ส่วนผสม
ข้าวสาร	1/4 ถ้วยตวง
โคนปีกไก่หั่นชิ้น	150 กรัม
ฟักทองหั่นชิ้น	100 กรัม
บวบหอมหั่นแว่น	150 กรัม
ข้าวโพดอ่อนหั่นชิ้น	50 กรัม
หน่อไม้สับ	100 กรัม
เห็ดฟาง	50 กรัม
ตำลึง	30 กรัม
ใบแมงลัก	1/2 ถ้วยตวง
ยอดฟักทอง	50 กรัม
หอมแดงซอย	5 หัว
กระเทียมซอย	3 กลีบ
ข่าซอย	3 แว่น
ตะไคร้ซอย	2 ต้น
พริกชี้ฟ้าแห้งนำเมล็ดออกแช่น้ำพอนิ่ม	5 เม็ด
พริกขี้หนูแห้งแช่น้ำพอนิ่ม	3 เม็ด
เกลือป่นหยาบ	1/2 ช้อนชา
น้ำปลาน้ำปลาร้า	2 ช้อนชา
หางกะทิ	3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช	1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. โขลกพริกชี้ฟ้า พริกขี้หนู หอมแดง กระเทียม ข่า ตะไคร้และเกลือป่นให้ละเอียด พักไว้
2. ต้มข้าวสารกับหางกะทิด้วยไฟกลาง พอข้าวเริ่มบานเล็กน้อย
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่ส่วนผสมข้อที่ 1 ลงผัดพอหอม ใส่โคนปีกไก่ ผัดพอสุก เทใส่ลงในหม้อที่ต้มข้าวไว้
4. ใส่ฟักทอง บวบหอม ข้าวโพดอ่อน หน่อไม้ คนพอเข้ากันปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำปลาร้า คนให้เข้ากัน
5. ใส่เห็ดฟาง ยอดฟักทอง ตำลึง ใบแมงลัก คนให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟ
 
หมายเหตุ
1. บางท้องที่ชนบท ไม่ใส่กะทิก็ได้ (แต่ในเมืองใส่กะทิ)
2.พืชผักที่ใช้ปรับเปลี่ยนได้ตามฤดูกาล แต่ไม่ควรขาดฟักทองและยอดฟักทอง
3. บางตำราอาจต้มเครื่องแกงกะทิและผักให้สุก แล้วใส่ข้าวสุกทีหลัง เพื่อจะได้กะปริมาณข้าวมากน้อยตามต้องการ และไม่ให้ข้าวอืด
4. ปริมาณเครื่องปรุงมากน้อย ควรใช้วิธีการกะปริมาณอาจมากน้อยกว่าสูตรข้างต้น ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้รับประทานและความชอบ