่ใส่ภาชนะ ตีพอแตก ใส่ใบเหลียงลงไปคนให้เข้ากัน พักไว้
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะพอร้อน ใส่ส่วนผสมข้อที่ 2 ลงทอดจนสุกเหลือง ตักขึ้นหั่นเป็นชิ้นพักไว้
4. ต้มน้ำเปล่าพอร้อน ใส่น้ำพริกแกงส้ม คนให้ละลายพอเดือด ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา และน้ำมะขามเปียก
5. จัดปลาทับทิมทอดและไข่ที่ทอดไว้ใส่ภาชนะตักน้ำแกงส้มราด จัดเสิร์ฟ

แกงขี้เหล็กเนื้อย่าง
 
 
ส่วนผสม  
เนื้อสันนอกวัว       250 กรัม
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนชา
น้ำพริกแกงคั่ว 60 กรัม
เนื้อปลาอินทรีเค็มปิ้ง 20 กรัม
หัวกะทิ   1 ถ้วยตวง
หางกะทิ 3 ถ้วยตวง
ขี้เหล็กต้มบีบน้ำออก 1 ถ้วยตวง
น้ำปลา 2 ช้อนชา
น้ำตาลปี๊บ 1 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ
1. ผสมน้ำตาลทราย เกลือป่น และซีอิ๊วขาวให้เข้ากัน ใส่เนื้อวัวลงคลุกเคล้าหมักไว้ประมาณ 10 นาทีย่างด้วยไฟอ่อนพอสุกพักไว้พออุ่นหั่นเป็นชิ้นเตรียมไว้
2. โขลกน้ำพริกแกงคั่วกับปลาอินทรีเค็มปิ้งให้เข้ากัน จากนั้นนำลงผัดกับหัวกะทิให้แตกมัน
3. เติมหางกะทิ ตามด้วยขี้เหล็กเคี่ยวสักครู่ ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บคนให้เข้ากัน ใส่เนื้อย่างชิมรส ยกลงตักใส่ถ้วยจัดเสิร์ฟ

แกงเหลืองฟักข้าว
 
ส่วนผสม
ปลาตาเดียว (หั่นเป็นชิ้นๆ) 250 กรัม
ฟักข้าวอ่อน 3-4 ลูก
ส้มแขก 3-4 ชิ้น
เกลือป่น 1 ช้อนชา
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
เครื่องพริกแกง  
น้ำเปล่า  

วิธีทำ
1.ปอกเปลือกฟักข้าวออกให้เหลือเนื้อสีขาวด้านใน นำมาล้างจนสะอาด หั่นเป็นชิ้นพอคำแล้วแช่ในน้ำเกลือประมาณ 5 นาที พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2.ตั้งน้ำเปล่าจนเดือดใส่เครื่องพริกแกงลงไป ตามด้วยส้มแขก ปลาตาเดียว รอให้เดือดอีกครั้งแล้วจึงใส่ฟักข้าวลงไป ปรุงรสด้วยเกลือป่น น้ำปลา และนำตาลปี๊บ ให้ได้รสเผ็ด เปรี้ยว เค็ม รอให้เดือดอีกครั้งจึงปิดไฟ

ส่วนผสมเครื่องแกง
พริกแห้งแช่น้ำให้นิ่ม 15 เม็ด
พริกขี้หนูสด 20 เม็ด
กระเทียม 10 กลีบ
ขมิ้นยาวขนาด 1 ½ นิ้ว
หอมแดง 3 หัว
ข่าสับ 2 ช้อนโต๊ะ
กะปิ 2 ช้อนชา
เกลือป่น ½ ช้อนชา

วิธีทำ
โขลกพริกแห้งกับเกลือป่นให้ละเอียด ใส่พริกขี้หนูสดลงไปโขลกรวมกัน ตามด้วยข่า ขมิ้น โขลกให้ละเอียดแล้วจึงใส่กระเทียม และหอมแดงตามลำดับ เมื่อเห็นว่าละเอียดดีแล้วจึงใส่กะปิลงไปโขลกต่อจนทั้งหมดเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ถ้าให้ดีควรนำกะปิไปผ่านการทำให้สุก อาจจะนำเข้าไมโครเวฟ หรือปิ้งให้สุกก็ได้

แกงเผ็ดมะระขี้นกเนื้อย่าง
 
ส่วนผสม
เนื้อสันนอก 250 กรัม
มะระขี้นกควักไส้ออกหั่นชิ้น 200 กรัม
น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ
หัวกะทิ 1/2 ถ้วยตวง
หางกะทิ 1 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลปี๊บ 2 1/2 ช้อนชา
น้ำปลา 2 ช้อนชา
ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
ใบโหระพา 1/4 ถ้วยตวง
พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นแฉลบ 1/2 เม็ด
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่นหยาบสำหรับโรยเล็กน้อย  

วิธีทำ
1. โรยเกลือป่นบนเนื้อทั้งสองด้านพอทั่ว นำขึ้นย่างบนเตาไฟพอสุก ตักขึ้นหั่นเป็นชิ้น พักไว้
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงผัดพอหอม ใส่หัวกะทิลงผัดพอแตกมัน
3. ใส่เนื้อย่างหั่นชิ้นผัดพอเข้ากัน ใส่หางกะทิพอเดือด ใส่มะระขี้นกลงเคี่ยวพอสุก ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา คนพอเข้ากัน ใส่ใบมะกรูด ใบโหระพา พริกชี้ฟ้า คนให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟ 

กุ้งผัดน้ำพริกแกงใส่มะระขี้นก
 
 
ส่วนผสม  
มะระขี้นกผ่าครึ่งเอาไส้ออก 150 กรัม
กุ้งสดปอกเปลือกผ่าหลังดึงเส้นดำออก             100 กรัม
น้ำพริกแกงเผ็ด 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา   1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า  1/4 ถ้วยตวง
น้ำมันพืช                2 ช้อนโต๊ะ
ใบมะกรูดซอย 1 ช้อนโต๊ะ
พริกชี้ฟ้าสีแดง สีเหลืองหั่นแฉลบอย่างละ 1/2 เม็ด
น้ำเปล่า  

วิธีทำ
1. ต้มน้ำเปล่าพอเดือด ใส่มะระขี้นก ลงลวกพอสุก ตักขึ้น
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงผัดจนสุกหอม ใส่กุ้งลงผัดพอสุก เติมน้ำเปล่าผัดพอเข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ
3. ใส่มะระขี้นก พริกชี้ฟ้า ผัดให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะ โรยใบมะกรูด จัดเสิร์ฟ

มะรุมต้มไก่บ้าน
 

ส่วนผสม
ไก่บ้านสับเป็นชิ้น             500 กรัม
มะรุม (ใช้ช้อนขูดเอาแต่เนื้อและเม็ด)     200 กรัม
มะเขือเทศสีดา             5 ลูก
น้ำเปล่า                 4 ถ้วยตวง
น้ำปลา                 2 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสีแดงบุบพอแตก         7 เม็ด

วิธีทำ
1.ใส่น้ำเปล่าและไก่บ้านลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำปลา พอเดือดช้อนฟองออกให้หมด เบาไฟ เคี่ยวจนไก่สุก
2.ใส่มะรุม มะเขือเทศ พอสุก ใส่พริกขี้หนู ยกลง ตักใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟร้อน ๆ

** หญิงตั้งครรภ์ห้ามรับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไป **

น้ำพริกมะขามป้อม
 
ส่วนผสม
เนื้อมะขามป้อม 1/2 ถ้วยตวง
หอมแดงซอย 1 หัว
กระเทียมไทย 4-5 กลีบ
กะปิห่อใบตองเผาให้หอม 1 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสวนสีเขียวและสีแดง 10 เม็ด
น้ำตาลปี๊บ 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
ปลาสลิดกรอบ   
ไข่เค็ม  
ผักสดตามชอบ เช่น แตงกวา ถั่วพู แครอท ขมิ้นสด  

วิธีทำ
1. โขลกเนื้อมะขามป้อมพอละเอียด ตักขึ้นพักไว้
2. โขลกหอมแดง กระเทียม และกะปิพอละเอียด ใส่เนื้อมะขามป้องลงไป
3. ใส่พริกขี้หนูลงไปโขลกพอแตก ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำปลา โขลกส่วนผสมพอเข้ากันอีกครั้ง ตักใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟพร้อมปลาสลิด ไข่เค็ม และผักสดตามชอบ

หมายเหตุ : สามารถเพิ่มกุ้งแห้งป่นในน้ำพริกได้ตามชอบ

แกงคั่วมะรุมปลาย่าง
 
ส่วนผสม
ปลาดุกย่างแกะเนื้อ 100 กรัม
มะรุมใช้ช้อนขูดเอาแต่เนื้อและเมล็ด 100 กรัม
น้ำพริกแกงคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
หัวกะทิ ½ ถ้วยตวง
หางกะทิ 1 ½ ถ้วยตวง
น้ำตาลปี๊บ 1 ½ ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ½ ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 2 ½ ช้อนโต๊ะ
ใบมะกรูดฉีก 2 ใบ
พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นแฉลบ ½ เม็ด
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่น้ำพริกแกงคั่วลงผัดพอร้อน ใส่หัวกะทิลงผัดพอแตกมัน
2. ใส่หางกะทิคนพอเข้ากัน ใส่มะรุมพอสุก ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะขามเปียก
3. ใส่เนื้อปลาดุก ใบมะกรูด พริกชี้ฟ้า คนให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟ
 
บทความแนะนำอื่นๆ
สูตรอาหารน่าสนใจ
แสดงความคิดเห็น

* จำเป็นต้องกรอก

คะแนนสำหรับบทความนี้ *
รายละเอียด *
ยังไม่มีรีวิว
บทความใกล้เคียงดูบทความทั้งหมด  

5 เมนูเสริมธาตุเหล็ก เพิ่มความกระปรี้กระเปร่าให้วันนั้นของเดือน

ผู้หญิงเราพอเริ่มมีวันนั้นของเดือนมักมีอาการวูบอยู่บ่อย ๆ สาเหตุหลักนอกจากการพักผ่อนไม่เพียงพอแล้ว ยังขึ้นอยู่กับการขาดธาตุเหล็กด้วยเช่นกัน เชื่อหรือเปล่าว่าภาวะขาดธาตุเหล็กสามารถเกิดขึ้นได้มากพอ ๆ กับโรคฮิตประเภทอื่น ไม่ใช่แค่ผู้หญิงเราเท่านั้น แต่รวมถึงคนที่ไม่กินเนื้อสัตว์ด้วยเช่นกัน ดังนั้นเราควรต้องเติมธาตุเหล็กให้เพียงพอต่อความต้องการร่างกาย โดยผู้หญิงในวัย 15-50 ปี ควรได้รับธาตุเหล็กประมาณ 15 มิลลิกรัมต่อวัน แต่หากมีอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรรับธาตุเหล็กให้ได้วันละ 10 มิลลิกรัมก็เพียงพอแล้ว